จากกรณีเมื่อวันที่ 8 ต.ค.61 เจ้าหน้าที่ หน่วยกู้ชีพ-กู้ภัย มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตประจำพื้นที่ ต.กะทู้ อ.กะทู้ ได้รับการประสานจาก สภ.กะทู้ จ.ภูเก็ตว่า เกิดอุบัติเหตุรถเก๋งเฉี่ยวจักรยานยนต์บริเวณป้ายป่าตองซิตี้ ทางขึ้นเขาป่าตอง ถ.วิชิตสงคราม ต.กะทู้ อ.กะทู้ ทำให้รถเก๋งเสียหลักพุ่งตกลงไปในเหวลึก มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายในรถ จึงนำกำลังอาสาสมัครกุศลธรรมทีมและสายตรวจ สภ.กะทู้รุดไปตรวจสอบ
วันที่ 9 ต.ค. 61 ผู้สื่อข่าวอมรินทร์ ทีวี รายงานว่า ที่เกิดเหตุเป็นทางขึ้นเขาที่มีความลาดชันสูง บริเวณริมทางเป็นเหวลึก พบรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้าวีออส สีขาว ทะเบียน กต 3881 กระบี่ ตกอยู่ลึกจากถนนลงไปราว 50 เมตร จากนั้นหน่วยกู้ภัยได้โรยตัวลงไป เพื่อนำตัวคนขับรถที่สลบอยู่ภายในรถ ทราบชื่อคือ นายบัญชา ใจจันทร์ อายุ 40 ปี เบื้องต้นไม่รู้สึกตัว แต่ยังคงหายใจอยู่ จึงนำส่ง รพ.ป่าตองเป็นการด่วน ส่วนคนขี่รถ จยย.ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หน่วยกู้ชีพนำส่ง รพ.ป่าตองเช่นกัน โดยนายบัญชาก่อเหตุใช้ครกตีภรรยาจนเสียชีวิต ก่อนที่จะหลบหนีจนรถตกเหวดังกล่าว
ซึ่งจุดที่ผู้ก่อเหตุฆ่าภรรยาเป็นห้องเช่าชั้นเดียว ภายในห้องพบศพหญิงสาวนอนจมแน่นิ่งอยู่บนฟูก สภาพศพบริเวณศีรษะแตกเลือดอาบ ทราบชื่อคือ น.ส.วาสนา ดอหล้า อายุ 31 ปี ภายในห้องไม่พบการรื้อค้นทรัพย์สิน มีเพียงร่องรอยการต่อสู้ จากการตรวจสอบพบกระดาษโน้ตเขียนด้วยลายมือระบุข้อความโดยสังเขปถึงสาเหตุที่ลงมือฆ่า เพราะผู้ตาย(ภรรยา)ไปมีชายอื่น และใช้โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่องทับกระดาษดังกล่าวไว้
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กะทู้ ภายใต้การอำนวยการของพ.ต.อ.จักรวรรดิ บุญทวีกุลสวัสดิ์ ผกก.สภ.กะทู้ นำโดย พ.ต.ท.เฉลิมชัย เหิรสวัสดิ์ รอง ผกก.สส.สภ.กะทู้ พ.ต.ท.จรณธร ดนยานฤทธิ์ สว.สส.สภ.กะทู้ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.กะทู้ ได้ร่วมกันควบคุมตัว นายบัญชา ใจจันทร์ อายุ 42 ปี ฐานความผิด “ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา” นำตัวไปสอบสวนที่สภ.กะทู้ ขณะที่ในมือยังถือครกอยู่ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญ
ซึ่งจากการสอบสวน นายบัญชารับสารภาพว่ากระทำจริง เนื่องจากโมโหที่ผู้ตาย ซึ่งคบหาและอยู่กินมาประมาณ 3 - 4 ปี คิดจะแยกทางกัน ซึ่งพนักงานสอบสวนเร่งสรุปสำนวนก่อน แจ้งข้อกล่าวหาแก่นายบัญชา และส่งเข้าห้องขังเตรียมนำส่งฟ้องศาลฯ ตามขั้นตอนต่อไป
นายกอบชัย ผู้เช่าอยู่ติดกับห้องเกิดเหตุ เล่าว่า รู้จักกับนายบัญชามาประมาณ 1 ปีกว่า โดยทั้งนายบัญชาและภรรยาทำงานเป็นพนักงานอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลป่าตอง ทั้งสองเป็นคนนิสัยดี ทักทายกันทุกวัน นายบัญชาเป็นคนสุภาพ แต่ค่อนข้างเงียบ ไม่ค่อยพูด ก่อนหน้าเกิดเหตุไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกัน ช่วงที่เกิดเหตุนั้นตนเองก็ทำงานตัดไม้อยู่หน้าบ้าน ก็ไม่มีเสียงทะเลาะกันแต่อย่างใด ก่อนที่ตนจะเห็นนายบัญชาขับรถออกไป ซึ่งก็ไม่ได้ทักทาย ก่อนจะมีเพื่อนบ้านอีกหลังไปเรียก น.ส.วาสนา แต่ไม่มีเสียงตอบ ตนเองจึงเข้าไปเปิดไฟดูก่อนพบว่าเสียชีวิตแล้วจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ส่วนเรื่องที่มีการเขียนโน้ตทิ้งไว้ว่านอกใจมีคนอื่นนั้น ตนคิดว่าเป็นปัญหาของคนสองคน ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบเรื่อง แต่วันนี้หลังเกิดเหตุตนเองกับภรรยาก็ตัดสินใจอยู่ต่อ ไม่กลัวอะไร ถึงแม้เพื่อนบ้านคนอื่น ๆ จะออกไปนอนที่อื่นกันชั่วคราว