สหรัฐฯ เผย วัคซีนโควิด mRNA ทั้ง ไฟเซอร์ - โมเดอร์นา มีประสิทธิภาพต้านการติดเชื้อลดลง เหลือ 66% เมื่อเจอ โควิดเดลตา แต่ยังลดการป่วยรุนแรงได้มากกว่า 90%
วันที่ 24 ส.ค.64 ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) เผยผลการศึกษา พบประสิทธิภาพของวัคซีน mRNA คือไฟเซอร์ และโมเดอร์นา ลดลงจาก 91% เหลือ 66% หลังเกิดการระบาดของโควิดเดลตา
CDC ได้ทำการเก็บข้อมูลประสิทธิภาพของวัคซีน mRNA ทั้ง 2 ตัวนี้ นับตั้งแต่เริ่มมีการฉีดครั้งแรกในบุคลากรการแพทย์ด่านหน้า โดยมีการให้บุคลลากรการแพทย์ด่านหน้าใน 6 รัฐ ตรวจหาเชื้อโควิด-19 เป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อให้นักวิจัยเก็บข้อมูล วัดผลประสิทธิภาพของวัคซีน
ผลการศึกษา อัตราการติดเชื้อโควิด-19 ในผู้ที่ได้รับวัคซีนและยังไม่ได้รับวัคซีน ตั้งแต่ 14 ธ.ค.63-10 เม.ย.64 พบวัคซีนมีประสิทธิภาพต้านการติดเชื้อที่ 91% แต่ผลการศึกษาในช่วงหลังจากนั้นจนถึง 14 ส.ค.64 พบว่า วัคซีนมีประสิทธิภาพลดลงเหลือเพียง 66% หลังสายพันธุ์เดลตาได้ระบาดจนกลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐฯ ตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค.64 ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดีคณะผู้เขียนรายงานระบุว่า ผลการศึกษานี้อาจมีข้อจำกัดบางประการ รวมถึงประสิทธิภาพของวัคซีนจะลดลงอยู่แล้วเมื่อเวลาผ่านไป อีกทั้งยังเป็นการศึกษาในช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น
แม้ผลการศึกษาดังกล่าวชี้ว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิดมีประสิทธิภาพลดลง แต่การที่วัคซีนยังคงประสิทธิภาพไว้ได้สูงถึง 2 ใน 3 นั้นยังเป็นการเน้นย้ำว่าการฉีดวัคซีนยังคงมีความสำคัญและมีประโยชน์ โดยยังคงประสิทธิภาพในการลดอาการป่วยหนักมากกว่า 90%
ขณะที่ผลการศึกษาอีกฉบับของ CDC ในผู้ป่วยที่นครลอสแอนเจลิส ในช่วง 1 พ.ค.-25 ก.ค.64 พบว่า ผู้ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนจะมีโอกาสติดเชื้อเข้าโรงพยาบาลมากกว่าถึง 29.2 เท่า
ทั้งนี้ผลการศึกษาหลายฉบับ แสดงผลตรงกันว่า วัคซีนจะมีประสิทธิภาพลดลงเมื่อเผชิญกับโควิดสายพันธุ์เดลตา แต่อัตราส่วนประสิทธิภาพที่ลดลงนั้นแตกต่างกันไปตามการศึกษาแต่ละฉบับ
ที่มา - https://www.france24.com/en/live-news/20210824-messenger-rna-covid-vaccines-66-effective-against-delta-us-study ภาพ - AFP
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สหรัฐฯ อนุมัติวัคซีน ไฟเซอร์ เต็มรูปแบบ เอกชนจัดซื้อเองได้
- สหรัฐฯ เตรียมฉีด วัคซีนโควิด เข็ม 3 เริ่มกันยายนนี้ อนามัยโลกย้ำ ยังไม่จำเป็น
- รัฐตอนใต้สหรัฐฯ ป่วยโควิดพุ่ง เหตุ ปชช.ไม่ยอม ฉีดวัคซีน จนหมดอายุหลายหมื่นโดส