ความคืบหน้ากรณี เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 24 ส.ค. 64 ที่ผ่านมา สภ.กันทรลักษ์ รับแจ้งจากโรงพยาบาลกันทรลักษ์ว่า มีเหตุผู้ถูกอาวุธปืนยิง มาเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหตุเกิดที่ อบต.เวียงเหนือ ต.เวียงเหนือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
โดยผู้เสียชีวิตคือ นางลักขณา โททอง อายุ 42 ปี อาชีพรับราชการ ตำแหน่งหัวหน้าสำนักปลัด อบต.เวียงเหนือ มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกด้านขวาเป็นเหตุให้เสียชีวิต
ผู้ก่อเหตุคือ นายประกอบ อินอร่าม ตำแหน่ง นายก อบต.เวียงเหนือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้เสียชีวิตได้เข้ามอบตัว ถูกแจ้งข้อกล่าวหาประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้มีการแจ้งข้อหาเพิ่ม คือ ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
ล่าสุด วันที่ 27 ส.ค. 64 ทีมข่าวเดินทางมาที่ศาลกันทรลักษ์ อ.เมือง จ.ศรีสะเกษ ครอบครัวได้เดินทางมารอยื่นเรื่องการคัดค้านประกันตัว เนื่องจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการแจ้งข้อหาเพิ่ม และมีการส่งเรื่องมาที่ศาล
นายวิชิต สุวจันทร์ อายุ 44 ปี สามีของผู้ตาย เปิดเผยว่า ตำรวจมีการแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ซึ่งทางครอบครัวก็รู้สึกพอใจ แต่สำหรับเรื่องที่ภรรยาของ อบต. เล่าว่า วันที่เกิดเหตุมีการสอนใช้ปืน เพราะผู้ตายอยากจะซื้อปืน ตนไม่เคยได้ยินว่าผู้ตายพูดถึงเรื่องของปืน และผู้ตายไม่เคยบอกว่าอยากจะซื้อปืน ตนมองว่าอีกทั้งด้วยรนิสัยของผู้ตายไม่น่าจะเป็นไปได้ ทั้งนี้ ถ้าเป็นไปได้ ตนก็อยากจะให้ทางผู้ก่อเหตุเข้ามาขอขมา เพราะเรื่องเกิดขึ้นแล้ว
นางผกามาศ โพธิ์ทอง อายุ 37 ปี น้องสาวของผู้ตาย เปิดเผยว่า วันแรกที่มีการจัดงานได้มีพนักงานของ อบต. นำเงินมาช่วยเหลือ 5 หมื่นบาท ตนจึงเข้าใจว่าเป็นเงินช่วยเหลือจากหน่วยงาน กระทั่งมาทราบว่าเป็นเงินช่วยเหลือจากผู้ก่อเหตุ ตนจึงถ่ายรูปและคืนเงินจำนวนนั้นไป เพราะขณะนี้ทางครอบครัวยังไม่พร้อมที่จะรับเงินจากทางคู่กรณี ทั้งนี้ ทางครอบครัวอยากจะเห็นภาพในกล้องวงจรปิดที่หน้าโรงพยาบาลว่า วันที่เกิดเหตุมีคนไปส่งกี่คน และรถที่ไปส่งคือใคร อีกทั้งตนอยากจะให้ทางเจ้าหน้าที่นำกล้องวงจรปิดภายในสำนักออกมาเปิดเผย ส่วนเรื่องของการประกันตัว ทางครอบครัวยังไม่ขอพูดถึง
หากคู่กรณีจะเข้ามาขอขมา ครอบครัวก็ยังให้คำตอบไม่ได้ เพราะยังรู้สึกกลัว เนื่องจากเท่าที่ทราบมาผู้ก่อเหตุค่อนข้างจะเป็นผู้มีอิทธิพล
ทีมข่าวเดินทางไป อบต.เวียงเหนือ ต.เวียงเหนือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้องการคลัง ผู้เห็นเหตุการณ์ จำนวน 3 คน เป็นพนักงานของ อบต. ไม่ประสงค์ที่จะให้สัมภาษณ์ เพราะให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว เบื้องต้นได้ไปกราบศพแล้ว และแสดงตัวว่าเป็นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ และบอกว่ามีอะไรให้โทรหา แต่ทางครอบครัวยังไม่พร้อมที่จะพูดคุย
โดยวันที่เกิดเหตุ กำลังใจนั่งดื่มสังสรรค์มีทั้งหมด 7 คน ทั้งหมดเป็นพนักงาน และมีคนนอกแค่ 1 คน ขณะที่เกิดเหตุ ทุกคนนั่งอยู่ด้วยกันหมด แต่เรื่องเสียงปืนดังกี่นัด หรือการเล่นอาวุธปืนไม่ขอกล่าวถึง อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก และไม่มีใครอยากจะให้เกิด เพราะทั้งผู้ตายและผู้ก่อเหตุก็เป็นหัวหน้าทั้ง 2 คน ไม่มีใครทำใจได้
นางณัฐกฤตา กองพันธ์ อายุ 49 ปี ภรรยาของนายก อบต. เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งว่ามีการแจ้งข้อหาเพิ่ม เพราะทำให้คนตาย บอกให้ตนมาที่ศาล ซึ่งตนก็อยากจะทำเรื่องประกันตัวไปตามขั้นตอนของกฎหมาย เบื้องต้นวงเงิน 6 แสนบาท แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการพูดคุยกัน ศาลยังไม่อนุมัติ ส่วนทางนายประกอบ ผู้ก่อเหตุ ตนไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน เพราะตำรวจนำตัวไป และตั้งแต่เกิดเรื่องจนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่ได้พูดคุยกัน
ทั้งนี้ ตนพยายามเข้าไปช่วยเหลือทางครอบครัวของผู้ตายอย่างเต็มที่ เพราะตนรู้สึกเห็นใจ ผู้ตายก็เคยเป็นลูกน้องเก่าตน ตนก็สนิทกันกับผู้ตาย และเท่าที่ทราบผู้ก่อเหตุกับผู้ตายก็สนิทกัน และหยอกล้อกันดี ตนก็เข้าใจว่าทางครอบครัวผู้ตายยังไม่พร้อมที่จะพูดคุยกับตน ส่วนเรื่องที่ผู้ตายอยากจะซื้อปืน ตนก็ได้ยินมาอีกครั้ง ไม่ได้เห็นกับตา ส่วนนายประกอบ ผู้ก่อเหตุ ยังคงทำใจอยู่ และรู้สึกหดหู่ เพราะไม่เคยก่อเหตุ ยังไม่พร้อมที่จะออกมาพูดคุย แต่ถ้าเป็นไปได้ ตนเชื่อว่าเขาก็อยากจะเข้าไปขอขมาศพ
จากการสอบถาม พ.ต.อ.นรินทร์ บุพตา ผกก.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ให้ข้อมูลว่า เบื้องต้นได้มีการแจ้งข้อหาเพิ่ม คือฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และวันนี้ได้นำตัวส่งศาลกันทรลักษ์ ส่วนเรื่องการประกันตัวทางครอบครัวต้องไปสู้กันชั้นศาลอีกครั้ง สำหรับพฤติการณ์ในการก่อเหตุยังไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะยังอยู่ในสำนวนคดี เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า ตั้งแต่เกิดเรื่องก็มีการรวมรวบพยานหลักฐาน เพื่อสืบหาข้อเท็จจริงมาโดยตลอด และไม่ได้นิ่งนอนใจ