สาวแสบลวงดูดเงินหนุ่มพิการ 4 ปี ถูกจับได้ด่า "โง่เอง" แม่เศร้าลูกเคลิ้มแอบหนีออกบ้าน (คลิป)

จากกรณี นายอนาวิน บุญเงิน หรือ โด้ อายุ 22 ปี หนุ่มพิการทางสมอง ชาว จ.บุรีรัมย์ เล่นไลน์เจอสาวสวย ถูกหลอกโอนเงินให้ครั้งละ 300-500 บาท เกือบทุกวัน โดยขอเงินแม่และเพื่อนบ้าน ช่วยโอนให้นาน 4 ปี หลังจากแม่รู้เอาโทรศัพท์คุยแทน บอกฝ่ายหญิงว่าไม่ต้องขอเงินอีก ส่วนฝ่ายสาวบอกว่า "จบกัน" เพราะโง่เอง เจ้าตัวรู้เรื่องเขียนจดหมายลาหนีออกจากบ้าน กระทั่งพลเมืองดีแจ้งเจอที่ จ.นครราชสีมา ขณะเดินเท้ามุ่งหน้าจะไปหาสาวที่ จ.เพชรบูรณ์ จึงติดตามนำตัวกลับโดยไม่ได้รับอันตราย

วันที่ 6 ก.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์เดินทางไปยังบ้านของหนุ่มพิการทางสมอง หมู่ 2 ต.ดงอีจาน อ.โนนสุวรรณ จ.บุรีรัมย์ นางอรอนงค์ บุญเงิน อายุ 50 ปี แม่ของชายพิการสมอง เผยว่า ลูกชายพิการสมองเพราะเคยประสบอุบัติเหตุรถซาเล้งคว่ำ เมื่อปี 2542 ตอนที่ลูกชายอายุได้เพียง 4 เดือน จนกระโหลกสมอง ท้ายทอยร้าว ทำให้กลายเป็นเด็กมีความผิดปกติด้านสมองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เขียนหนังสือได้ แต่จะมีอาการเบลออยู่ตลอดเวลา พูดไม่ค่อยชัด ครอบครัวก็เลี้ยงดูอย่างดี แต่ละวันจะให้เงินติดตัวไว้ซื้อของที่อยากได้ครั้งละ 500 บาท

เมื่อ 4 ปีที่ผ่านมา ลูกชายได้เล่นไลน์ทางโทรศัพท์มือถือ แล้วก็เริ่มมาขอเงินตนครั้งละ 300-500 บาทเป็นประจำทุกวัน แต่ตนก็ไม่ได้เอะใจ เพราะต้องการให้ลูกสบายใจ อยากได้อะไรก็ พยายามจะซื้อให้ กระทั่งช่วงเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ลูกติดเล่นไลน์มากจนผิดสังเกต ตนจึงแอบเข้าไปดูในโทรศัพท์ลูก พบว่าลูกชายได้คุยกับหญิงสาวรายหนึ่ง ที่ใช้ชื่อว่า กนกวรรณ หรือชื่อเล่น น้องหญิง อายุ 18 ปี อาศัยอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งจากการสอบถามลูกชายทราบว่าทั้ง 2 ฝ่ายไม่เคยเห็นหน้ากัน ไม่เคยเจอ นอกจากจะเห็นกันเพียงผ่านในรูปถ่ายเท่านั้น

อีกทั้งมาทราบในภายหลังว่าฝ่ายหญิงมักจะขอให้ลูกชายโอนเงินไปให้เป็นประจำ ตั้งแต่หลักร้อยบาท ถึงหลักพันบาทมานานเกือบ 4 ปี โดยลูกชายจะใช้วิธีการคือมาขอเงินตนและไปแอบโอนเอง หรือขอร้องให้เพื่อนบ้านช่วยโอนเงินให้ เพื่อที่จะไม่ให้ตนรู้เรื่อง หลังทราบเรื่องตนจึงทักไปหาฝ่ายหญิง พร้อมต่อว่าเพราะตนไม่อยากให้มาขอเงินลูกชายแบบนี้อีก ซึ่งฝ่ายหญิงก็รับทราบและบอกว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับลูกชายตน ทำให้ลูกชายของตนที่ทราบเรื่องน้อยใจ กักตัวอยู่ในห้อง ไม่ยอมออกไปไหน โดยอ้างว่าไม่มีกำลังใจ

กระทั่ง ล่าสุดวันที่ 2 ก.ย. 64 หญิงรายดังกล่าวที่เลิกติดต่อไป ติดต่อกลับมาหาลูกชายของตนอีกครั้ง แต่ตนจับได้เลยบอกให้ลูกชายเลิกยุ่ง ทำให้ลูกชายเกิดความไม่สบายใจ วันที่ 3 ก.ย. 64 ช่วง 20.00 น. หลังคนในบ้านเข้าห้องนอน ลูกชายได้เขียนจดหมายลาครอบครัวไว้ว่า "ลาก่อน ผมไม่อยากอยู่บ้าน ใครคิดตามหาผมจะไม่เป็นลูกอีกต่อไป จะไปไหนก็เรื่องของผม อย่าคิดตามมา ลาก่อน" ก่อนปีนหน้าต่างห้องนอน และเดินเท้าออกจากบ้านหายไป

จนช่วงเช้า วันที่ 4 ก.ย. คนในบ้านมาทราบข่าวจึงออกตามหาแต่ก็ไม่พบ จึงประสานให้กู้ภัยช่วยตามหาตัว พร้อมไลฟ์อีกแรง เพราะเกรงว่าลูกชายที่สมองไม่ปกติจะได้รับอันตราย กระทั่งมีพลเมืองดีประสานมายังกู้ภัยว่าพบเห็นลูกชายเดินเท้าอยู่บริเวณทางไปสวนสัตว์ จ.นครราชสีมา ห่างจากบ้านประมาณ 70 กม. จึงเดินทางไปรับตัวกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย

ทั้งนี้ ในฐานะคนเป็นแม่ก็รู้สึกดีใจที่ลูกชายปลอดภัย และไม่ได้รับอันตรายขณะเดินทาง จากการสอบถามลูกชายทราบว่า ลูกชายมีจุดประสงค์ต้องการจะเดินเท้าไปยัง จ.เพชรบูรณ์ เพื่อตามหาผู้หญิงดังกล่าว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากฝากถึงผู้หญิงดังกล่าว ให้เลิกพฤติกรรมลักษณะนี้ เนื่องจากลูกชายตนสมองไม่เหมือนคนอื่น อย่าไปทำพฤติกรรมในลักษณะนี้กับใครอีก เนื่องจากเป็นการสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้อื่น

ด้านนายอนาวิน หรือ โด้ อายุ 22 ปี ชายพิการสมอง เปิดเผยว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่ตนตัดสินใจหนีออกจากบ้าน เป็นเพราะตนรู้สึกไม่สบายใจ ที่แม่ของตนสั่งห้ามให้เลิกติดต่อกับหญิงสาวที่ตนรู้จักผ่านไลน์ นานกว่า 4 ปี ตนตัดสินใจเดินออกจากบ้านเพียงเพราะอยากจะไปเห็นหน้าหญิงสาวรายนี้จริง ๆ สักครั้ง ซึ่งความเป็นจริงแล้วตนก็ไม่รู้ที่อยู่ของหญิงสาวรายดังกล่าว รู้เพียงแค่ว่า อยู่ จ.เพชรบูรณ์ ตนจึงมีความคิดอยากจะไปเดินตามหาจนกว่าจะพบ โดยก่อนออกจากบ้านตนได้เขียนจดหมายลาคนในครอบครัวไว้แล้ว ซึ่งก็ไม่คิดว่าจะมีใครออกตามหา

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนอยากขอโทษแม่ ที่สร้างปัญหาและทำให้แม่รวมไปถึงคนในครอบครัวเกิดความเป็นห่วง เดือดร้อนถึงขั้นต้องวุ่นวายช่วยกันออกตามหาตน ตนสัญญาว่า จะเลิกทำพฤติกรรมดังกล่าว และจะเลิกยุ่งเกี่ยวหรือติดต่อกับผู้หญิงรายนี้อีก พร้อมกับสัญญาว่าตนจะเป็นคนดีของพ่อแม่ เพื่อพ่อแม่จะได้ไม่ต้องหนักใจ สุดท้ายนี้ตนอยากบอกสังคมว่าที่ทำไปเป็นเพราะตนรักผู้หญิงรายดังกล่าวมาก แต่ตอนนี้ตัดสินใจแล้วว่าจะเลิกรัก และอยากบอกกับผู้หญิงรายดังกล่าวว่าอย่าไปทำในลักษณะนี้กับใครอีก จะได้ไม่ต้องมีใครมาเสียใจเหมือนกับตน