เมื่อวันที่ 7 ก.ย.64 พระมหาเทวีเจ้าแห่งเมืองทิพย์ และเจ้านางอนัญทิพย์ ได้เดินทางมาถวายอาหารเพล และร่วมสนทนากับพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ เพราะก่อนหน้านี้พระมหาไพลวัลย์ ยอมรับว่าเป็นหนึ่งในเยาวรุ่น (วัยรุ่น) ที่เป็นแฟนคลับของพระมหาเทวีเจ้า และติดตามมานานแล้ว พร้อมทั้งอยากจะไลฟ์สดพูดคุยด้วย
กระทั่งแฟนเพจเฟซบุ๊ก veen ไลฟ์สดขณะที่พระมหาเทวีเจ้าแห่งเมืองทิพย์ และเจ้านางอนัญทิพย์ ได้เดินทางมาถวายอาหารเพล และร่วมสนทนากับพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ เสร็จเรียบร้อยแล้วนั้น
ทีมข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับ "บุหงาวลัย คงขวัญ" หรือ พระมหาเทวีเจ้าแห่งเมืองทิพย์ เน็ตไอดอล กล่าวว่า ในวันนี้ (7 ก.ย.64) ตนได้มีโอกาสไปถวายอาหารเพลแด่พระมหาไพรวัลย์ เพราะตนทราบว่าพระมหาไพรวัลย์ เป็นแฟนคลับตั้งแต่อยู่ที่เมืองทิพย์แล้ว วันนี้จึงได้เดินทางทำเมนูต้มกะทิไก่ใส่ข่า ผัดสะตอกับกุ้งสด และไข่เจียว พร้อมด้วยขนมหวานสลิ่มมาถวายเพล ซึ่งทั้งหมดเป็นเมนูเด็ดของเมืองทิพย์
จากการสนทนากับพระมหาไพรวัลย์ ตนรู้สึกดีใจและได้คำสอนที่ดีมาก ๆ ทำให้มีแรงบันดาลใจในการทำงานต่อไป พร้อมทั้งให้รักษาศีล และคุณงามความดี นอกจากนี้ พระมหาไพรวัลย์ ยังมีคำคมสอนใจคอยเตือนเรื่องการใช้ชีวิตอย่าประมาท ส่วนที่พระมหาไพรวัลย์ ได้ใช้ภาษาเมืองทิพย์นั้น ทำให้รู้สึกว่าเป็นความภาคภูมิใจ กระแสของเรายังมีความต่อเนื่อง ซึ่งพระมหาไพรวัลย์ นำไปใช้ในทางที่ดี และนำไปสอนเยาวรุ่น (วัยรุ่น) คนรุ่นใหม่ จากที่เครียดเกี่ยวกับเศรษฐกิจ และการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้มีเสียงหัวเราะคลายเครียดได้
สำหรับตนมองว่าการที่พระมหาไพรวัลย์ ไลฟ์สดสอนธรรมะ เป็นการใช้คำพูดที่เข้าใจง่าย ไม่ได้เครียด กรณีที่หลายคนมองว่าตนไม่สำรวมนั้น ตนมองว่าการสำรวมอยู่ที่กิริยามารยาทและการแต่งกาย ซึ่งหากตนพูดคุยจริงจังกับพระมหาไพรวัลย์ อาจจะทำให้เครียด การที่ตนไปถวายอาหารเพลและไลฟ์สด ต้องการสร้างเสียงหัวเราะ นอกจากนี้ ไม่ได้แสดงกิริยามารยาทที่ก้าวร้าวแต่อย่างใด สำหรับหลายคนที่มาแสดงความคิดเห็นด่าทอตนนั้น ตนก็ไม่ได้โกรธ เพราะไม่ใช่สภาพจริงของเรา
ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนบางกลุ่มตำหนิพระมหาไพรวัลย์ ในเรื่องของการปฏิบัติไม่เหมาะสม ในมุมมองของตนมองว่า ภายหลังจากที่ได้พบเจอพระมหาไพรวัลย์ก็สำรวม แต่ว่าในเชิงพระพุทธศาสนา ถ้าเราเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปในทางที่เคร่งครัด จะทำให้ประชาชนรู้สึกเบื่อหน่าย แต่หากมีความสนุกสนาน จะทำให้คนอยากเข้ามามีส่วนร่วมและรับฟังธรรมะ
นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรือ พุทธะอิสระ ผู้ก่อตั้งวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม ได้โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ดังต่อไปนี้
ถาม : ท่านรู้สึกยังไงกับเฟซบุ๊กไลฟ์ ของมหา 2 รูปที่แสดงธรรม ออกมาเล่นตลกให้คนดู?
ตอบ : พฤติกรรมส่อถึงตัวตนของผู้กระทำ ผู้มีปัญญา มองแล้ว เห็นแล้ว รู้แล้ว ก็พอเข้าใจได้ว่า พระธรรมวินัยนี้คงจะไปหวังอะไรกับคนเก้อยาก
ถาม : ดราม่าที่เกิดขึ้นในกรณีเฟซบุ๊กไลฟ์ของมหาทั้ง 2 นี้ ท่านมองอย่างไร?
ตอบ : ก็มหาออกมาพูดเองไม่ใช่หรือว่าเขาโนสน โนแคร์ เพราะเขามีมวลชนสนับสนุนเขาเป็นแสน ทำให้เขามีตัวตนดังที่เห็น เมื่อเขาเห็นจำนวนมวลชนยังสนับสนุนเขาจำนวนมากเสียขนาดนี้ ใยเขาต้องมาสนใจพระธรรมวินัย จารีตประเพณี และกEเถรสมาคมอีกเล่า นั้นก็คงเป็นเพราะเขายึดจำนวนมวลชนเป็นหลักนั่นเอง
ถาม : แล้วพระธรรมวินัยว่าอย่างไร กับการแสดงธรรม?
ตอบ : พระธรรมวินัยบอกไว้ชัดว่า ผู้ที่จะประกาศธรรม เผยแพร่ธรรม จักต้องประกอบด้วยคุณสมบัติ ๕ ประการ
๑. แสดงธรรมไปโดยลำดับ
๒. อธิบายชี้แจ้งให้เข้าใจตามหลักเหตุและผล
๓. แสดงธรรมด้วยความเมตตา
๔. แสดงธรรมธรรมโดยมิได้มุ่งหวังอามิส
๕. แสดงธรรมโดยไม่กระทบผู้อื่น
และยังต้องมีจุดมุ่งหมายในการแสดงธรรม ให้ผู้ฟังคลายความกำหนัด ความทะยานอยาก เพื่อบรรเทาทุกข์แก่ผู้ฟัง เพื่อความดับภพ ชาติ บวชเรียนมาจนได้ปริญญา เรียนได้ถึงมหาเปรียญ เรื่องง่าย ๆ แค่นี้ยังไม่รู้ ไม่รู้ก็ต้องบอกว่า โนคอมเมนต์แล้วล่ะ
ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้สนทนากับพระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ พระนักเทศน์ เปิดเผยว่า อาตมาดีใจมากที่ได้พบเจอโยมพระมหาเทวีเจ้าแห่งเมืองทิพย์ และโยมเจ้านางอนัญทิพย์ ซึ่งโยมพระมหาเทวีจ้าวแห่งเมืองทิพย์ได้สวมชุดจัดเต็ม สีส้มแข่งกับพระ หากโกนผมไม่รู้ว่าใครจะเป็นเจ้าอาวาส และสวมหมวกที่คล้ายหงอนไก่ อาตมายอมรับว่าที่ผ่านมาได้ติดตามพระมหาเทวีเจ้า แห่งเมืองทิพย์ กระทั่งได้มาพบเจอกันในวันนี้ (7 ก.ย.64)
โดยพระมหาเทวีเจ้า และเจ้านางอนัญทิพย์ ได้มาถวายอาหารเพล ต้มกะทิไก่ใส่ข่า ถือว่าเป็นเมนูเด็กของเมืองทิพย์ ผัดสะตอกับกุ้งสด และไข่เจียว พร้อมด้วยขนมหวานของขึ้นชื่อของเมืองทิพย์ ก็คือสลิ่มที่ไม่บูด ซึ่งอาตมาก็ฉันได้อยู่ นอกจากนี้ อาตมาไม่ได้ดีเบตอะไรกันเลย มีแต่พูดคุยกันปกติ และหัวเราะกันมากกว่า
สำหรับกรณีชาวเน็ตวิพากษ์วิจารณ์ว่า พระมหาเทวีเจ้าแห่งเมืองทิพย์ไม่สำรวมนั้น อย่าไปว่าเขาเลย เขาใส่สีส้มขนาดนั้น แต่งตัวเรียบร้อย เวลาเล่นเขาก็เล่น เวลาเล่นเสร็จแล้วเขาก็กราบลา อาตมาไม่ถือว่าล่วงเกินและไม่ได้ถือสาอะไร คนถามไม่ต้องเดือดร้อนแทนอาตมา
ส่วนกรณีที่มีคนถามว่าได้ประโยชน์อะไรจากการดูไลฟ์สดในครั้งนี้ ใครไม่พอใจก็ไม่ต้องดู หากใครอยากได้ประโยชน์ก็ไปดูสารคดีสำรวจโลก และให้ไปอ่านหนังสือ การไลฟ์สดครั้งนี้อาตมาอยากให้มีเสียงหัวเราะ ซึ่งไม่จำเป็นต้องเป็นคลิปเกี่ยวกับธรรมะทุก ๆ คลิปเสมอไป ซึ่งโยมพระมหาเทวีเจ้าไม่ได้มาเทศน์ มาถวายเพล อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้อาจจะมีโอกาสได้ร่วมไลฟ์สดด้วยกันอีก
ขณะเดียวกัน เมื่อคืนที่ผ่านมาอาตมาไม่ได้ไลฟ์สด เนื่องจากว่าดึกแล้ว แต่ก็มีโยมทักเข้ามา อาตมาไม่เข้าใจเหมือนกันว่าพอไม่ไลฟ์สดก็ด่า พอไลฟ์สดก็ด่า ส่วนที่ญาติโยมหลายคนมองว่าอาตมานั้นเป็นพระไม่สำรวม ช่วงก่อนหน้านี้อาตมาเทศธรรมะเป็นสาระก็ไม่มีใครฟัง พอปัจจุบันไลฟ์สดธรรมะแบบสนุกสนานก็กลายเป็นดราม่า อาตมามองว่าเอาใจยากจริง ๆ
ส่วนกรณีที่นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ หรืออดีตพระพุทธะอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย จ.นครปฐม โพสต์ถึงอาตมานั้น อาตมาต้องขอบคุณที่นายสุวิทย์ พูดถึงบ่อย ๆ ซึ่งกลายเป็นลุงข้างบ้านไปแล้ว และขอให้นำคำแนะนำไปใช้กับตัวเองด้วย อายุมากแล้วเอาเวลาไปปฏิบัติธรรม หากว่างจะไปเยี่ยม ขอบคุณที่ติเตือนและหวังดีน้อมรับฟัง อย่างไรก็ตาม ขณะอาตมานี้ไม่ได้กังวล หลังจากที่ คณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม (กมธ.) เรียกให้ไปพบ เพราะอาตมาสอบถามหลายท่านแล้ว กมธ.ไม่มีสิทธิ์เรียกไปพบ แต่หากจะนิมนต์ไปก็พร้อม และนิมนต์ต้องไม่เท่ากับให้อาตมาไปเองก็แล้วกัน ส่งรถมารับอาตมาด้วย
ม.จ.จุลเจิม ยุคล โพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า สองมหาก็เปรียบเหมือน หมาจรจัดเยี่ยวรด ถาดทองคำ พระเจ้าปเสนทิโกศล ทรงสุบิน(ฝัน) ว่า "เห็นหมาจรจัด เยี่ยวรดถาดทองคำ" พระพุทธองค์ ทรงทำนายว่าภายภาคหน้า จะมีกลุ่มคนเบาปัญญา แฝงตัวเข้ามาทำลายคำสอนของพระตถาคตมีการบิดเบือนคำสอน ตะแบงบาลี สร้างลัทธแผลง ๆ แม้แต่สงฆ์สาวกก็ผิดเพี้ยนจากสัจธรรม ทำให้ผู้คนหลงเชื่อ เห็นกงจักรเป็นดอกบัว สร้างอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ งมงาย มอมเมาสาธุชน ผู้ไม่รู้ซึ้งถึงแก่นแท้ของพระธรรมวินัย มักจะนิยมสร้างแต่ "พิธีกรรม" ไม่ได้นำพาไปสู่นิพพาน
สมณะเพาะพุทธ จันทเสฏโฐ หรือ ท่านจันทร์ สำนักสันติอโศก โพสต์เฟซบุ๊กว่า พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ และพระมหาสมปอง ทั้ง 2 ท่านนี้ เป็นที่รู้จักของข้าพเจ้า (ท่านจันทร์) เคยร่วมงานกัน เคยบิณฑบาตด้วยกัน เคยพำนักห้องเดียวกัน เคยซ้อนรถจักรยานยนต์คันเดียวกัน และมีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน
แม้เราจะอยู่ตรงข้ามทางความคิดกันในบางเรื่องก็ตาม ข้าพเจ้าเห็นด้วยกับคำตอบแก้ปัญหาทุกข์ของคนที่ส่งถามท่าน เห็นด้วยกับการไม่ให้งมงายโง่งม ส่วนท่าทีการแสดงออกแบบเล่น ๆ นั้น แม้จะเกินเลยไปบ้างก็เป็นจริตนิสัย ท่านก็ถูกตำหนิติเตียนตามธรรมดา สรุปว่าพระแบบท่านทั้ง 2 ต้องมีด้วย เพื่อให้เข้ากันได้กับยุคสมัย ข้าพเจ้าทำไม่ได้อย่างท่าน และจะไม่ทำอย่างท่าน แต่ก็เข้าใจและไม่ขัดใจในท่าน
นักร้อง นักแสดงชื่อดัง "เจสัน ยัง" ที่เคยบวชเรียนมาหลายพรรษา ได้โพสต์ข้อความ ระบุว่า "จบปริญญาไม่ได้แปลว่าทุกคนต้องฉลาด ขับรถหรูไปตลาดไม่ได้แปลว่าทุกคนต้องรวย หน้าหล่อหน้าสวยไม่ได้แปลว่าทุกคนต้องเป็นคนดี พระเณรแม่ชีไม่ได้แปลว่าทุกคนต้องมีศีลอันบริสุทธิ์ ถ้าส้มไม่ยอมหยุด ต้องปรึกษาแม่สิตางศุ์" หลังจากนั้นก็มีคนดังในวงการบันเทิงเข้ามาเเสดงความคิดเห็นด้วย
นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน กล่าวว่า ตนในฐานะที่กำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ซึ่งมีหน้าที่ในการกำกับและติดตามการดำเนินงานของทางสำนักงานเป็นหลัก ส่วนเรื่องของพระสงฆ์ เป็นส่วนที่มหาเถรสมาคมทำหน้าที่อยู่แล้ว ดังนั้น การกระทำดังกล่าวของ 2 พระสงฆ์ จึงเป็นสิ่งที่ทางมหาเถรสมาคมเป็นผู้ตัดสิน ทั้งเรื่องของเจตนา และผลประโยชน์อื่น เพราะถือว่าเป็นกิจของสงฆ์