สยอง! ฆ่าสาวหมกกล่อง พยานชี้นาทีมือสังหาร โผร่างให้รถไฟทับตาย อึ้งชอบซ้อมหญิง (คลิป)

กรณีวันที่ 13 ต.ค. 61 พบศพน.ส.สุชาภัสร์ หิรัญพันธะโชติ หรือ ไก่ บริเวณลำคอมีบาดแผลถูกแทงด้วยของมีคม 7 แผล ที่กกหูข้างขวามีร่องรอยถูกทุบด้วยของแข็ง สภาพศพขึ้นอืด ใส่เสื้อชั้นในสีดำเพียงตัวเดียว คาดว่าเสียชีวิตแล้ว 3 วัน ทั้งนี้ พบมีดเปื้อนเลือด 1 เล่ม ถูกฆ่ายัดไว้ในกล่องพลาสติกสีดำ ในห้องน้ำทาวน์เฮาส์ หมู่บ้านภูตะวัน ต.หินเหล็กไฟ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ สภาพสวมเสื้อชั้นในเพียงตัวเดียว ล่าสุด ชายต้องสงสัยที่คาดว่าเป็นผู้ก่อเหตุ นอนที่รางรถไฟ เพื่อให้รถไฟทับเสียชีวิตแล้วนั้น (อ่าน : ชายต้องสงสัยนอนขวางรางรถไฟทับตาย ตร.เผย โยงฆ่าสาวยัดกล่อง กลางเมืองหัวหิน)

โดยก่อนหน้านี้ น.ส.สุชาภัสร์ หิรัญพันธะโชติ หรือ ไก่ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ในทำนองเกี่ยวกับความรัก ก่อนที่จะมาพักที่บ้านพักที่หัวหิน และถูกพบเป็นศพ โดยเช็กอินและโพสต์รูปภาพพร้อมระบุข้อความว่า "ชาร์ตแบต..เอาเรื่องราวห่วยๆ มาทิ้งทะเล"

วันที่ 14 ต.ค. 61 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่หมู่บ้านที่เกิดเหตุ ในอำเภอหัวหิน บริเวณหน้าหน้าบ้านถูกกั้นเป็นเขตห้ามเข้า ซึ่งภายในรั้วบ้านยังมีรถยนต์สีดำของผู้ตายจอดอยู่ และมีกลิ่นศพโชยออกมา

นายสมคิด (สงวนนามสกุล) เพื่อนบ้านของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า บ้านหลังเกิดเหตุ เป็นบ้านเช่าที่นายดิฐวัฒน์ ดรอซ คาดว่าเป็นผู้ก่อเหตุ เช่าร่วมอาศัยกับผู้หญิง 1 คน คาดว่าเป็นแฟน แต่ไม่ใช่ผู้ตาย และเพื่อนชายอีก 1 คน ซึ่งมีรถเก๋งสีขาว 1 คัน มอเตอร์ไซค์ฟีโน่ 1 คัน และฮอนด้าคลิก สีเทาดำ อีก 1 คัน โดยตนสังเกตว่านายดิฐวัฒน์ และหญิงที่อยู่ด้วยกัน มักจะไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่ตนและญาติก็ไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์คนในบ้านหลังดังกล่าว เนื่องจากนายดิฐวัฒน์ ดูเหมือนเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียว

นายสมคิด เล่าว่า วันที่ 8 ต.ค. 61 เวลา 08.00 น. เห็นผู้ตาย นำรถเก๋งสีดำมาจอดที่บ้าน หลังที่เกิดเหตุ ตลอดวันเหตุการณ์ปกติ กระทั่งช่วงเวลา 21.00 น. ญาติของตนที่บ้านอยู่ติดกับบ้านหลังเกิดเหตุ ได้ยินเสียงผู้ชาย และผู้หญิงมีปากเสียงกัน และได้ยินเสียงเหมือนของแข็งกระแทกเสียงดัง 2 ครั้ง แล้วก็เงียบไป ซึ่งตนและเพื่อนบ้านคนอื่นก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่ง เนื่องจากคิดว่าเป็นเรื่องของผัวเมียปกติ

กระทั่งวันที่ 9 ต.ค. 61 ช่วงเช้าเวลา 09.00 น. ขณะที่ตนกำลังเดินไปยืมมอเตอร์ไซค์ที่บ้านญาติ ข้างบ้านหลังเกิดเหตุ ตนเห็นนายดิฐวัฒน์ ท่าทางรุกลี้รุกรน ปิดล็อกประตูบ้าน และปีนออกจากกำแพงบ้าน ซึ่งมาเจอกับตนพอดี จากนั้นนายดิฐวัฒน์ ก็เดินไปขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ และถามตนว่า "น้ำไหลไหม" ตนก็ตอบกลับไปว่า "ไม่ไหล" ชายคนดังกล่าวก็ไม่พูดอะไร และขับรถมอเตอร์ไซค์ไปอย่างรวดเร็ว จากนั้นตนก็ไม่เห็น ทั้ง 3 คน กลับเข้ามาที่บ้านอีก มีเพียงรถเก๋งสีดำของผู้ตายจอดอยู่ จนกระทั่งวันที่ 11 ต.ค. 61 ตนและครอบครัว เริ่มได้กลิ่นเหม็นเน่าตลบอบอวล แต่พยายามเดินหา ก็ไม่พบที่มาของกลิ่น ต่อมาวันที่ 13 ต.ค. 61 มีตำรวจชุดสอบสวนได้มาสืบหา และพบรถของ น.ส.สุชาภัสร์ จอดอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ ตำรวจจึงให้ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยตัดกุญแจล็อกของประตูหลังบ้าน และเข้าไปภายในบ้าน พบศพ น.ส.สุชาภัสร์ ถูกฆ่ายัดกล่องพลาสติกสีดำขนาดใหญ่ มีผ้านวมและหมอนปิดทับอยู่ นายสมคิด กล่าวว่า นายดิฐวัฒน์เป็นคนอารมณ์ร้อน ไม่พูดคุยกับใคร ท่าทางเป็นคนนักเลง และชอบปิดประตูเสียงดัง ซึ่งตลอดเวลาหลายเดือนที่มาเช่าบ้านอยู่ใกล้ตน ก็ไม่เคยพูดคุยกัน และเขาก็ไม่เคยมาทักทาย ทั้งที่เป็นเพื่อนบ้านกัน คุยกันแค่ครั้งเดียวคือวันที่ 9 ต.ค. ที่ตนเจอผู้ก่อเหตุกระโดดข้ามกำแพงมา ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้มีความเกรงกลัว เพราะคิดว่าต่างคนต่างอยู่ แต่ก็อยากให้คนที่ก่อเหตุนั้นรับกรรมไป

จากนั้น ทีมข่าวเดินไปที่ถนนตัดข้ามรางรถไฟ หลักกิโลเมตรที่ 196 แยกบางควาย อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุ ระยะทาง 20 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดที่นายดิฐวัฒน์ฆ่าตัวตาย นอนให้รถไฟทับ เมื่อคืนที่ผ่านมา (13 ต.ค. 61) ซึ่งบริเวณรางรถไฟยังพบคราบเลือดลากยาวออกไปประมาณ 20 เมตร และพบรองเท้าผ้าใบ สีน้ำเงิน ในสภาพขาด ตกอยู่ข้างทางรถไฟ

โดยนายธวัชชัย โบดนอก คนงานก่อสร้างที่อยู่ใกล้กับทางรถไฟ เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ ช่วงเวลา 19.20 น. ตนได้ยินเสียงรถไฟพยายามบีบแตรลั่นมาตั้งแต่ไกล เหมือนกับกดให้สัญญาณเตือน และพยายามเบรก แต่ก็ไม่ทัน

ทั้งนี้ ตนทราบภายหลังว่านายดิฐวัฒน์ นอนบนรางให้รถไฟทับร่าง เพื่อฆ่าตัวตาย ซึ่งจากคำบอกเล่าของคนเห็นเหตุการณ์ นายดิฐวัฒน์ได้ขับมอเตอร์ไซค์มาจอดอยู่ริมถนนทางข้ามรถไฟ และยืนดูดบุหรี่ ขณะที่รอรถไฟ ก่อนจะเดินลงไปนอน ขณะที่รถไฟแล่นมา ทั้งนี้ ตนคิดว่าสาเหตุที่นายดิฐวัฒน์ฆ่าตัวตาย เป็นเพราะน้อยใจเรื่องทางบ้าน แต่ตนก็มาทราบภายหลังว่าเป็นคนที่หนีคดีมา นอกจากนี้ ตนทำงานอยู่ใกล้ ๆ แล้วมีคนตาย ก็รู้สึกกลัว ซึ่งตอนนี้ก็ยังไม่มีญาติของนายดิฐวัฒน์ มาทำพิธีเชิญวิญญาณ หรือพิธีทางศาสนาแต่อย่างใด

น.ส.นา (นามสมมติ) ชาวบ้านในพื้นที่ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเคยเห็นนายดิฐวัฒน์กับแฟน จะขับรถเก๋งสีขาวมาซื้อของที่ร้านชำแถวบ้าน ซึ่งจากการสังเกต ตนคิดว่านายดิฐวัฒน์เป็นคนขรึม และไม่ค่อยพูดจากับใคร มาซื้อของเสร็จแล้วก็กลับ ก่อนหน้านี้ ตนเคยรู้มาว่านายดิฐวัฒน์เคยทะเลาะวิวาทกับแฟนสาว แล้วขับรถเก๋งสีขาวมาจอดที่หน้าร้าน ซึ่งนายดิฐวัฒน์ได้เดินอ้อมลงมาเปิดประตูฝั่งคนนั่ง และทุบตีทำร้ายแฟนสาวอย่างต่อเนื่อง โดยแฟนสาวก็พยายามเอามืดปัดป้อง แต่ก็ไม่ได้ตอบโต้ หลังจากนั้นนายดิฐวัฒน์ก็เดินไปซื้อของในร้านชำ แล้วขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ในวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา ช่วงเวลา 18.00 น. ตนยังเห็นนายดิฐวัฒน์ขับมอเตอร์ไซค์มาซื้อน้ำขวดใหญ่ที่ร้านชำ และหลังจากนั้นตนก็ไม่เห็นนายกิฐวัฒน์อีก ซึ่งโดยส่วนตัว มองว่านายดิฐวัฒน์เป็นคนที่น่ากลัว รูปร่างสูงเหมือนฝรั่ง หน้าตาคล้ายคนแขก ซึ่งจากการประเมินด้วยสายตา ตนก็คิดอยู่แล้วว่านายดิฐวัฒน์เป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียว