จากคดีดัง ผู้กำกับโจ้ กับ 6 ตำรวจ คลุมถุงหัว นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ หลังจากถูกจับคดียาเสพติดที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ โดย พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ โจ้ ผู้กำกับ สภ.เมืองนครสวรรค์ รับสารภาพว่าใช้ถุงดำคลุมหัวจนตาย เมื่อวันที่ 5 ส.ค. 64 และสั่งให้ผู้ใต้บังคับบัญชาร่วมก่อเหตุ หลังมีคลิปวงจรปิดเผยพฤติกรรมออกมาเป็นนาทีก่อเหตุ ต่อมาเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 64 เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวผู้ต้องหาได้ทั้ง 7 รายแล้วนั้น
กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพแฉวีรกรรม ผกก.โจ้ สมัยที่ยังเป็นสารวัตร สังกัด บก.ปส.4 ซึ่งเจ้าของโพสต์ ระบุเหตุการณ์เมื่อเวลา 08.30 น. ของวันที่ 6 ก.ค. 60 ข้อความระบุว่า "ทำไมมีเซ้นส์ว่าการกระทำมันคล้ายๆตอนน้องชายโดน พอไปย้อนภาพดูชัดเลย ไอ้เ-ี้ยนี่เอง ตอนนั้นเรียกเงิน2ล้านบอกจะลดยาตัดยาออกให้คดีจะได้เบา พอหาเงินให้ไม่ได้ น้องโดนซ้อมหนักมาก โดนตั้งแต่ตอนโดนจับแล้ว มีสื่อทำข่าวแล้วตัดภาพออกถ่ายแค่ตอนจับกุม แต่ตอนน้องชายโดนซ้อมอีก... กับตัดภาพออก ไปขอกล้องวงจรปิดที่ห้างๆก็ไม่ให้#เวรกรรมมีจริง #ผกกโจ้ ปล.น้องชายไม่ได้มียาที่ตัว โดนจ้างไปส่งคน แล้วให้นั่งรอเพื่อเอาเงินแต่โดนบังคับให้ถ่ายรูปชี้ยาที่มันเอามา"
วันที่ 27 ส.ค. 64 น.ส.จ๋า (นามสมมติ) เล่าว่า ตนติดตามดูข่าวผู้กำกับโจ้ตั้งแต่ต้น แล้วก็ไม่เคยรู้มาก่อนว่าตอนที่นายน้ำ น้องชาย โดนจับเมื่อ 4 ปีที่แล้วจะเป็นฝีมือของผู้กำกับโจ้ ซึ่งเมื่อวานนี้มีเพื่อนส่งรูป และสำนวนเก่าที่น้องโดนจับมาให้ดู ปรากฏว่าตำรวจในรูปเป็นผู้กำกับโจ้ที่จับน้องชาย ในวันนั้น
เมื่อวันที่ 6 ก.ค.60 ตุน้องชายถูกเพื่อน 2 คนว่าจ้างให้ขี่รถจักรยานยนต์ไปส่งที่ห้างฯ แถวสะพานใหม่ บางเขน ให้ค่าจ้าง 200 บาท พอไปถึงเพื่อนน้องชายก็ลงไปเอาเงิน แล้วตำรวจ ปส. นำโดยสารวัตรโจ้ก็แสดงตัวจับกุม หลังถูกจับตำรวจชุดดังกล่าวได้พาตัวน้องชายกับเพื่อนมาค้นที่บ้านต่อ ระหว่างค้นบ้านตนก็พยายามถามน้องชายว่าเป็นอะไร ทำไมเหงื่อถึงแตก น้องชายก็พูดแต่ว่า "ผมเจ็บผมไม่ได้ทำ" จากนั้น ตำรวจก็รีบพาน้องชายไปที่โรงพัก แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดประเภทที่ 1 คือยาบ้า จำนวน 20,000 เม็ด
จากนั้นน้องชายโทรมาหาตน บอกว่าตำรวจให้หาเงิน 2 ล้านบาท แล้วจะลดโทษลดจำนวนยาให้ โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา ตนก็บอกน้องชายกลับไปว่าจะหาเงินมาจากที่ไหนตั้งเยอะขนาดนั้น ยังไม่รับปากว่าจะหาได้หรือไม่ ส่วนน้องชายก็ถูกดำเนินคดี และถูกนำตัวส่งศาลในวันที่ 7 ก.ค.60 ก่อนน้องชายจะถูกนำตัวส่งศาล ตนได้ไปเยี่ยม น้องชายก็บอกว่าตำรวจซ้อม เตะ ต่อย และเอาปืนตบ บอกว่าหากหาเงินไม่ได้ ให้เขียนสำนวนด้วยลายมือตัวเองว่ายอมรับสารภาพแล้วให้เขียนตามที่สั่ง ถ้าไม่เขียนจะซ้อมยันเช้า น้องชายได้เปิดบาดแผลรอยเขียวช้ำตามร่างกายให้ดู ตนก็รู้สึกเสียใจ เพราะช่วยอะไรน้องไม่ได้ คดีนี้ทางทนายแนะนำให้น้องชายรับสารภาพ ศาลชั้นต้นตัดสินประหารชีวิต และศาลฏีกาลดโทษเหลือจำคุก 25 ปี ตอนนี้น้องชายต้องใช้ชีวิตอยู่ในคุก 3 ปีกว่าแล้ว
สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าโหดร้ายกับน้องชายมาก เพราะว่าน้องชายไม่ได้จับต้องยาในคดี แต่ต้องมาติดคุกหัวโต ยืนยันน้องชายไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด อย่างไรก็ตาม ครอบครัวคงจะไม่รื้อฟื้นคดีขึ้นมาอีก และเคารพการตัดสินของศาล ที่โพสต์ไปก็จะบอกว่ากระบวนการอุ้มรีดทำร้ายร่างกายของตำรวจมีอยู่จริง ใครทำอะไรไว้ เวรกรรมตามทันในชาตินี้ หลังจากนี้ก็ขอให้ผู้กำกับโจ้ ได้รับผลกรรมเหมือนกับที่ทำไว้กับเหยื่อทุกราย
Advertisement