หนุ่มคลั่งยายัวะเมียกินหมูปิ้ง บุกยิงแม่ค้า - ลุงตายคาที่ ภาพระทึกคนหนีตายวุ่น (คลิป)

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กส่วนตัวได้โพสต์ข้อความระบุว่า วันที่ 23 สิงหาคม 2564 เครือข่ายป้องกันอาชญากรรม รับแจ้งมีคนร้ายยิงบุคคลเสียชีวิต เขตพื้นที่หมู่ที่ 3 ตำบลไกรนอก โดยคนร้ายใช้อาวุธปืนสั้น และอาวุธปืนยาวยืงเข้าที่ผู้เสียชีวิต ที่เกิดเหตุพบชาย อายุประมาณ 50-60ปี นอนเสียชีวิต

ใกล้เคียงพบปลอกกระสุน ขนาด 9 มม. ตกอยู่ 12 ปลอก และปลอกประสุนปืนลูกซองอีก 2 ปลอกก พร้อมกันผู้ต้องหา ได้ทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้รับบาดเจ็บ 1 นาย และยิงรถตำรวจ ได้รับความเสียหาย 1 คัน

ร้อยเวร 30 แพทย์เวร และสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจร่วมชันสูตรและส่งศพผ่ากระสุนต่อที่ รพ.พุทธชินราช ขณะนี้จับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดีต่อไป

ทราบชื่อผู้เสียชีวิตต่อมาคือ นายฉลอง พ่วงพี อายุ 67 ปี ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อคือ นายอนุวัตณ์ หอมฉุย อายุ 37 ปี มีศักดิ์เป็นหลานของผู้ตาย

ล่าสุด วันที่ 23 ส.ค. 64 ทีมข่าวได้เดินทางมายังบ้านที่พบผู้ตายถูกยิง หมู่ 3 ต.ไกรนอก อ.กงไกรลาศ จ.พิษณุโลก ลักษณะบ้านไม้ยกสูง ส่วนตรงบริเวณที่ผู้ตายนอนเสียชีวิตเป็นลานบ้าน พบรอยเผาไหม้ปนกับดินที่นำมาถมรอยเลือด

นายณรงค์ สิงสนิท อายุ 53 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุเวลา 13.00 น. ตนได้นั่งที่แคร่ไม้ใต้ถุนบ้านกับลูกชาย ได้ยินเสียงปืนหลายนัดดัง แต่ไมได้เอะใจ เพราะคิดว่าเป็นชาวบ้านยิงปืนไล่นก ภายหลังมีตำรวจมาบอกว่ามีผู้ร้ายพกอาวุธสงครามมาที่ละแวกใกล้บ้านของตน ตนทราบก็ตกใจ และได้ชวนลูกชายขึ้นไปอยู่ที่บนบ้าน ได้เปิดประตูหน้าต่างส่องดูตรงบริเวณประตูบ้าน พบว่ามีคนร้ายไม่สวมใส่เสื้อ สวมกางเกงขาสั้น ถืออาวุธปืนคาดว่าเป็นปืนยาวมา เดินก้มหน้าผ่านใต้ถุนบ้านของตนไป

จากนั้น ตำรวจได้ขอให้คนร้ายมามอบตัว ตนและลูกชายจึงรีบลงมาจากบ้าน วิ่งไปอยู่บ้านอีกหลังของชาวบ้าน ต่อมาทางญาติของคนร้าย ประกอบด้วยพ่อและลุง ได้มาที่บ้านของตน เพื่อเกลี้ยกล่อมคนร้าย ผู้ตายนั้นมีศักดิ์เป็นลุงของคนตาย ได้เดินไปตะโกนชื่อหลาน "เดียว ๆ ออกมา" จากนั้นสักพักตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ต่อมาตำรวจได้รับแจ้งว่าคนร้ายวิ่งไปหลบอยู่บ่อน้ำ ทางพ่อและลุงอีกคนได้เข้าไปควบคุมตัว และขออาวุธปืนได้สำเร็จ ขณะนั้นคนร้ายอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ร้องไห้ ตำรวจได้ควบคุมตัวขึ้นรถ

พอเหตุการณ์สงบ ตนจึงเดินกลับมาที่บ้าน กระทั่งพบว่าลุงของคนร้ายถูกยิงนอนคว่ำหน้า มีเลือดออกศีรษะ ตนเข่าอ่อน ตกใจจึงรีบวิ่งไปบอกตำรวจ ทำให้ทุกคนทราบว่าคนร้ายได้ยิงลุงของตัวเองชีวิต ส่วนตัวไม่ทราบว่าคนร้ายได้ก่อเหตุอะไรมา ถึงถูกตำรวจไล่ยิงแบบนี้ ที่ผ่านมาตนเห็นว่าผู้ตายนั้นรักผู้ก่อเหตุมาก เลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งคนร้ายไปทำงานที่อื่น ตนจึงไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว และก็ไม่ทราบว่าคนร้ายเสพยาเสพติดหรือไม่ อาวุธปืนตนก็ไม่ทราบว่าเป็นของใคร ส่วนผู้ตายเป็นคนดีขยัน และตนก็ไม่ทราบว่าทั้งสองคนมีปัญหาอะไรกันหรือไม่ เหตุการณ์ครั้งนี้ตนถือว่ารุนแรง คงไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้

นางถวิล พ่วงพี อายุ 67 ปี ภรรยาของผู้ตาย เผยว่า ก่อนเกิดเหตุทางตำรวจได้มาหาพ่อแม่ของผู้ก่อเหตุ เพื่อจะให้ไปเกลี้ยกล่อมมอบตัว ทางพ่อของผู้ก่อเหตุยินยอมที่จะไปหาลูกชาย พอสามีตน ผู้เป็นลุง ได้ยินจึงได้เดินทางไปด้วย เพราะกลัวว่าผู้ก่อเหตุจะถูกยิง ด้วยความที่สามีของตนนั้นรักหลานชายมาก และเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก ขณะเดียวกันตนพยายามห้ามปรามไม่ให้สามีไป แต่สามีดื้อ เพราะเป็นห่วงหลานชาย กลัวถูกวิสามัญ

สักพักภายหลังตนได้รับแจ้งว่าสามีถูกยิงเสียชีวิต ยอมรับว่าตกใจ และยังทำใจไม่ได้ ไม่ทราบว่าผู้เป็นพ่อนั้นถูกยิงไปกี่นัด แต่เท่าที่สังเกตถูกยิงหลายนัด ขณะเดียวกันตนไม่ทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าทำไมหลานชายถึงกล้าที่จะยิงสามีของตน อย่างไรก็ตาม ตนก็ไม่ได้ติดใจเอาความ แต่ขอให้หลานชายถูกดำเนิน รับผิดในสิ่งที่ลงมือทำไป ส่วนความสัมพันธ์ของครอบครัวตนและหลานชายนั้น ยังตอบไม่ได้ว่าจะเหมือนเดิมหรือไม่

ทีมข่าวเดินทางมายังรีสอร์ตแห่งหนึ่ง เป็นจุดเริ่มเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด นางพวงแข อายุ 50 ปี พนักงานรีสอร์ต เล่าว่า เมื่อช่างเที่ยงคืนของวันที่ 22 ส.ค.64 ทางผู้ก่อเหตุได้เดินทางมาเปิดห้องนอน ซึ่งมากับเมียและลูกตนก็เปิดห้องให้เช่า สักพักผู้ก่อเหตุได้เดินมาสอบถามว่ามีอะไรให้ทานหรือไม่ ตนก็บอกว่าไม่มี เดี๋ยวพรุ่งนี้ตอนเช้าจะหาข้าวเหนียวหมูปิ้งให้ เพราะดึกแล้ว การสนทนาของตนนั่นพูดจาดี ผู้ก่อเหตุก็ได้เดินทางกลับไป ต่อมาตนได้ยินเสียงว่าผู้ก่อเหตุทะเลาะกับภรรยา

เช้าวันที่ 23 ส.ค.64 เวลา 10.00 น. ภรรยาของผู้ก่อเหตุได้เดินมาหยิบข้าวเหนียงหมูปิ้ง ผู้ก่อเหตุก็ได้ตะโกนด่าว่าจะหยิบมาทำไมเยอะ ทำไมไม่แบ่งให้คนอื่นบ้าง ตนก็บอกว่าไม่เป็นไร สักพักผู้ก่อเหตุได้เช็กเอาต์ออก ขับรถมาจอดที่หน้าป้อมยาม ได้ทะเลาะกับภรรยาของเขา ผู้ก่อเหตุลงมาจากรถกระบะพร้อมกับอาวุธปืนสั้น ตนและแม่ค้า 3 คนรวมตนด้วย ได้รีบวิ่งหนีคนละทิศคนละทาง จากนั้นผู้ก่อเหตุหันไปขัดลำปืน เดินปรี่ไปหาแม่ค้าขายลูกชิ้นอีกคน จนแม่ค้ายกมือไหว้ ก่อนที่เขาจะขับรถออกไป

นางศรีนวล หอมฉุย อายุ 59 ปี แม่ของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนไม่ทราบว่าก่อนเกิดเหตุลูกชายไปก่อเหตุอะไรมาก่อน ภายหลังมีตำรวจมาหาที่บ้านเพื่อให้ไปกล่อมลูกชาย ส่วนเรื่องอะไรนั้นไม่ทราบ ตนไม่ได้ไป จึงให้สามีไปแทน สามีได้เดินทางไปกับผู้ตาย ซึ่งมีศักดิ์เป็นพี่ของสามี และเป็นลุงของลูกชาย ตนมาทราบว่าลูกชายได้ก่อเหตุยิงพี่เขย ยอมว่าตกใจมาก ส่วนสาเหตุนั้นตนไม่ทราบว่าทำไมลูกชายถึงยิงลุงตัวเอง ที่ผ่านมาลูกชายไม่เคยมีปัญหากับพี่เขยเลย ลูกชายยังไปทานข้าวและคลุกคลีกับพี่เขย

ก่อนหน้านี้ลูกชายไปทำงานที่กรุงเทพฯ กับตน ซึ่งตนกับลูกชายนั้นไม่ได้สนิทกัน และช่วง 2-3 เดือน ลูกชายได้เดินทางกลับมาอยู่ที่บ้านเกิด ส่วนตนก็กลับมาอยู่บ้านเหมือนกัน สำหรับลักษณะนิสัยของลูกชายนั้นก็เฉย ๆ ยอมรับว่าเขายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดมานานแล้ว ส่วนอาวุธปืนเป็นของลูกชายเอง คาดว่าน่าจะซื้อมานานแล้วเพื่อป้องกันตัวเอง ทั้งนี้ ตนคงไม่ประกันตัว ให้ลูกชายรับผลกรรมที่กระทำ แต่ให้อภัย ยอมรับว่าลูกชายของตนทำเกินกว่าเหตุ