โผล่อีก! ชายหัวเกรียนอ้าง ปปส.บุกจับยา เจ้าของบ้านโวยเงินหาย เหยื่อแฉโดนถุงคลุม (คลิป)

5 ก.ย. 64

กรณีภาพจากกล้องวงจรปิด ที่สามารถบักทึกเหตุการณ์ ชายฉกรรจ์ จำนวน 7-8 คน คล้ายกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่องแบบ พร้อมอาวุธปืนครบมือ กำลังตรวจค้นภายในบ้านหัลงหนึ่ง พร้อมออกคำสั่งให้คนในบ้านนั่งลงและอย่าขัดขืนเด็ดขาด จากนั้นได้ตะโกนถามหาคนชื่อ "ท็อป" หรือนายเกียรติศักดิ์ ก่อนกลุ่มชายฉกรรจ์ จะกรูกันขึ้นไปบนชั้น 2 ของบ้านพัก พร้อมกับใช้กรรไกร งัดประตูเข้าไปข้างใน ซึ่งมีนายท็อป กำลังนั่งทำงานอยู่ และมีเสียงเอะอะโวยวายคล้ายถูกทำร้าย

804950

กระทั่งนายบุญยืน ซึ่งเป็นพ่อของนายท็อป ต้องวิ่งขึ้นไปดูด้วยความเป็นห่วงลุกชาย แต่ปรากฏว่าถูกชายฉกรรจ์ทั้งหมดช่วยกันผลักออกนอกห้อง และมีความพยายามจะปิดประตู แต่นายบุญยืน ไม่ยอมถอยออกมา

ต่อมาภาพจากกล้องวงจรปิด สามารถบันทึกภาพชายฉกรรจ์เดินถืออาวุธคล้ายปืนยาวออกมาจากด้านในห้องนายท็อป และยังพบชายฉกรรจ์สวมเสื้อยืดสีขาว ใช้มือกำสิ่งของบางอย่างที่มีลักษณะเป็นกระดาษคล้ายธนบัตรปึกใหญ่ แอบยัดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง จากนั้นก็ทำทีเป็นเดินวนไปมา

692700

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังดังกล่าว หมู่ที่ 10 บ้านหลุง ต.บ้านชวน อ.บำเหน็จณรงค์ จ.ชัยภูมิ พบกับนายบุญยืน กลิ่นศรีสุข อายุ 59 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน และเป็นพ่อของนายท็อป กล่าวยอมรับว่าในวันเกิดเหตุรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก จู่ ๆ ก็มีชายฉกรรจ์วิ่งเข้ามาในบ้าน จำนวน 7-8 คน จากนั้นก็สั่งให้ตนและภรรยานั่งลงและอย่าขัดขืน พร้อมอ้างว่าเป็นตำรวจ ปส. ก่อนจะวิ่งขึ้นไปบนบ้านชั้น 2 ที่มีนายท็อป ลูกชายตนกำลังทำงานอยู่ ตนรู้สึกห่วงความปลอดภัยลูก จึงวิ่งตามขึ้นไปดู พบว่าลูกชายกำลังถูกทำร้ายร่างกาย ตนทนไม่ไหวจึงพยายามที่จะเข้าไปช่วย แต่ชายฉกรรจ์ที่อ้างว่าเป็นตำรวจ ไม่ยอมพร้อมกับช่วยกันผลักตนออกมา หลังจากนั้นก็ได้นำตัวลูกชายของตนออกไป

571317

ขณะนั้นตนไม่ทราบว่าเป็นตำรวจจริงหรือไม่ จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.บำเหน็จณรงค์ พร้อมกับนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปประกอบเป็นหลักฐานในการแจ้งความด้วย ต่อมาทราบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนจากจังหวัดชัยภูมิ จากนั้นตนได้ติดตามไปที่กองกับการสืบสวนสอบสวนจังหวัดชัยภูมิ เพื่อขอทราบความเป็นอยู่ของลูกชาย ซึ่งต่อมาทราบว่าลูกชายได้กระทำความผิดจริง โดยการตรวจสารเสพติดพบว่าเป็นสีม่วง และถูกดำเนินคดีตามขั้นตอน

716634

เมื่อตนกลับมาถึงบ้าน ภรรยาแจ้งว่ามีทรัพย์สินสูญหายไป เงินสดจำนวน 32,460 บาท โดยเงินสดถูกแบ่งออกไปเก็บแยกไว้สองส่วน ส่วนที่หนึ่งจำนวน 13,460 บาท เก็บไว้ในกระเป๋าสีเหลือง และอีกจำนวน 19,000 บาท ถูกเก็บไว้ในกระเป๋าสีเทา จากนั้นตนและลูกชายได้เปิดกล้องวงจรปิดดู พบว่ากระเป๋าสีเทาที่มีสายสะพาย เจ้าหน้าที่ตำรวจนายหนึ่งถือติดมือไปด้วย ส่วนกระเป๋าอีกสีเหลืองอีกใบ ยังคงวางทิ้งไว้ที่โต๊ะทำงานเหมือนเดิม ขณะเดียวกันพบภาพอีกภาพที่ตำรวจสวมเสื้อสีขาวกำลังกำสิ่งของบางอย่างคล้ายธนบัตร แอบยัดใส่กระเป๋ากางเกงด้วย ในวันต่อมาตนได้ไปติดตามทวงถาม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คืนเงินกลับมาให้จำนวน 13,460 บาท

อย่างไรก็ตาม เงินจำนวนทั้งหมดนั้นเป็นเงินเก็บบางส่วน และเงินจากการขายวัว 2 ตัว ซึ่งจะเก็บไว้ใช้จ่ายในครอบครัว ตนเชื่อว่าเงินจำนวนที่หายไปนั้น จะต้องมีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดที่เข้ามาทำการจับกุมในวันนั้น มีส่วนรู้เห็นอย่างแน่นอน และตนมองว่าตนและครอบครัวไม่ได้รับความเป็นธรรมจึงเข้าแจ้งความกับ สภ.บำเหน็จณรงค์ จนเวลาล่วงเลยไปนานกว่า 6 เดือนคดีไม่มีความคืบหน้า ตนจึงให้ลูกชายโพสต์ลงในเพจส่วนตัว เพื่อขอควมเป็นธรรม และจะขอดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม