ตร.ยัน ไม่ได้แกล้ง "วรวิทย์ แพะซ้ำซ้อน" ทำสำนวนตามหลักฐาน ผิดหรือถูก ศาลตัดสิน

จากกรณีกระทรวงยุติธรรมให้ความช่วยเหลือ นายวรวิทย์ สินทองน้อย ผู้ที่ตกเป็นแพะซ้ำซ้อน จากคดีตกเป็น 1 ใน 4 ผู้ต้องหาคดียิงคนตาย ซึ่งศาลฎีกาและมีคำพิพากษายกฟ้อง แต่นายวรวิทย์ กลับ ไม่ได้รับการปล่อยตัวเพราะถูกตำรวจอายัดในคดียาเสพติด แต่ต่อมาพิสูจน์ได้ว่านายวรวิทย์ ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งยาเสพติด  ศาลจังหวัดเดชอุดม พิพากษายกฟ้อง และปล่อยตัวให้ได้รับอิสรภาพเมื่อวานที่ผ่านมา 24 พ.ค.60

ท่ามกลางกระแสข่าวว่า การที่นายวรวิทย์ ถูกดำเนินคดียาเสพติด เพราะมีความขัดแย้งกับ พนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยัน ว่า ไม่เป็นความจริง เพราะตำรวจไม่เคยขัดแย้งกับผู้บริสุทธิ์ จะขัดแย้งกับคนก่อเหตุเท่านั้น

ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นจาการสอบถามกับเจ้าของคดี และตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเล่าว่า คดีนี้ ตำรวจสืบสวน ตรวจสอบพบว่ามีการลักลอบซื้อขายยาเสพติดภายในเรือนจำจ.อุบลราชธานี จนพบว่า นายวรวิทย์คือผู้ต้องหาในคดีนี้ จึงขออายัดตัวไว้ ซึ่งในชั้นพนักงานสอบสวนการทำสำนวนนั้น ไม่มีการกลั่นแกล้งผู้ต้องหาแน่นอน ทำตามพยานหลักฐานที่มีอยู่ จนสรุปสำนวนให้อัยการ และอัยการก็มีความเห็นสั่งฟ้อง และสุดท้ายก็มีการพิสูจน์กันในชั้นศาลว่า นายวรวิทย์ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ส่วนกรณีการทำสำนวนหละหลวม เพราะตรวจสอบพบว่าผู้ต้องขังในเรือนจำมีชื่อวรวิทย์ถึง5 คนนั้น ส่วนนี้ยังไม่ได้ตรวจสอบ และแต่หากพบว่าเป็นการกระทำที่หละหลวม หรือบกพร่องต่อหน้าที่ ก็ต้องถูกดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญา ตามขั้นตอนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนั้น ทางผบ.ตร.สั่งกำชับให้ดูแลและให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย

ด้านนายวรวิทย์  สินทองน้อย ที่หลุดพ้นจากถูกคุมขัง  วันนี้ได้เริ่มสำรวจกิจการ้านท่อไอเสียของครอบครัว เพื่อทำงานต่อหลังจากนี้ โดยนายวรวิทย์กล่าวว่า  วันที่ปล่อยตัวในคดีแรก ตนดีใจที่จะได้ออกไปพบหน้าคนครอบครัวที่คอยให้กำลังใจระหว่างที่ถูกจองจำมานานถึง 6 ปี แต่จู่ๆเหมือนถูกสายฟ้าฟาด เมื่อทราบว่าพนักงานสอบสวน สภ.เดชอุดม ได้ขออายัดตัวในข้อหาค้ายาเสพติดอีก  ตอนนั้นคิดอะไรไม่ออก

  “โดยมีความรู้สึกว่า เมื่อวานเราอยู่จุดที่ต่ำที่สุดของชีวิตแล้ว และวันพรุ่งนี้จะก้าวเดินออกจากจุดที่ต่ำที่สุดขึ้นมาได้ แต่เพียงข้ามคืนเรากลับต้องตกลงไปอยู่ในจุดที่ต่ำที่สุดอีกครั้ง” สำหรับคดีนี้ มีรายงานว่า ตำรวจที่ทำสำนวนคดีนั้น ยศ ร้อยตำรวจโท นายหยึ่ง สังกัด สภ.เดชอุดม จ.อุบลราชธานี เมื่อเกิดคดีดังกล่าวก็ถูกย้ายไปช่วยราชการ ที่สภ.อื่น และปัจจุบัน ได้เลื่อนตำแหน่งเป็น พันตำรวจโท และไม่ได้สังกัดที่สภ.เดชอุดม แล้ว