จากกรณีที่มีหนุ่มชาวไทยจัดทำคลิปวิดีโอ “ปลอมเป็นชาวต่างชาติแฉแท็กซี่ไทย” ก่อนมีการเผยแพร่ลงในโลกออนไลน์ เพื่อแฉพฤติกรรมการให้บริการลูกค้าชาวต่างชาติ ที่ส่วนใหญ่ไม่กดมิเตอร์ และคิดราคาเหมาที่สูงเกินจริง จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์นั้น
นายทรงศักดิ์ ปัญญาธรักษ์ เจ้าของคลิปแฉแท็กซี่ไทย เปิดเผยว่า ตนเป็น Youtuber ที่มักจะทำคลิปสะท้อนเรื่องวินัยจราจร การเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของคนไทย พฤติกรรมของคนไทย และสะท้อนสังคมไทย ผ่านคลิปวิดีโอมาแล้ว 4-5 คลิป ผ่าน Youtube Channal “DOMteamwork” จนเป็นที่ชื่นชอบของคนบนโลกออนไลน์
จนกระทั่งล่าสุดนี้ที่จัดทำคลิป “ปลอมเป็นชาวต่างชาติ แฉแท็กซี่ไทย” ทำขึ้นเพื่อสะท้อนพฤติกรรมการให้บริการแท็กซี่ไทยกับชาวต่างชาติ โดยเริ่มต้นทดสอบการให้บริการแท็กซี่ไทยจำนวน 3 คัน เริ่มต้นเส้นทางจากชิดลม - เยาวราช ราคา 200 บาท ต่อมา จากเยาวราช - สนามหลวง ราคา 250 บาท และสุดท้าย จากสนามหลวง - ชิดลม ราคา 300 บาท ซึ่งเส้นทางนี้เมื่อลองตรวจสอบราคาจาก Grab ราคาเพียง “140 บาท” เท่านั้น
นายทรงศักดิ์ กล่าวต่อว่า แท็กซี่จะเพิ่มราคาเหมาคันจากราคาปกติประมาณ 2-3 เท่า เมื่อถามถึงสาเหตุที่ไม่กดมิเตอร์ คนขับรถแท็กซี่จะอ้างว่า “ไม่มีมิเตอร์ บ้างก็บอกว่ากดมิเตอร์ไม่ได้ บ้างก็บอกว่าตกลงราคากันไว้แล้ว” การให้บริการแท็กซี่ลักษณะนี้เป็นการเอารัดเอาเปรียบชาวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวในไทย จนทำให้เกิดภาพสะท้อนแท็กซี่ไทยออกไปในทางลบมากขึ้น ซึ่งพฤติกรรมการให้บริการนักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินี้ เกิดขึ้นบ่อยจนชิน
ทั้งนี้มีบริการลักษณะแนะนำการท่องเที่ยวไทยใกล้กรุงเทพฯ เช่น ตลาดน้ำอโยธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นต้น ซึ่งเป็นโปรแกรมทัวร์ 1 วัน หรือ 2 วัน พร้อมเสนอราคาหลักพันบาทขึ้นไป บางสถานที่หลายพันบาท ตนจึงมองว่าสูงเกินไป ประกอบกับมองว่าแท็กซี่สามารถเป็นทัวร์นำเที่ยวได้ด้วยหรือไม่ แท็กซี่ผันมาเป็นรถรับจ้างไม่ประจำทางได้ด้วยหรือไม่ เป็นสิ่งที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้ามาตรวจสอบ
โดยตนมองว่า ราคาเหมาแท็กซี่ไทยแพงไม่ต่างอะไรกับโดนโกงเงินค่าโดยสาร จึงอยากให้แท็กซี่ทุกคันกดมิเตอร์บริการผู้โดยสารไม่ว่าชาวไทยหรือชาวต่างชาติ หากไม่กดมิเตอร์ก็จะทำให้ไม่มีราคามาตรฐาน เพราะฉะนั้นควรแก้ปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้กระทบต่อการท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ
ขณะเดียวกัน ตำรวจท่องเที่ยวสามารถตามจับตัวแท็กซี่คันดังกล่าวได้แล้ว โดยตำรวจท่องเที่ยวและกรมการขนส่งทางบก จะเปิดแถลงข่าวในเวลา 18:00น. ที่กองบังคับการท่องเที่ยว 1
โดย
กรมการขนส่งทางบก ระบุ ว่า คนขับรถแท็กซี่คันดังกล่าว กระทำผิดตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ.2522 ใน 2 ความผิด คือ ไม่ใช้มาตราค่าโดยสาร มีความผิดตามมาตรา 5 (2) ประกอบมาตรา 58 โทษปรับไม่เกิน 1 พันบาท และ ไม่ส่งผู้โดยสารตาที่ตกลงกันไว้ ความผิดตามมาตรา 57 ประกอบมาตรา 66/2 ปรับไม่เกิน 1 พันบาท