เมื่อเวลา 17.20 น. ของวันที่ 9 ก.ย.64 พ.ต.ท.อำนาจ สุวรรณโณ สว.(สอบสวน) สภ.รัษฎา รับแจ้งเหตุยิงกัน มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบนถนนสายตรัง-ทุ่งสง หมู่ 2 ต.ควนเมา อ.รัษฎา จ.ตรัง ที่เกิดเหตุพบรถยนต์ ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ขก 720 สุราษฎร์ธานี ตัวรถมีรอยถูกยิงจนพรุนทั้งคัน สภาพพุ่งตกข้างทางชนอัดกับต้นไม้ หน้ารถพังยับเยิน
ภายในรถพบศพ น.ส.วราภรณ์ เพียรดี อายุ 39 ปี นอนซุกอยู่ระหว่างเบาะด้านหน้า ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงคราม กระสุนเข้าหน้าผาก 1 จุด และที่หลัง 2 จุด นอกจากนี้ ภายในรถยังพบผู้บาดเจ็บอีก 2 ราย ทราบชื่อคือ นายวีรยุทธ ขุนอินทร์ อายุ 39 ปี คนขับ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนสงครามเช่นกัน กระสุนเข้าที่แผ่นหลังหลายสิบนัดจนพรุนทั้งร่าง
ส่วนอีกรายคือ ด.ช.วสิษฐ์พล ขุนอินทร์ อายุ 14 ปี ขาขวาหัก เจ้าหน้าที่กู้ภัยฯรีบนำส่ง รพ.รัษฎา ก่อนนายวีรยุทธจะเสียชีวิตลงในเวลาต่อมา ส่วน ด.ช.วสิษฐ์พล แพทย์ได้นำตัวส่งไปรักษาต่อที่ รพ.ทุ่งสง
ข้อมูลจากกล้องวงจรปิด จากหน้าบ้านหลังหนึ่งที่อยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุ เห็นรถฟอร์จูนเนอร์ของนายวีรยุทธผ่านกล้องไปยังทางกลับรถคันเดียวในเวลา 17.01 น. อีกภาพจะเห็นนาทีที่รถฟอร์จูนเนอร์ ขับเร่งเครื่องหนีรถกระบะยกสูงคันสีดำ ในนาทีที่ 17.02 น. และมีรถฟอร์จูนเนอร์สีขาวขับตามมาอีกคัน ซึ่งไม่ทราบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่
ล่าสุดทีมข่าวได้กล้องวงจรปิดอีกมุมกล้องสำหรับการกลับรถของนายวีรยุทธ จังหวะที่รถมอเตอร์ไซค์ผ่านหน้ากล้องไปก็จะเห็นว่ารถของนายวีรยุทธกลับรถและขับรถมาตามปกติ และก็มีรถกระบะยกสูงเรื่องเครื่องตามรถนายวีรยุทธ ซึ่งคาดว่าขณะนี้นายวีรยุทธยังไม่รู้ตัวว่ารถกระบะคันดังกล่าวมาจอดรอและเร่งเครื่องตาม
เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมสังหาร 3 สาเหตุ คือ โกรธแค้นส่วนตัว ขัดผลประโยชน์ในธุรกิจรับซื้อน้ำยางสด ที่ครอบครัวผู้ตายทำอยู่ อาจจะมีการตัดราคาแย่งลูกค้ากันในพื้นที่ และธุรกิจไม่เปิดเผยบางอย่าง ซึ่งต้องรอการสอบสวนอย่างละเอียด ขณะนี้ตำรวจพอทราบข้อมูลรถคนร้ายที่ใช้ในการก่อเหตุแล้ว กำลังไล่เช็กภาพจากกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ กล้องหน้ารถของพลเมืองดีที่ขับผ่านในช่วงเกิดเหตุ คาดว่าน่าจะรู้ตัวผู้ก่อเหตุ และออกหมายจับได้ในเร็ว ๆ นี้
ล่าสุดวันที่ 10 ก.ย. 64 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณหน้าสนามกีฬา ชนไก่บ้านควนเมา ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นจุดที่อยู่ติดกับถนนหลัก สายตรัง-ทุ่งสง หมู่ 2 ต.ควนเมา อ.รัษฎา จ.ตรัง ในที่เกิดเหตุยังพบร่องรอยชิ้นส่วนของรถตกอยู่ในที่เกิดเหตุ และที่ต้นไม้มีร่องรอยถูกรถชนที่ต้นไม้
ล่าสุด ตำรวจกองปราบร่วมกับตำรวจในพื้นที่ลงพื้นที่มายังจุดเกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม นายไก่ อายุ 51 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดกับที่เกิดเหตุ บอกว่า วันเกิดเหตุช่วงประมาณ 17.00 น. ตนนอนอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงดังคล้ายประทัด ดังขึ้นจำนวนหลายนัด จึงไม่ได้ออกไปดู
ผ่านไปสัก 5 นาที น้องเดินมาบอกว่ามีรถชนอัดกับต้นไม้ใกล้กับหน้าบ้าน กู้ภัยและตำรวจมาถึงจึงรู้ว่าเสียงที่ได้ยินเป็นเสียงไล่ยิงกันมา ยิ่งไปกว่านั้นมารู้ว่ารถคันดังกล่าวที่ถูกยิงเป็นครอบครัวเพื่อนบ้านที่อยู่ห่างจากบ้านของตนไปแค่ 150 เมตร ซึ่งครอบครัวนี้มีอาชีพรับซื้อน้ำยาง แล้วก็ไม่เคยรู้ว่าเขาจะไปมีเรื่องขัดแย้งกับใครมาก่อน
ด้านหลวงพี่ไม้ (นามสมมติ) เล่าเหตุการณ์ที่เห็นว่า ตอนเกิดเหตุตนเดินออกมาดูกุฏิที่กำลังสร้างอยู่บริเวณหน้าวัด เห็นรถกระบะสีดำจอดชิดซ้าย คล้ายจอดติดเครื่องดักรอใครอยู่ที่ริมทาง กระทั่งรถฟอร์จูนเนอร์ของนายวีรยุทธกลับรถและขับรถไปบนถนนตามปกตินั้น รถกระบะคันสีดำก็รีบขับตามตีคู่ไป และเห็นเหตุการณ์ตอนที่รถฟอร์จูนเนอร์ของนายวีรยุทธถูกรถกระบะยกสูงสีดำไล่ตามประกบข้างกันไปตั้งแต่หน้าวัด เห็นรถกระบะยกสูงคันสีดำลดกระจกลงมาสุด พาดกระบอกปืนที่ขอบประตูรถ
จากนั้นก็เห็นคนที่นั่งข้างคนขับได้นำปืนลักษณะคล้ายอาวุธสงครามขึ้นมาเล็ง ก่อนจะยิงใส่รถฟอร์จูนเนอร์ของนายวีรยุทธ ประมาณ 3-5 นัด แต่ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่ากระสุนปืนโดนใครในรถของนายวีรยุทธหรือไม่ ตนเห็นท่าไม่ดีก็เลยวิ่งไปหลบหาที่ปลอดภัยภายในวัด โดยเหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นเหตุอุกอาจ เป็นการกระทำที่ไม่เกรงกลัวกฎหมาย เพราะคนร้ายนอกจากจะใช้อาวุธสงครามก่อเหตุแล้ว ยังเลือกเวลาลงมือช่วงเย็น ซึ่งเป็นเวลาพลุกพล่านของชาวบ้านอีกด้วย
สำหรับเบาะแสจากชุดสืบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้ข้อมูว่า ก่อนเกิดเหตุรถฟอร์จูนเนอร์ที่มีนายวีรยุทธ ขุนอินทร์ ผู้ตายเป็นคนขับ เด็กชายวสิษฐ์พล นั่งเบาะหน้าข้างคนขับ และนางสาววราภรณ์ เพียรดี ภรรยานั่งเบาะหลัง ไปทำธุระที่บ้านนางสาววราภรณ์ ที่อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และขณะกำลังขับรถกลับบ้าน
เมื่อรถมาถึงจุดกลับรถในพื้นที่เขตหมู่ 14 ตำบลควนเมา อำเภอรัษฏา จังหวัดตรัง ซึ่งอยู่ก่อนถึงบ้านประมาณ 1 กิโลเมตร ได้มีรถกระบะยี่ห้ออีซูซุสีดำยกสูง จอดรอบริเวณจุดกลับรถและขับไล่ตามกันมา ก่อนจะมีการขับประกบข้าง จากนั้นคนร้ายก็ลดกระจกรถลงเพียงแค่ครึ่ง ใช้อาวุธปืนที่คาดว่าจะเป็นปืน M16 พาดกับขอบกระจก มีถุงดำคลุม ยิงกระหน่ำมาตั้งแต่บริเวณหน้าวัดควนล้อน ก่อนที่รถจะมาเสียหลักลงข้างทางอัดติดกับต้นไม้บริเวณหน้าสนามไก่ชน จากนั้น คนร้ายก็รีบรถหลบหนีไปบนถนนหลวงหมายเลข 403 มุ่งหน้าไปยัง อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ทีมข่าวเดินทางไปที่วัดเขาโร ตำบลเขาโร อำเภอทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช สถานที่จัดงานศพของนางสาววราภรณ์ ผู้เสียชีวิตนางรัตนา เพียรดี อายุ 60 ปี แม่ของนางสาววราภรณ์ บอกว่า ตอนนี้ศพของนางสาววราภรณ์ยังอยู่ระหว่างการผ่าชันสูตรหาเหตุการเสียชีวิต ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพนายวีรยุทธและนางวราภรณ์ไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ จังหวัดสงขลา มีกำหนดให้ญาติรับศพกลับมาประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในอีก 2 วัน
สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวตนก็ไม่รู้ว่ามีความเป็นมาอย่างไร เพราะเมื่อวานนี้ตนได้คุยกับลูกสาวว่าจะไปซื้อของที่ห้างในตัวอำเภอทุ่งสง จากนั้นช่วงเย็นลูกก็มาถูกคนร้ายยิงเสียชีวิต ก่อนหน้านี้นางสาววราภรณ์เคยโทรมาบอกว่ามีรถกระบะคันสีดำขับตามเวลาพาลูกไปตลาด 2-3 ครั้ง ในช่วงเวลา 5 วันก่อนเกิดเหตุ ยิ่งไปกว่านั้นก่อนจะเกิดเหตุ 3 วัน เคยมีรถกระบะคันสีดำคันที่ก่อเหตุขับมาปาดหน้าและดูว่านายวีรยุทธอยู่ในรถหรือไม่ ซึ่งลูกสาวเคยบอกว่าคนที่ขับรถกระบะคันสีดำที่เคยถูกขับปาดหน้าครั้งก่อน เป็นผู้ชายอายุประมาณ 25-35 ปี
ส่วนเรื่องปมการก่อเหตุยอมรับว่าไม่รู้ เพราะลูกสาวไม่เคยมีปัญหากับใคร อีกทั้งทำอาชีพรับซื้อน้ำยางไปขายธรรมดาคนหนึ่ง ไม่ใช่นายทุนรายใหญ่ หนำซ้ำการใช้ชีวิตก็ไม่เคยทะเลาะหรือขัดแย้งกับใครในพื้นที่
สำหรับความสัมพันธ์กับนายวีรยุทธ สามีนั้น ก่อนหน้านี้ทั้งคู่แต่งงานอยู่ด้วยกันจนทีลูกด้วยกัน 2 คน และทั้งคู่ก็มาแยกทางกันช่วงปี 2559 เพราะนายวีรยุทธบอกเลิก และไปมีภรรยาใหม่ ส่วนนางสาววราภรณ์ก็อยู่ตัวคนเดียว จนมาแต่งงานกับนายเอ (นามสมมติ) เมื่อช่วงมกราคม 2564 ที่ผ่านมา อยู่กินกันได้ 7 เดือนก็เลิกลากัน แล้วนางวราภรณ์และนายวีรยุทธก็กลับมาปรึกษาปัญหาหัวใจกัน และตัดสินใจกลับมาคบกันอีกครั้ง อยู่ด้วยกันแค่ประมาณ 2 สัปดาห์ก่อนจะเกิดเหตุ แต่สำหรับปมเรื่องความสัมพันธ์ในชีวิตคู่ ครอบครัวมั่นใจว่าไม่ใช่ปมการสังหาร หลังเกิดเหตุเมื่อวานนี้อดีตคนรักของฝั่งนายวีรยุทธและฝั่งนางสาววราภรณ์ก็ต่างมาที่เกิดเหตุ และมาแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วย
ขณะเดียวกันทีมข่าวได้เดินทางมาที่บ้านของนายวีรยุทธ อยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร เช้าวันนี้มีทางญาติตั้งเต็นท์ เพื่อรอรับศพแล้วจะจัดพิธีสวดอภิธรรมศพของนายวีรยุทธที่บ้าน นายสมคม ขุนอินทร์ อายุ 73 ปี พ่อของนายวีรยุทธ ผู้ตาย กล่าวว่า ลูกชายมีอาชีพรับซื้อน้ำยาง มีลูก 2 คน วันเกิดเหตุก่อนลูกชายจะออกจากบ้าน ไม่ได้มีลางสังหรณ์ว่าลูกชายจะออกจากบ้านไปตาย เวลาที่เกิดเหตุเป็นเวลาที่ลูกชายขับรถไปที่บ้านของลูกสะใภ้เป็นประจำ
ซึ่งก่อนหน้านี้ประมาณ 5 วันลูกชายบอกกับตนแค่ว่ามีคนจะมาปองร้าย ขับรถตาม แต่ก็ไม่ได้บอกว่าบุคคลที่จะมาปองร้ายเป็นใครและเรื่องอะไร แต่ติดใจตรงที่ว่าคนร้ายทำไมมันถึงกล้าก่อเหตุในเวลากลางวันแสก ๆ ส่วนปมการเกิดเหตุที่ตำรวจได้สันนิษฐานนั้น ขอยืนยันว่าให้ตัดประเด็นความขัดแย้งการทำธุระกิจการรับซื้อน้ำยางทิ้ง เพราะลูกชายไม่เคยไปตัดราคายางใคร อีกทั้งราคายางก็ไม่ได้ดีถึงขั้นต้องมาฆ่ากัน ส่วนเรื่องขัดแย้งธุระกิจสีเทานั้นก็เป็นไปไม่ได้ เพราะตั้งแต่ลูกชายถูกดำเนินคดีและถูกปล่อยตัวออกมา เกี่ยวกับการค้าอาวุธเถื่อนไปเมื่อ 2 ปีก่อนนั้น ลูกชายก็ไม่เคยกลับไปข้องเกี่ยวกับเรื่องอาวุธเถื่อนอีกเลย
ส่วนตัวคิดว่าปมเหตุครั้งนี้น่าจะมาจากความขัดแย้งเกี่ยวกับเรื่องเงินที่ลูกชายเคยมายืมเงินตนไปใช้เรื่องส่วนตัว 7-8 แสนบาท และลูกชายก็อยู่ระหว่างการนำเงินกลับมาคืนที่บ้าน และลูกชายก็ไม่เคยปริปากบอกว่านำเงินก้อนนี้ไปทำอะไรกับใคร สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็อยากจะให้ตำรวจตามจับตัวคนร้ายที่ก่อเหตุยิงลูกชายและครอบครัวของเขาอย่างอุกอาจมาดำเนินคดีให้เร็วที่สุด ส่วนหลานชายอาการปลอดภัย แต่ยังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์