กรณีตำรวจ สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิง 1 นัด ได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณลำตัว บริเวณโรงซ่อมอุปกรณ์รถกอล์ฟ หมู่ที่ 6 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก สนามกอล์ฟของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บทราบชื่อ นายพงษ์เทพ พลอยประสงค์ หรือ เลต อายุ 46 ปี ชาว ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งเสียชีวิตในเวลาต่อมา หลังจากที่ถูกนำตัวส่ง รพ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก
จากการสอบสวน ทราบว่านายเท อาว หรือ แจ้ อายุ 37 ปี สัญชาติเมียนมา เป็นคู่กรณีและยิงนายพงษ์เทพ พร้อมอาวุธปืนลูกซองพกสั้นที่ใช้ยิงผู้ตาย 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงจับกุมตัวพร้อมของกลางดังกล่าวเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
ล่าสุดวันที่ 30 ส.ค.64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ พบเป็นโรงซ่อมอุปกรณ์รถกอล์ฟ หมู่ที่ 6 ต.มะตูม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ตั้งอยู่ด้านหลังของสนามกอล์ฟของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พบว่ามีรถกอล์ฟจอดอยู่ประมาณ 10-15 คัน คาดว่าคงเป็นรถที่รอซ่อม แต่ไม่พบว่ามีคนอยู่แม้แต่คนเดียว
ขณะที่พล.ต.ต.เอกรักษ์ ลิ้มสังกาศ รองผบช.ภ.6 ในฐานะโฆษก ภ.6 เปิดเผยว่า กรณีมีเหตุยิงกันภายในสนามกอล์ฟ ล่าสุดจับกุมผู้ต้องหาเรียบร้อยแล้ว โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 19.40 ของวานนี้ (29 ส.ค.64) โดยมีร.ต.อ.คณพศ อินทุภูติ รองสว.(สอบสวน) สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ได้รับแจ้งเหตุมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บสาหัสที่บริเวณโรงซ่อมอุปกรณ์รถกอล์ฟ
เบื้องต้นจากสอบถามเจ้าหน้าที่สนามกอล์ฟรายหนึ่งทราบว่า ในคืนที่เกิดเหตุนายเท อาว แรงงานพม่า เปิดวิทยุเสียงดังลั่น จนทำให้นายพงษ์เทพ เพื่อนคนงานชาวไทย ซึ่งทำงานอยู่โรงซ่อมอุปกรณ์รถกอล์ฟ เดินไปตักเตือนให้ลดเสียงลง เนื่องจากสร้างความรำคาญ จึงเกิดมีปากเสียงทะเลาะกันอย่างรุนแรง
จากนั้นนายเท อาว หรือ แจ้ ได้ใช้อาวุธปืนลูกซองพกสั้นไทยประดิษฐ์ที่ซ่อนเอาไว้ข้างตัวรถตัดหญ้า ยิงใส่นายพงษ์เทพ จำนวน 1 นัด กระสุนปืนถูกบริเวณลำตัวได้รับบาดเจ็บสาหัส และต่อมาเสียชีวิตที่รพ.พรหมพิราม จึงได้ร่วมกับแพทย์ชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้แจ้งข้อกล่าวหากับนายเท อาว ผู้ต้องหาในข้อหาฆ่าผู้อื่นและมีอาวุธปืนพร้อมของกลางส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ในวันนี้ทางญาติของผู้เสียชีวิต ได้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพที่วัดกรับพวงใต้ หมู่ที่ 4 ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ทีมข่าวจึงเดินทางต่อไปยังวัดดังกล่าว เมื่อไปถึงบรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
น.ส.สุมินตรา ดำมัน” หรือ เมย์ อายุ 21 ปี ลูกเลี้ยงของผู้ตาย บอกว่า ในบ้านพักโรงซ่อมแห่งนี้มีอยู่ 3 ห้อง โดยห้องของผู้ตายจะอยู่ด้านหลัง อาศัยกับภรรยา อายุ 42 ปี ลูกติดภรรยา อายุ 7 ขวบ และหลานชาย อายุ 2 ขวบ ส่วนห้องที่ 2 จะอยู่ชั้น 2 ของอาคารติดกับโรงซ่อม เป็นครอบครัวของตนประกอบด้วย ส่วนห้องที่ 3 จะอยู่ชั้น 1 ของอาคารติดกับโรงซ่อม เป็นห้องของนายเท อาว ผู้ก่อเหตุ อาศัยอยู่คนเดียว และเป็นคนพิการขาทั้ง 2 ข้างลีบ เนื่องจากปี 2559 เกิดอุบัติเหตุตกต้นไม้
ความจริงแล้วทั้ง 2 คนรู้จักกันมากว่า 7-8 ปี แต่ดูจากท่าทางแล้วไม่น่าจะเป็นเพื่อนกัน เพราะแม้ว่าจะพักอาศัยอยู่ในบ้านพักของโรงซ่อมรถที่เดียวกัน แต่ก็อยู่คนละห้อง ทั้งคู่ก็มักจะมีปากเสียง ทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่บ่อยครั้ง แต่ไม่เคยใช้ความรุนแรง ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องงานซ่อม เพราะทั้งคู่ต้องใช้พื้นที่เดียวกัน ใช้อุปกรณ์ซ่อมชิ้นเดียว
แต่ในคืนที่เกิดเหตุ เวลาประมาณ 19.30 น. ในขณะที่นายเท อาว นั่งอยู่บนรถตัดหญ้าและเปิดเพลงส่งเสียงดัง ทำให้นายพงษ์เทพ ซึ่งกำลังนั่งตัดเหล็กอยู่ด้านหน้ารถรู้สึกไม่พอใจ เพราะหลานวัย 2 ขวบกำลังนอนหลับ จึงเดินไปบอกให้ลดเสียงลง หลังจากนั้นแฟนของตนก็เดินไปบอกนายเท อาวเวลาผ่านประมาณ 2-3 นาที ตนที่กำลังทำกับข้าวอยู่หลังบ้านก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จึงรีบวิ่งออกมาดูปรากฎว่าภาพที่เห็น พ่อเลี้ยงถูกยิงนอนแน่นิ่งไปแล้ว เลือดออกปาก แต่ตายังเปิดอยู่ เหมือนอยากจะสื่อสารอะไรสักอย่าง แต่พูดไม่ได้
ทั้งนี้ ตนคาดว่านายเท อาว ที่นั่งอยู่บนรถตัดหญ้า เกิดอารมณ์ไม่พอใจ จึงควักอาวุธปืนลูกซองพกสั้นที่เหน็บไว้ข้างตัวจ่อยิง แต่ยิงทั้งหมด 3 ครั้ง เพราะ 2 ครั้งแรกกระสุนด้านยิงไม่ออก กระทั่งครั้งที่ 3 ในระยะประมาณ 6 เมตร และกระสุนเป็นลูกปราย ทำให้ผู้ตายมีบาดแผลทั้งหมด 5 จุด ได้แก่ หน้าอกซ้าย 2 แผล, หน้าท้อง 1 แผล, ไหล่ซ้าย 1 แผล และใต้รักแร้ซ้ายอีก 1 แผล จนได้รับบาดเจ็บสาหัสและถึงเสียชีวิตในเวลาต่อมา
อย่างไรก็ตาม นายเท อาว ได้นั่งรอมอบตัวอยู่บนรถ ไม่พูดอะไร ซึ่งคนบริเวณนั้นพยายเดินเข้าไปบอกให้วางปืน แต่เขาตอบกลับมาว่า “อย่ายุ่ง เดี๋ยวให้ตำรวจมาคุย” ทั้งนี้ ตนพอจะรู้มาบ้างว่าผู้ก่อเหตุมีปืนไว้ครอบครอง แต่ไม่เคยเห็นและไม่รู้ว่าเอามาจากไหน