ล่าสุด วันที่ 28 ส.ค. 64 เมื่อเวลา 11.00 น. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส. กทม. พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร และนายจตุรงค์ เสริมสุข สมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วย สจ.นครสวรรค์ และคณะ ในฐานะคนอำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ลงพื้นที่ตรวจสอบกรณี พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ ผู้กำกับโจ้ พร้อมพวก มีการใช้ถุงดำคลุมหัวนายมาวิน จิระพงศ์ ธนะพัฒน์ อายุ 24 ปี จนกระทั่งเสียชีวิต
จากนั้นนายสิระก็ได้ให้นายพีรวัส สมวงศ์ ผู้ช่วย ส.ส. เป็นตัวแทนทดสอบ นั่งย่อตัวอยู่บนพื้นด้านหน้าของนายสิระ ใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ช่วยส.ส. เพราะในการให้สัมภาษณ์ของผู้กำกับโจ้มีคำกล่าวอ้างว่าเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาเห็นหน้า ตนเองก็ต้องทดสอบว่าถุงดำคลุมหัวแล้วจะเห็นหน้าได้จริงหรือไม่ แต่สำหรับการคุมด้วยถุงดำเพื่อไม่ให้เห็นหน้า เพียงแค่สวมลงที่ศีรษะ ก็ไม่สามารถมองเห็นได้ แต่ไม่ควรมีการกระทำที่ใช้เข่ากด หรือบีบรัดคอ
ระหว่างที่นายสิระนำถุงดำ 1 ใบ คลุมที่หัวของผู้ช่วยส.ส. แต่ไม่มีการบีบรัดหรือปิดถุง ใช้วิธีเพียงแค่คลุมลงไปแบบธรรมดา ผู้ช่วยส.ส. บอกว่า "ไม่รู้สึกอะไร หายใจปกติ" เมื่อนายสิระมีการบีบรัดที่คอและรวบถุงคล้ายกับปิดให้มิดชิด นายพีรวัสตอบว่า "หายใจไม่ออก มองไม่เห็นใคร ได้ยินแต่เสียงเท่านั้น เพราะข้างในมืด"
หลังถอดถุงดำออก นายพีรวัส ผู้ช่วย ส.ส. บอกว่า ตอนที่ถูกถุงดำคุมหัวมองไม่เห็น ซึ่งถ้าหากเป็นการคลุมแบบไม่ปิดปลายหรือแบบหลวม ๆ พอหายใจได้แต่ไม่มาก พอรัดแล้วรู้สึกทรมาน แม้จะแค่ไม่กี่วินาทีก็ตาม พร้อมยืนยันว่าถุงดำแค่ 1 ใบ ก็มองไม่เห็นใครแล้ว
จากนั้น นายสิระพิสูจน์นำถุงดำมาคลุมเพิ่ม จาก 1 ใบ เป็น 4 ใบ การสาธิตไม่ว่าจะกี่ใบ นายพีรวัส ผู้ช่วยส.ส.บอกว่า "ไม่ว่าจะถูกคลุมกี่ใบ หรือแม้แต่จะยังไม่มีการบีบรัด ตนเองก็พร้อมที่จะให้ข้อมูลทุกอย่าง เพราะในนั้นมีความมืด และเกิดจากความกลัว"
เวลา 11.15 น. พ.ต.อ.ปรีชา สนิทม่วง ผกก.สภ.ตาคลี เป็นตัวแทนเข้าไปเจรจาจึงทำให้พ่อของนายมาวินอนุญาตให้นายสิระ และตัวแทน 3 คน เข้าไปนั่งพูดคุยในบ้าน และตำรวจ สภ.ตาคลี เดินทางเข้าไปภายในบ้านของพ่อนายมาวินเพื่อมีการพูดคุย และสอบถามในประเด็นสงสัย หลังจากนายสิระใช้เวลาพูดคุยกับประมาณ 20 นาที เดินทางออกมาพร้อมกับพ่อคนตาย เป็นการออกสื่อและให้สัมภาษณ์ครั้งแรก
นายจักร์กฤษณ์ คลั่นดี พ่อคนตาย เปิดเผยสั้น ๆ ว่า "หลังจากตนเองเห็นคลิปแล้วหัวใจแทบแตกสลาย อยากให้สื่อมวลชนเข้าใจด้วย ความเป็นพ่อ ลูกคือดวงใจ ลองท่านมีลูกแล้วจะรู้ว่าความสูญเสียเป็นอย่างไร ขอบคุณครับ" ก่อนจะเดินเข้าไปภายในบ้านทันที
นายสิระ เปิดเผยหลังคุยกับพ่อคนตายว่า ตนเองเข้าไปพูดคุยกับพ่อของนายมาวิน ทราบเหตุผลและความรู้สึกตอนนี้ว่าเงินเท่าไรก็ไม่สามารถแลกชีวิตลูกคืนกลับมาได้ ป็นคำพูดของพ่อผู้ตายที่พูดกับตนเอง ที่สำคัญพ่อของนายมาวินก็เข้าใจมาโดยตลอดว่าตัวของผู้กับกับโจ้มีความอ่อนน้อมถ่อมตน เห็นคลิปแล้วก็รับไม่ได้เช่นเดียวกัน อยากได้รับความเป็นธรรมในครั้งนี้ อก็ยังฝากบอกว่าอยากให้เอาคนผิดไปลงโทษ ไม่อยากให้มีการช่วยเหลือกันก็เพียงพอแล้ว ที่สำคัญในการพูดคุยที่บ้านพ่อของนายมาวินก็ยืนยันว่าไม่มีการรับเงินหรือจ่ายเงิน 5 ล้านบาทตามกระแสเกิดขึ้น
ตนเองเตรียมที่จะเดินทางไปที่โรงพักเมืองนครสวรรค์ เพื่อไปดูรายละเอียดทั้งหมดว่ามีการบันทึกการจับกุมเกิดขึ้นหรือไม่ และถ้าหากอ้างว่าผิดของกลางอยู่ไหน แล้วถ้าหากแฟนของคนตายอยู่ในรถคันเดียวกันกับที่มีของกลาง ทำไมถึงได้รับการปล่อยตัว ทั้งที่เป็นผู้ต้องหา ใช้หลักเกณฑ์อะไร หรือมีการทีครับผลประโยชน์อย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามนายสิระว่า "มีความเหมาะสมหรือไม่ที่มีการสาธิตใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ช่วย ส.ส. โดยเฉพาะมีการสาธิตบริเวณหน้าบ้านของคนตาย ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของคนในบ้าน" นายสิระบอกว่า ตนเองต้องการพิสูจน์ให้สังคมและสื่อเห็นว่าการใช้ถุงดำคลุมศีรษะแบบนี้ เป็นการกระทำที่ทำให้มองไม่เห็นและหายใจไม่ออก แต่ตนเองไม่ได้มีความกังวลว่าจะทำหรือสาธิตที่บริเวณจุดไหน แม้ว่าจะมาสาธิตบริเวณหน้าบ้านของคนตาย แต่ตัวพ่อไม่ได้เห็นการสาธิตคงไม่เป็นไร เพียงแค่เจตนาของตนเองต้องการที่จะให้สังคมรับรู้เท่านั้น
เมื่อเวลา 14.00 น. หลังจากที่นายสิระ เดินทางออกจากบ้านของพ่อนายมาวิน มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนลงพื้นที่เข้าไปสอบปากคำเพิ่มเติมคนในบ้าน เรียกนางสาวใบเฟิร์น แฟนสาวของคนตายสอบปากคำเพิ่มเติม เกี่ยวกับรถที่ใช้ในวันเกิดเหตุ ว่าในรถมีใครโดยสารกี่คน ถูกขอตรวจค้นบริเวณจุดใด อีกทั้งกำลังหาหลักฐานเพิ่มเติมในคดีที่ยังสูญหายอยู่ ถือว่าเป็นหลักฐานสำคัญ เกี่ยวข้องกับมือถือของคนตาย หลังเกิดเรื่องยังไม่มีใครพบ
จากนั้น ญาติของนายมาวินออกมาคลุมรถกะบะโตโยต้า สีขาว หลังจากที่เมื่อวานนี้ได้ขับไปให้กองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จว.นครสวรรค์ดำเนินการตรวจสอบ ให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่มาให้คนในบ้านชี้รถยืนยันหลังจากที่ใช้งานเสร็จแล้วได้มีการคลุมเก็บเอาไว้
เวลา 12.30 น. นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ได้ติดตามความคืบหน้าทางคดีของ ผกก.โจ้ ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ จากนั้นก็ไปสอบถามข้อมูลกับพลตำรวจตรีระพีพงศ์ สุขไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ ใช้เวลาพูดคุยประมาณ 10 นาที
นายสิระ เปิดเผยว่า วันนี้ตัวเองมาที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ เพื่อพบกับพลตำรวจตรีระพีพงศ์ สุขไพบูลย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครสวรรค์ สอบถามความคืบหน้าทางคดี ประเด็นที่ประชาชนเกิดความสงสัย ตำรวจก็ให้คำยืนยันว่าจะไม่ช่วยเหลือผู้ที่กระทำความผิด รวมถึงเรื่องของการสอบสวนทีมแพทย์ที่ลงความเห็นสาเหตุการตายว่ามีการละเว้นหรือช่วยเหลือผู้กระทำความผิดหรือไม่ รวมถึงเรื่องที่กลุ่มผู้ต้องหามีการจับกุมยาเสพติดกับผู้ตายและภรรยา แต่ไม่พบหลักฐานยาเสพติดของกลาง มีการปล่อยตัวภรรยาของผู้ตายทั้งที่ไม่ดำเนินคดีอีกด้วย
นอกจากนี้ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำการสวบสวนทนายเดชา เพราะเคยได้มห้สัมภาษณ์และให้ข้อมูลว่าตำรวจชั้นผู้น้อยคนที่ร้องเรียนมานั้น ได้ร้องเรียนพร้อมนำคลิปในที่เกิดเหตุส่งให้กับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ระดับรอง ผบช.ภ. แล้ว แต่เรื่องดังกล่าวไม่ได้รับการนำเข้าสู่กระบวนการ จึงอยากให้ทนายเดชาเข้ามาให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนว่า ตำรวจชั้นผู้ใหญ่คนดังกล่าวนั้นเป็นใคร หากไม่ให้ข้อมูล ก็ให้มีการดำเนินคดีในข้อหาเอาข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบต่อไป คดีนี้ผู้ต้องหาเป็นถึงผู้กำกับการ ในการสวบสวนผู้ต้องหาคดีต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องใช้ถุงคลุมหัวใคร ตัวเองขอพูดแทนคน จ.นครสวรรค์ว่า ผบ.ตร. ท่านอย่าเอาผู้ต้องหาในคดีเจตนาฆ่ามาทวงบุญคุณกับคนนครสวรรค์