คุมพ่อโหดขุดศพลูก เมียแฉคลั่งยาฉีดน้ำใส่จนตายก่อนยัดลังฝังดิน ย่าฉะโยนบาปจี้เข้าคุกคู่ผัว (คลิป)

จากกรณีเมื่อเวลา 20.00 น. ของวันที่ 27 ส.ค. 64 พ.ต.อ.ประวิทย์ เอ้งฉ้วน ผกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น รอง ผกก.5 บก.ป., พ.ต.ต.ธีรยุทธ ไทยราช สว.กก.5 บก.ป., พ.ต.ต.มานิตย์ ทองชั่ง สว.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี, พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ เข้าเชิญตัว นายศุภวัฒน์ กลับ อายุ 27 ปี มาสอบสวนปากคำ

หลังได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากนางสายบัว ป่านสีใหม่ อายุ 46 ปี ว่านายศุภวัฒน์ก่อเหตุฆาตกรรมน้องนิวเยียร์ ลูกสาววัย 4 เดือนเสียชีวิต และทำร้ายร่างกายบุตรสาวซึ่งเป็นภรรยาของผู้ร้องทุกข์ เมื่อวันที่ 11 ส.ค. 64 โดยบุตรสาวได้โทรหาขอความช่วยเหลือ และแจ้งว่าถูกสามีทำร้ายร่างกาย ก่อนหน้านั้นได้ทำร้ายร่างกายบุตรสาวคนเล็กจนสลบ และจับกดน้ำจนเสียชีวิต หลังก่อเหตุ นายศุภวัฒน์ ลูกเขย ได้นำศพของหลานคนเล็กศพไปฝังที่สำนักสงฆ์ทุ่งโศก หมู่ 9 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี

วันที่ 28 ส.ค. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ สภ.เวียงสระ จ.สุราษฏร์ธานี พบว่านายศุภวัฒน์ กลับ อายุ 27 ปี ได้ถูกตำรวจชุดสืบสวนคุมตัวเอาไว้เพื่อสอบปากคำ เบื้องต้นตำรวจตั้งข้อหา ทำร้ายร่างกายจนผู้อื่นเป็นเหตุถึงแก่ความตาย และปิดบังซ่อนเร้นอำพรางศพ

น.ส.อ้อม (นามสมมติ) อายุ 21 ปี ภรรยาผู้ก่อเหตุ ถูกตำรวจกันตัวไว้เป็นพยาน เปิดเผยว่า ตัวเองคบหากับนายศุภวัฒน์ หรือ ตั้ม มาประมาณ 5 ปี มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน ชื่อน้องไอเดียร์ 2 ขวบ และน้องนิวเยียร์ 4 เดือน ย้อนกลับไปในวันเกิดเหตุ 11 ส.ค. 64 เวลาประมาณ 10.00 น. ขณะที่นายศุภวัฒน์นอนอยู่ในบ้าน ตนก็ปลุกสามีให้ลุกขึ้นไปทำงาน ปลูกต้นไม้เพื่อขายออนไลน์ แต่นายศุภวัฒน์กลับลุกขึ้นมาขอเงินตน 400 บาท เอาไปซื้อยาบ้า แต่ตนไม่ให้เงิน ทำให้เขาโมโหและตบตีตนจนบอบช้ำ

หลังจากนั้นเขาก็อุ้มน้องนิวเยียร์ 4 เดือน เข้าไปในห้องน้ำ และทุบตี พร้อมใช้สายยางฉีดน้ำใส่หน้าจนลูกหายใจไม่ออก ตนพยายามเข้าไปห้าม แต่เขาบอกว่าถ้าตนเข้าไปห้าม จะฆ่าน้องนิวเยียร์ให้ตาย และจะทำร้ายตนและน้องไอเดียร์ด้วย ทำให้ตนไม่กล้าเข้าไปห้าม ต้องนั่งอยู่ในห้องกับลูกวัย 2 ขวบ สามีทรมานลูกน้อยวัย 4 เดือนอยู่ประมาณ 30 นาที ก็เอาน้องนิวเยียร์กลับมาโยนให้ตนบนเตียงในสภาพสลบ ตนพยายามเรียกสติลูก น้องนิวเยียร์ก็ลืมตาขึ้นมาดู และหลับไปต่อ โดยที่ยังหายใจอยู่ ตนพยายามป้อนนมแต่ลูกก็ไม่ลืมตาขึ้นมากิน ตนจึงจับให้ลูกนอนพัก นั่งดูลูกอยู่ตลอดเวลา แต่ไม่ได้แจ้งโรงพยาบาล เพราะลูกยังหายใจอยู่ กระทั่งเวลา 22.00 น. น้องนิวเยียร์ก็สิ้นใจลักษณะนอนหลัยบไป ตนจึงโทรหานายศุภวัฒน์บอกว่าลูกตายแล้ว เขาก็รู้สึกตกใจกลัว กลับมาตอนประมาณเที่ยงคืน แต่เขาก็ไม่กล้าเข้ามาใกล้ศพลูก

กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 12 ส.ค. 64 ตนและนายศุภวัฒน์ก็นำที่นอนหมอนข้างใส่กล่อง เอาลูกศพลูกใส่กล่อง พาไปยังวัดบ้านส้องเพื่อเอาศพไปฝัง แต่ทางวัดไม่รับ เขาจึงแนะนำให้พาไปสำนักสงฆ์ทุ่งโศก หมู่ที่ 9 ต.บ้านส้อง อ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี พวกตนโกหกพระว่าลูกสาวเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถล้ม พระจึงยอมทำพิธีฝังศพให้

หลังจากทำพิธีฝังศพเสร็จ ตนก็ขี่มอเตอร์ไซค์หนีออกจากบ้านของนายศุภวัฒน์และไปหลบอยู่บ้านเพื่อน ไม่กล้าแจ้งความเพราะกลัวจะมีความผิด สุดท้ายตนก็ตัดสินใจไปบอกความจริงกับแม่ที่ อ.เคียนซา ในวันที่ 17 ส.ค. 64 หลังจากนั้นแม่ของนายศุภวัฒน์ก็มายึดโทรศัพท์ตนไป เพราะตนเคยถ่ายคลิปตอนที่นายศุภวัฒน์ทำร้ายลูกไว้ ส่วนตนก็หลบไปอยู่บ้านญาติที่ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช แต่แม่ของนายศุภวัฒน์ได้ไประรานนางสายบัว แม่ของตน ที่ อ.เคียนซา เพราะต้องการจะนำตัวน้องไอเดียร์กลับไปเลี้ยงดู แต่แม่ของตนไม่ยอมให้ไป เพราะกลัวน้องไอเดียร์จะถูกนายศุภวัฒน์ทุบตีอีก สุดท้ายแม่ของตนก็ตัดสินใจบอกเรื่องทั้งหมดกับญาติที่เป็นตำรวจ และญาติก็แจ้งไปยังทางกองปราบฯ

ทั้งนี้ ตนเคยบอกกับนายศุภวัฒน์แล้วว่า ถ้าลูกเป็นอะไรไปตนจะไม่ให้อภัยเขาเลย แต่เขาก็ยังทำกับลูก หลังเกิดเหตุแม่ของนายศุภวัฒน์ก็ยังมาด่าทอตนและแม่ของตน ยังบอกว่าจะโยนความผิดให้ตน ไม่ให้ลูกชายเขาผิดคนเดียว ทั้งที่ตนไม่เคยทุบตีลูกเลย ทำให้ตนต้องตัดสินแจ้งเรื่องทั้งหมดกับตำรวจ อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าไม่ให้อภัยนายศุภวัฒน์ ขอให้ตำรวจดำเนินเขาให้ถึงที่สุด อยากให้ติดคุก ไม่อยากให้ออกมาอีก ที่ผ่านมาตนยอมให้เขาทุบตีตลอด ญาติพี่น้องเขาก็รับรู้ แต่ไม่มีใครทำอะไรได้

ทึ่ สภ.เวียงสระ จ.สุราษฎร์ธานี หลังจากที่นายศุภวัฒน์ ถูกสอบปากคำเสร็จ ตำรวจก็ได้คุมตัวไปห้องขัง ทีมข่าวพยายามเข้าไปสอบถามถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ ซึ่งนายศุภวัฒน์เปิดเผยสั้น ๆ ว่า ไม่เกี่ยวกับเรื่องรำคาญลูกร้อง และไม่เกี่ยวกับเรื่องโมโหที่ไม่ได้เงินซื้อยาเสพติด ซึ่งหลังจากนั้นตำรวจก็คุมตัวนายศุภวัฒน์เข้าห้องพนักงานสอบสวน

นางแก้ว (นามสมมติ) แม่ของนายศุภวัฒน์ ผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ที่น้องนิวเยียร์หายไป ตนก็พยายามสอบถามนายศุภวัฒน์ ผู้เป็นลูกชายของตนว่าหลานหายไปไหน แต่เขาก็ไม่ยอมบอก จนสุดท้ายลูกชายก็มายอมรับกับตนว่าน้องนิวเยียร์ตายแล้ว แต่ไม่ยอมบอกว่าเอาไปฝังวัดไหน ตนพยายามคาดคั้นจากลูกว่าหลานตายได้อย่างไร แต่ลูกชายอ้างว่าน้องนิวเยียร์ไม่สบาย น.ส.อ้อม ผู้เป็นแม่กดเงินมาแต่ไม่ยอมเอาลูกไปโรงพยาบาล จนสุดท้ายน้องนิวเยียร์ก็เสียชีวิต ลูกชายไม่ได้บอกว่าทำร้ายลูก ตนก็ไม่รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร และวันที่นายศุภวัฒน์รู้ข่าว เพราะ น.ส.อ้อม ถ่ายวิดีโอและส่งไปให้และบอกว่าลูกตายแล้ว แต่เมื่อนายศุภวัฒน์กลับไปที่บ้าน พบว่า น.ส.อ้อม เอาศพลูกใส่ลัง และเตรียมเอาไปฝังแล้ว

เมื่อตนได้ยินลูกชายพูดดังนั้น ตนและญาติก็ออกตามหาวัดในอำเภอเวียงสระว่าลูกชายและน.ส.อ้อม ได้เอาหลานของตนไปฝังไว้ที่ไหน จนเมื่อวันที่ 26 ส.ค. 64 ตนไปเจอกับพระที่สำนักสงฆ์ทุ่งโศก พระก็ยอมเล่าให้ฟังว่าลูกชายและน.ส.อ้อม เอาเด็กมาฝังไว้จริง ตนยอมรับว่ารู้สึกเสียใจ และบอกกับนายศุภวัฒน์ไปว่า "ถ้าลูกและเมีย ร่วมมือกันฝังศพหลานจริง ๆ แม่ก็จะเอาเข้าคุกทั้งสองคนไม่เก็บใครไว้" ซึ่งตนมองว่าลูกชายของตนไม่ได้ผิดเพียงผู้เดียว เพราะคนเป็นเมียก็ร่วมกันทำและรับรู้ทุกอย่าง ตนจึงมองว่าไม่เป็นธรรมที่จะเอาผิดลูกชายตนคนเดียว

ในส่วนที่ น.ส.อ้อม อ้างว่าหนีไปจากลูกชายตั้งแต่วันที่ฝังศพลูกนั้นไม่เป็นความจริง เพราะเขาทั้งคู่ยังอยู่ด้วยกันอีก 1 สัปดาห์ ใช้ชีวิตปกติ กระทั่งทั้งคู่ทะเลาะกันอีก น.ส.อ้อม จึงหนีออกจากบ้านในวันที่ 17 ส.ค. 64