นักวิ่งเมืองชล เล่าประสบการณ์งานไร้น้ำ ทำเกือบตาย ตะคริวกินทั่วร่าง ถูกหามส่ง รพ.

15 ต.ค. 61
จากกรณี กระแสวิจารณ์ในโลกสังคมออนไลน์ เกี่ยวกับการจัดกิจกรรม “ เดิน-วิ่งการกุศลชลบุรีมาราธอน 2018 ” ซึ่งการจัดกิจกรรมดังกล่าวเมื่อวันที่ 14 ต.ค. ที่ผ่านมา เกิดข้อผิดพลาดมากมาย ทำให้นักวิ่ง 1.4 หมื่นคน แห่แชร์ภาพความไม่ประทับใจ เรื่องความไม่พร้อมของการจัดงานรวมทั้งการขาดแคลนน้ำ สำหรับนักกีฬานั้น (อ่าน : ผอ.โรงพยาบาลขอโทษนักวิ่งเมืองชล เชื่อผู้จัดเจตนาดี แต่เป็นทีมงานท้องถิ่นจึงขาดความมืออาชีพ)
ป้ายกิจกรรม  เดิน-วิ่งการกุศลชลบุรีมาราธอน 2018
วันนี้ 15 ต.ค. 61 สมาชิกเฟซบุ๊กท่านหนึ่ง ได้ออกมาโพสต์รูปภาพและข้อความเกี่ยวกับกิจกรรมวิ่งมาราธอนการกุศลในครั้งนี้ ว่า "ขอเล่าเรื่องงานมาราธอนแรกของผมครับ #CharityChonburiMarathon #ดราม่ามาราธอน สำหรับระยะมาราธอน 42.195 ก.ม. ออกสตาร์ท ช่วง10โลแรกพอจะมีน้ำบ้าง ออกสตาร์ทมาดี เพซ5 แต่ก็ค่อยๆลดมาเรื่อยๆมาอยู่6ปลายๆ 7ต้นๆ (มีแวะเข้าห้องน้ำทีสน.แสนสุขหนึ่งรอบ) แต่พอถึงจุดกลับตัว ม.บูรพา (น่าจะกิโลที่13) น้ำไม่มี (น้ำหมดครับ) พอรับสายรัดข้อมือมา วนกลับมาสักพักกว่าจะเจอจุดน้ำ
โพสต์จากสมาชิกเฟซบุ๊ก
ขาวนกลับวิ่งมาใกล้ที่จุดกางเต๊นท์(ประมาณโลที่23)ก็ไม่มีน้ำ ผมต้องฝืนเลยไปอีกซักพักไปเจอเต๊นท์คนงานก่อสร้าง ในใจคือไม่ไหวแล้ว จึงเอ่ยปากขอน้ำกับคนงานว่า”พี่ครับผมขอทานน้ำนิดนึงได้ไหมครับ” พี่ผู้หญิงเลยไปหยิบกระติกส่วนตัวมาให้กิน ผมนี่ยกมือไหว้งามๆๆๆเลยคร้าบ คราวนี้พอเลยมาจะขึ้นสะพาน ตรงนี้เริ่มมีคนวิ่งสวน จากระยะอื่น 10โล 21โล ทุกคนจะตะโกนว่าข้างหน้าไม่มีน้ำนะ ให้ซื้อติดไปด้วย ผมก็มองหาแต่ขายหมดแล้ว ขนาดมะพร้าวเป็นลูกก็ผ่าขายหมดแล้ว (คิดในใจ กูจะไปยังไงวะ เอ้า!!!ไปเถอะ คงไม่ตายมั้ง ) ระหว่างที่วิ่งสวนมานั้น เหมือนมีพระเจ้ามาโปรด มีพี่ผู้ชายคนนึงสวนมาเอาขวดเปล่ามายื่นใส่มือ บอกน้อง อย่าทิ้งเด็ดขาด กำชับๆ ก็เลยยังดีได้เติมน้ำถือไปน่าจะแถว(กิโลที่25)
ภาพจากเจ้าของโพสต์
คราวนี้พอขึ้นสะพานเรียบทะเลไปคราวนี้เริ่มมาทั้งแดดที่แรงขึ้นแถมไม่มีจุดน้ำหรือพักหลบแดดเลย ยาวไปจนถึงจุดกลับตัวสุดท้ายสุดสะพานประมาณกิโลที่34 มีน้ำแดง(สีแดง แต่ไม่มีความหวาน น่าจะเจือจางมากครับ55) แต่ที่สำคัญคือไม่มีสายรัดข้อ (หมดค่ะ) (ในใจคิดนี่ผมจะวิ่งมากลับตัวตรงนี้ทำไมวะเนี่ย) พอกลับตัวสุดท้าย แม้ไม่มีสายรัดข้อมือ แต่ก็เหลือแค่เดินกลับอีกนิดเดียวเท่านั้น ใจคิดว่าเหลืออีกนิดเดียว ก็เลยฝืนมาได้อีกเกือบกิโล ใจจะขอพักหน่อยนึงแต่พอนั่งเท่านั้นล่ะ ตะคริวมาท้อง มาหลัง มาน่อง มาต้นขา คิดในใจแย่ละ กลัวมันจะลามมาที่หัวใจ(ไม่รู้ทางการแพทย์ มันจะลามมาได้หรือเปล่านะ) แต่ยอมรับว่ากลัว เพราะมันมาทีละจุด จะครบทั่วร่างละ พี่คนที่ยืนตรงนั้นก็วิ่งมาช่วย เอาน้ำมาราดตัว แล้วเรียกรถพยาบาลมารับ
ภาพจากเจ้าของโพสต์
รถก็วิ่งกลับมาเต๊นท์เส้นชัย ระหว่างนั่งมาในรถก็ดีขึ้น พอมาถึงเส้นชัยนั่งซักแปร๊บ กะจะเดินกลับโรงแรม ตอนนั้นยังไม่กล้าโทรบอกใคร ไม่อยากให้เป็นห่วง แต่นั่งซักแป๊บเดียว ตะคริวก็มาอีก ก็เลยคิดว่าไม่ไหวแน่นอน จนสุดท้ายให้มาส่งโรงพยาบาล สมิติเวช ชลบุรี พอคุณหมอตรวจก็พบว่าค่าไตสูงผิดปกติถึง 2.4 (คนปกติอยู่ที่0.5) เลยต้องขอให้อยู่ในห้องICU รอดูอาการกลัวไตวายเฉียบพลัน ผมตั้งใจจะบอกว่าการจัดงานควรคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมแข่งขันให้มากๆๆครับ มันอันตรายถึงชีวิตครับ ผมเองศึกษาจากเส้นทางการวิ่งมาดีพอสมควร วางแผนจุดรับน้ำ จุดพยาบาล จุดอาหาร แต่ถ้าทุกอย่างมันจะเปลี่ยนแผน พวกพี่ก็ควรหาแผนฉุกเฉินเตรียมป้องกันไว้ด้วยครับ" สุดท้าย สมาชิกเฟซบุ๊กท่านดังกล่าว ยังได้ฝากตั้งคำถามไปถึงกลุ่มคนที่จัดงานดังกล่าวอีกด้วยว่า "คนมาวิ่งเป็นหมื่นคน รายได้จากค่าสมัคร กับค่าใช้จ่ายในการเตรียมงาน ถ้าไม่รวมค่าตัวศิลปิน นักร้อง มันควรจะต้องสอดคล้องกันครับ คิดก่อนและจัดลำดับความสำคัญให้ถูกว่าความปลอดภัยกับความบันเทิงมันสมเหตุสมผลกันไหม" หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ทำให้มีสมาชิกเฟซบุ๊กท่านอื่นเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวอีกมาก เช่น บอกเล่าประสบการณ์ในวันงานวิ่งมาราธอน, ย้ำให้ผู้จัดงานควรมีความรับผิดชอบและคำนึงถึงสุขภาพของผู้เข้าร่วมงานมากกว่านี้ เป็นต้น
ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก
ความคิดเห็นจากสมาชิกเฟซบุ๊ก

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ