“นายกรัฐมนตรีได้กราบบังคมทูลว่า สมควรให้รัฐมนตรีบางคนพ้นจากความเป็นรัฐมนตรีเพื่อความเหมาะสมและบังเกิดประโยชน์แก่ราชการ” พลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการปลด ร.อ.ธรรมนัส พรมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์  และ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน ว่า ได้มีการเคลียร์ใจและคุยการปรับครม. หรือยัง นั้น ว่า ให้ไปดู มาตรา 171 เขาเขียนไว้แล้ว
“นายกฯสบายใจ มาตลอด แต่เป็นเรื่องที่นายกต้องปรับเปลี่ยนอะไรบ้าง เพื่อให้เกิดผลดีต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ให้ไปดู มาตรา 171 เขาเขียนไว้แล้ว
และ วาสนา นาน่วม ยังโพสต์เพิ่มเติมว่า มือขวา การเมือง คนใหม่ ของ “บิ๊กตู่”
“สุชาติ” ลั่น มาอยู่ พปชร. เพราะเสนอ “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ ชี้ นายกฯไม่ได้ห่างจาก สส.พปชร. เข้าใจ นายกฯทำงานหนักมาก มีอะไรก็คุยผ่าน “หัวหน้าพรรค” ชี้ “ธรรมนัส,ไม่มีผลต่อ พปชร. เชื่อ ไม่มี สส. ลาออก ตาม "ธรรมนัส"
ยัน ทุกคนมาอยู่ พปขร. เพราะ บิ๊กตู่ นายกฯ และ หัวหน้าพรรค คือ “ลุงป้อม “ ไม่ได้มาเพราะ “ธรรมนัส”เป็นหัวหน้าพรรค อ่านระหว่างบรรทัด…. คำพูด “สุขาติ ชมกลิ่น” ….มีนัยะ และสะท้อน ทิศทางการเมือง และพปชร.
นายสุชาติ เป็น แกนนำ สส. พปชร.ภาคกลาง ที่ ได้มาทำงานใกล้ชิด พลเอกประยุทธ์ มากขึ้น แต่ อยู่คนละก๊วนกับ ร้อยเอกธรรมนัส และ อ.แหม่ม นฤมล
วันนี้ พลเอกประยุทธ์ ตรวจเยี่ยมโรงงานตามโครงการ “Factory Sandbox” จังหวัดนนทบุรี ที่ บริษัท เอส.บี.อุตสาหกรรมเครื่องเรือน จำกัด ตำบลละหาร อำเภอบางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี ที่เป็นงานในรับผิดชอบ ของ นายสุชาติ โดยมี พลเอก อนุพงษ์ มท.1 พี่รอง มาด้วย
เมื่อถามว่า เอฟเฟค ทางการเมืองหลัง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า พ้น รมช.เกษตรฯ จะมีการลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค พปชร. รวมทั้งตำแหน่งอื่นๆ ด้วยหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า เราคิดแทนคนอื่นไม่ได้ ในทางการเมือง ส.ส.ทุกคน มีพื้นที่มาจากเสียงของประชาชน ทุกคนรู้ว่าเข้ามาเพื่อทำงาน และทุกคนที่มากับพรรคพลังประชารัฐ ก็ถือว่าเป็นพรรคพลังประชารัฐ มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี และมีหัวหน้าพรรค ณ วันนี้ คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ถือเป็นศูนย์รวมจิตใจของทุกคนอยู่แล้ว
สำหรับผม คิดว่าทุกคนไม่ได้มีประเด็นปัญหาอะไร เพราะเรามีศูนย์รวมจิตใจอยู่แล้ว คือ พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรค
ส่วนการทำงานในภาพรวมของพรรค ก็ต้องมีการหารือกัน ซึ่งหัวหน้าพรรคก็คงจะได้พิจารณา ซึ่งวันนี้ถือว่าไม่มีประเด็นอะไร
เมื่อถามว่ามีการมองกันว่าอาจจะต้องมีการปรับโครงสร้างพรรค นายสุชาติ กล่าวว่า ผมไปพูดเกินเลยตรงนั้นไม่ได้ เพราะตนเป็นแค่หนึ่งในคณะกรรมการบริหาร หนึ่งเสียงเท่านั้น ทั้งหมดอยู่ที่หัวหน้าพรรค และสมาชิก ส.ส.
แต่อย่าลืมว่าทุกคนมาด้วยเสียงของประชาชนที่เลือกตั้งเข้ามา และการพูดคุยทุกคนต่างก็รู้ว่ามีหน้าที่ของตัวเอง อย่างวันนี้ก็ต้องทำหน้าที่ในสภา
เมื่อถามว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นส่วนหนึ่งให้พรรคพลังประชารัฐกลับมาสามัคคีกันหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ส่วนหนึ่งที่พรรคมีความเหนียวแน่น เพราะเรามีหัวหน้าพรรคที่ทุกคนให้ความเคารพ
ในส่วนของเลขาธิการพรรค ก่อนหน้านี้เรามีนายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นเลขาธิการพรรค ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร พอเปลี่ยนมาเป็น ร.อ.ธรรมนัส ก็เหมือนเดิม
เพราะหัวหน้าพรรคเราคือพล.อ.ประวิตร เราอาจจะไม่เหมือนกับพรรคอื่น แม้จะเป็นพรรคที่ตั้งขึ้นมาใหม่ ระยะเวลา 2-3 ปี แต่ความแข็งแรงความสามัคคี ความเข้มแข็งของ ส.ส.ทุกคน ก็มีมากขึ้น และทุกคนต่างรู้บทบาทหน้าที่ ส.ส. ในพรรคก็มีทั้งส.ส.ใหม่และ ส.ส.เก่า ซึ่งตนเชื่อว่าไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย
"เพราะทุกคนที่มาอยู่กับพรรคนี้ เพราะพรรคเสนอชื่อคนเดียว คือ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี ผมจึงเชื่อว่าไม่มีอะไร การเมืองก็ปรับเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เหมือนเราเปลี่ยนผู้บริหารบริษัท ลักษณะคล้ายกัน
ส่วนจะมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรคหรือไม่นั้น ผมยังไม่ทราบและยังไม่ถึงเวลา เมื่อถามว่า แสดงว่าทุกอย่างขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรคใช่หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับหัวหน้าพรรค โดยหัวหน้าพรรคต้องใช้องคาพยพทั้งหมด ทั้งพวกผม สมาชิก และกรรมการบริหารพรรค ทุกคนก็รักกันดีอยู่แล้ว พรรคมีความสามัคคี และเชื่อว่าจะไม่มีเอฟเฟคตามมา ไม่ว่าจะเป็น 2 ช. 3 ช. โดยภาพรวมนักการเมืองทุกคนมีความสนิทสนมกัน แต่ไม่ใช่ว่าจะต้องแบ่งเป็นกลุ่มเป็นก๊วน เพียงแต่มีความสนิทสนมกันบ้าง
อย่างผมอยู่ภาคกลาง ก็มีเพื่อนอยู่ภาคกลาง แต่ทุกคนฟังหัวหน้าพรรคและนโยบายของพรรค ถ้าเราอยู่ในพรรคแล้วไม่เคารพหัวหน้าพรรคหรือมติพรรค ก็คงอยู่ด้วยกันไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามว่าถือเป็นบทเรียนครั้งใหญ่หรือไม่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ นายสุชาติกล่าวว่า จะไปพูดตรงนั้นไม่ได้เพราะผมไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องแต่อย่างผมที่มาอยู่พรรคพลังประชารัฐ เพราะรู้ว่าพรรคเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ผมถึงเข้ามา เพราะเราต้องดูก่อนว่าเราจะมาอยู่พรรคนี้เพราะอะไร เพราะยังไม่รู้เลยว่ามาอยู่พรรคนี้ แล้วจะได้เป็นรัฐบาลหรือเปล่า แต่ถ้าได้เป็นรัฐบาลเราก็รู้ว่า นายกรัฐมนตรีคือ พล.อ.ประยุทธ์ เราถึงมา อย่างเพื่อนของผม ที่ มาจากหลายจังหวัดและชักชวนกันมาก็เพราะเรื่องนี้
เมื่อถามว่า คิดว่านายกรัฐมนตรีมีระยะห่างระหว่างส.ส.มากไปหรือเปล่า นายสุชาติกล่าวปฏิเสธว่า ไม่ วันนี้นายกฯทำงานหนักมาก
ขณะที่ พล.อ.ประวิตร ก็ดูแลลูกพรรคเป็นอย่างดี พล.อ.ประยุทธ์ มีอะไรก็คุยผ่านหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว ซึ่งก็เป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งหมด ต้องยอมรับว่าขนาดเป็นรัฐมนตรีอย่างเดียวงาน ก็หนักและเหนื่อยมาก มีเวลาน้อยที่จะได้พบกับเพื่อน แต่ทุกคนเข้าใจว่าอยู่บนพื้นฐานการทำงานเพื่อประเทศ
เมื่อถามว่าการที่ ร.อ.ธรรมนัส ลาออกไป คิดว่าจะมีกลุ่มก๊วนใด จะตามออกไปบ้างหรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า นักการเมืองไม่มีอย่างนั้นแน่นอน
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่าในพรรคจะไม่มีใครตาม ร.อ.ธรรมนัสไป นายสุชาติกล่าวว่า วันนี้ท่านก็ยังอยู่ในพรรคพลังประชารัฐ และผมคิดว่าผู้แทนทุกคนที่มาอยู่กับพรรค มาอยู่เพราะเลือกนายกฯและหัวหน้าพรรคลุงป้อม ไม่ได้มาเพราะร.อ.ธรรมนัส’ เป็นหัวหน้าพรรค
จึงอย่าไปกังวลเพราะเรื่องนี้ ยืนยันว่าไม่มีความกังวล และคิดว่าไม่มีประเด็นในเรื่องนี้ เพียงแต่ เดี๋ยวรอเวลาหน่อย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ประยุทธ์ สั่งปลดฟ้าผ่า 2 รมต. ประวิตร ง้อ ธรรมนัส อยู่พลังประชารัฐต่อ
- ธรรมนัส ลาออก ลั่น มองไม่เห็นอนาคตบ้านเมือง ขอกลับพะเยา แย้มชื่อพรรคใหม่
- ด่วน! ธรรมนัส ยื่นหนังสือลาออกจาก รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
Advertisement