เมื่อวันที่ 12 ก.ย.64 เวลา 15.30 น. ร.ต.ท.ปรัชญ์ พิชัย รองสว.(สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ รับแจ้งเหตุ คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทองในร้านทอง “เยาวราชกรุงเทพ” ชั้น 1 ห้างบิ๊กซี ถนนรัตนาธิเบศร์ ต.บางกระสอ อำเภอเมือง จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ ที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจประจำร้านทองสามารถรวบตัวคนร้ายรายนี้ได้แล้ว เป็นหญิงอายุเพียง 17 ปี ทราบชื่อต่อมาคือน.ส.เอ (นามสมมติ) ชาวจ.ร้อยเอ็ด เป็นนักเรียนเรียนอยู่ชั้น ม.6 โรงเรียนแห่งหนึ่ง ย่านดอนเมือง เขตดอนเมือง กรุงเทพฯ
ด.ต.ณัฐพล มวลเกษม ผบ.หมู่งานปราบปราม สภ.รัตนาธิเบศร์ ซึ่งทำหน้าที่เฝ้าร้านทองที่เกิดเหตุได้เดินตรวจพื้นที่ต่าง ๆ ภายในห้างจากนั้นได้รับแจ้ง จาก รปภ.ของห้างว่ามีเหตุจี้ชิงทองที่ร้านทองดังกล่าวจึงรีบวิ่งไล่กวดคนร้ายและตามจับตัวได้ โดยนักเรียนหญิงรายนี้ ระหว่างก่อเหตุใส่เสื้อสีเหลือง ใส่หมวกปากเป็ดสีดำ กางเกงวอร์มขายาวสีน้ำเงินขลิบขาว ได้เดินตรงไปที่พนักงานขาย ก่อนยื่นแผ่นกระดาษเขียนข้อความว่า ให้เอาทองที่อยู่บนผนังตู้โชว์ใส่ถุงดำที่เตรียมมาให้
โดยในมือยังถือมีดปลายแหลมขนาดใหญ่จะอยู่ที่บริเวณลำตัว พนักงานตลอดเวลา เมื่อคนร้ายได้ทอง จำนวน 1 ถาดใหญ่ ซึ่งส่วนมากจะเป็นทองหนัก 1 สลึงครึ่งสลึงจำนวน 43 เส้นน้ำหนักกว่า 30 บาท มูลค่าประมาณ 849,000 บาท คนร้ายจึงได้วิ่งหลบหนี ออกไปทางหน้าห้างฯ
จากการสอบสวนนักเรียนหญิง รับสารภาพว่า สาเหตุที่ลงมือที่ร้านทองเนื่องมาจากตนเองได้นำเงินจำนวน 50,000 บาทไปลงทุนทางออนไลน์แล้วถูกโกงเงิน จึงตัดสินใจคิดสั้นขึ้นรถประจำทาง จากบ้านย่านดอนเมือง และมาลงรถที่ห้างดังกล่าวเนื่องจากตนเคยมาเดินเล่นที่ห้างฯ ประจำและเห็นช่องทางลู่ทางเลยก่อเหตุ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างควบคุมตัวสอบสวนปากคำอย่างละเอียด ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
น.ส.มิ้น (นามสมมติ) พนักงานร้านทอง คนที่เผชิญหน้ากับผู้ต้องหา เปิดใจว่า ช่วงเวลาเกิดเหตุ ตนเห็นผู้หญิงเดินเข้ามาในร้านทอง และวางกระดาษบนเคาน์เตอร์ ทีแรกคิดว่าเป็นกลุ่มพวกขอเงินบริจาค หรือกลุ่มคนพิการ และมูลนิธิที่ต้องการให้ช่วยสนับสนุนเงินในโครงการ เพราะปกติจะพบเห็นมีคนเอากระดาษมาวางแบบนี้บ่อย ๆ ครั้ง
แต่เมื่อกลุ่มอ่านข้อความด้านใน ก็มีการระบุทำนองว่า “หยิบทองและเงินใส่ในถุง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้น อย่าเสียงดัง ชีวิตคือของคุณ ไม่จำเป็นต้องฆ่ากัน” ตอนนั้นตนก็พยายามดึงเวลาไว้ให้ช้าที่สุด เพื่อที่จะดูสถานการณ์ แต่คนร้ายเอื้อมไปหยิบสิ่งของบางอย่าง ลักษณะด้ามคล้ายปืน หรือมีด จึงได้เรียกให้พนักงานผู้ชายอีกคนเข้ามาช่วยหยิบทองใส่ถุงดำ แต่การหยิบทองใส่ถุงดำก็เลือกเอาแต่เส้นเล็ก ๆ และค่อย ๆ หยิบทีละน้อย ๆ เพื่อดึงเวลาและชะลอดูสถานการณ์
อย่างไรก็ตาม ตนยอมรับว่า ร้านทองที่ทำงานอยู่เป็นครั้งที่ 2 แล้ว ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ โดยก่อนหน้านี้ช่วงเดือนก.พ.64 ที่ผ่านมา ก็เพิ่งเจอเหตุการณ์ชายใช้อาวุธปืนจี้ทอง แต่วันนี้กลับมาเจอเหตุการณ์ซ้ำรอยอีกครั้ง หลังจากนี้จะต้องระมัดระวังมากกว่าเดิม เหตุการณ์ครั้งนี้ยอมรับว่าตกใจที่รู้ว่าผู้ต้องหาเป็นเยาวชน อายุยังไม่ถึง 18 ปี ตนก็ไม่รู้ว่าแต่ละคนมีแนวคิดอย่างไร