เมื่อเวลา 08.00 น. ร.ต.อ.ประจักร คำนาครอง สารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองบุรีรัมย์ รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้เรือนชาวบ้านที่บ้านดอนใหญ่ ต.บ้านบัว อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ จึงประสานรถดับเพลิงพื้นที่ใกล้เคียงมาร่วมช่วยดับไฟ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านสองชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้พบไฟกำลังลุกไหม้ชั้นสองซึ่งเป็นไม้เลขที่ 23/1 หมู่ 9 ต.บ้านบัว ไฟกำลังลุกไหม้ชั้นสองอย่างรวดเร็ว รถดับเพลิงจำนวน 6 คัน ใช้เวลาประมาณ 1 ชม.จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้เจ้าของบ้านขนทรัพย์สินออกมาได้เพียงทีวี 1 เครื่อง นอกนั้นถูกไฟไหม้ทรัพย์สินภายในบ้านเสียหายทั้งหมด
นอกจากนี้ ยังพบนายอำนวย ภาคะเวท อายุ 85 ปี เจ้าของบ้านเป็นลมล้มพับ ชาวบ้านได้ช่วยกันปฐมพยาบาล หลังฟื้นขึ้นมานายอำนวยเล่าว่าตนอยู่ด้านล่างกับหลานชาย จู่ๆ เห็นควันไฟปะทุขึ้นอยู่ชั้นสองพยายามเรียกให้คนมาช่วย ก่อนหลานจะคว้าทีวีที่หลานซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อสองวันที่ผ่านมาหนีออกมาได้เครื่องเดียว
ต่อมาได้มีนางนภัสสร ทิพย์ประเสริฐ อายุ 52 ปี เป็นครูสอนโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ได้วิ่งเข้ามาร่ำไห้กอดขาพ่อตัวเองที่นอนพักฟื้นอยู่บนเตียง พร้อมกับกล่าวขอโทษพ่อที่ทำให้ไฟไหม้บ้านวอดทั้งหลัง โดยนางนภัสสรเล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนกู้เงินธนาคารไปปล่อยเงินกู้นอกระบบให้กับเพื่อนครูในโรงเรียนและผอ.อีกหลายโรงเรียน พอช่วงโรคโควิด-19 ระบาด ปรากฏว่าลูกหนี้ต่างไม่ยอมจ่ายหนี้ทำให้ตนขาดสภาพคล่องไม่มีเงินดอกไปส่งธนาคาร
ต่อมาได้มีหนังสือจากธนาคารแจ้งว่าอาจจะมีการฟ้องยึดเอาทรัพย์สินคือบ้านของพ่อเพื่อขายทอดตลาดแล้วเอาไปชำระหนี้ธนาคาร ตนรู้สึกเครียดจึงปรึกษาเพื่อนที่อยู่ต่างประเทศ เพื่อนจึงได้ส่งผ้ายันต์ "ไอ้ไข่” มาให้บูชาบอกว่าจะดีขึ้น วันแรกตนได้เอาไปไว้บนตู้เสื้อผ้าชั้นสอง วันที่สองได้จุดธูปและเทียนตามคำแนะนำของเพื่อนแล้วลงมาทำกับข้าวและซักผ้าด้านล่างลืมไปดับเทียนก่อนจะมีควันไฟขึ้นมาแล้วลุกไหม้ดังกล่าว จึงอยากจะฝากเตือนผู้ที่คิดจะเอาสิ่งศักดิ์มาบูชาให้ระวังเกี่ยวกับธูปและเทียนเพราะอาจจะเกิดความเสียหายเหมือนกับตนอีก อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะทำการสอบสวนหาสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้อีกครั้งโดยยังไม่สรุปสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้และความเสียหายที่เกิดขึ้น
Advertisement