ความรักต่างวัย 24 ปี ไม่ใช่ปัญหาของ ติ๊ก กลิ่นสี แต่กลับเป็นสิ่งที่ดีต่อชีวิตครอบครัว

13 ก.ย. 64

เปิดแบบหมดเปลือกในทุกเรื่องราวชีวิต สำหรับ ติ๊ก กลิ่นสี เมื่อได้มาแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show เจ้าตัวก็ได้เล่าย้อนตั้งแต่ก่อนเข้าวงการว่าถูกทักจนอายว่าจะได้เป็นดาราดัง แต่เพราะสิ่งเหลือเกินเชื่อได้ ส่วนในเรื่องราวความรักที่ถึงแม้อายุจะมีระยะห่างจากคุณโอ ภรรยาสุดที่รักถึง 24 ปี แต่รักต่างวัยก็ไม่ใช่ปัญหาของตัวเองกับภรรยาเลยแม้แต่นิดเดียว แต่กลับเป็นสิ่งที่ดีต่อชีวิตครอบครัวอีกต่างหาก พร้อมยังเปิดใจว่าจริงๆไม่เคยคิดว่าจะมีลูกแต่เมื่อมีเขาแล้วชีวิตนี้ของตัวเองคือ ขอทุ่มเททุกอย่างให้เพื่อลูกทั้งหมด

 s__75833437

ติ๊ก กลิ่นสี : เรื่องราวนี้ตั้งแต่เมื่อพ.ศ.2526 ตอนที่ผมอยู่ปี 1 มหาวิทยาลัยศิลปากร ผมก็จะสนิทกับคณะโบราณคดี แล้วเราก็ไปดูกัน ไปกันเยอะเลย ตอนนั้นผมยาวมีหนวด ใส่ต่างหู สภาพไม่เหมือนนักศึกษาเลย (ขำ) คนดูเขาบอกว่าต่อไปจะได้เป็นดารา ผมบอกไม่จริง เพราะพื้นฐานผมไม่เชื่ออยู่แล้ว มาดูดวงเรา แล้วบอกเราว่าจะได้เป็นดารา แล้วเป็นดาราดังด้วยยิ่งไปกันใหญ่ แล้วเพื่อนก็โห่เรา เพราะทายเราแบบนี้ แล้วเราก็อาย ผมก็บอกเขาว่าเป็นไปไม่ได้ อันนี้ดูจากอะไร ผมก็ไปหาซื้อหนังสือมาอ่าน อ่านตั้งแต่ 1 ทุ่มจนถึงตี 5 อ่านไม่รู้เรื่องครับ เพราะปกติแล้วผมเป็นคนอ่านหนังสือไม่รู้เรื่อง คงเป็นเพราะพื้นฐานจากสมองก็ได้ครับ อ่านไปอ่านมา เราก็จำไม่ได้ มันเลยจำเป็นต้องอ่าน อ่านทุกวันๆ ตอนไปมหาวิทยาลัย ไปเรียนก็ไปหลับ แล้วก็ไม่ค่อยได้เรียน ก็กลับมาอ่านหนังสือดูดวง แล้วเราก็ไปดูมือเพื่อน ดูลายมืออาจารย์ เราก็สังเกตว่าทำไมคนนี้เขามีเส้นนี้มันคืออะไร แล้วหลังจากนั้นก็ได้มาเล่นหนังของอาเปี๊ยก โปสเตอร์ ที่ได้ไปเล่นเพราะในภาพยนตร์จะมีนักศึกษาในมหาวิทยาลัยรวมอยู่ด้วย ถามว่าตอนที่เราเรียนอยู่เราเป็นที่รู้จักไหมก็เป็นที่รู้จักเพราะผมเป็นพิธีกรเวลาที่เขาแข่งบาสในมหาวิทยาลัย คอยพากย์การแข่งขัน สร้างความสนุกสนานให้กับการแข่งขันและคนที่ไปดู ส่วนมากคนที่มาดูก็มาฟังที่ผมพากย์ เพราะผมก็พากย์ไปเรื่อยให้มันสนุก อันนี้คือความบริสุทธิ์ของตัวเราเองที่แสดงออกมา และสุดท้ายจากตรงนั้นก็กลายมาเป็น ติ๊ก กลิ่นสี ผมก็ถามตัวเองนะครับ ทำไมต้องมีชื่อนี้ เราก็คิดว่าเป็นแบรนด์อันหนึ่งใช่ไหม ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้มันอาจจะบังเอิญ หรือมันอาจจะถึงเวลาของมันก็ได้

ถาม เวลาจะคบใครสักคนหนึ่ง เราจะถามวันเดือนปีเกิดไหม ???

ติ๊ก กลิ่นสี : ก็ถามครับ แต่ก็ถ้าเกิดเราดูแล้วดวงเขาไม่ตรงกับเราหรือใครที่มีดวงแรงกว่าผม ผมไม่คุย (สัญญาณที่แรงกว่าคือเลขรหัส) โดยเฉพาะถ้าเกิดวันอังคาร ไม่ต้องคุย เพราะเขาแรงกว่าเรา เขาขัดแย้ง วันอาทิตย์เป็นศัตรูกับวันอังคาร ถ้าเราไปเจอใครสักคนที่ผมประทับใจ ผมก็จะทักเขาไปว่า น่ารักดีนี่ มีแฟนยัง ผมก็พูดไปหยอดให้สนุกสนาน แล้วก็เข้าประโยคที่ถามเขาไปเลย แล้วน้องเกิดวันอะไร ถ้าเขาตอบเกิดวันอังคาร พี่เกิดวันอาทิตย์ศัตรูกัน คือต้องบอกเลยว่าเราไม่ต้องปิ๊งเขาหรอก แต่แค่มองผู้หญิงคนนี้ จริตเป็นอย่างไร เรารู้โดยอัตโนมัติ ถ้าถามว่าผมมั่นใจในศาสตร์นี้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม ต้องบอกว่าอย่าเอามาเป็นเปอร์เซ็นต์ เราเชื่อว่าเลขรหัสเหล่านี้เป็นตัวบอกสัญญาณหลายๆ สัญญาณ สำหรับเราในการดำเนินชีวิต คนที่ดูรายการนี้แล้วเอาสัญญาณนี้มาลอง โดยเฉพาะหนุ่มสาวก็ลองเอาสิ่งนี้มาลองดูนะครับ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่ผิด มันไม่ใช่สิ่งที่เป๊ะทุกอย่างว่าทำแบบนี้แล้วมันถูกต้อง มันก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งแค่นั้นเอง

ถาม ความรักครั้งแรกของ พี่ติ๊ก กลิ่นสี เกิดขึ้นเมื่อไหร่ ???

ติ๊ก กลิ่นสี คนที่ผมแต่งงานด้วยนะครับ จริงๆ แล้วผมก็เป็นคนสนุก ไม่อยากมีชีวิตคู่ วันหนึ่งก็ไปเจอเขาก็เป็นลูกครึ่งไทย - ออสเตรเลีย แล้วเขาก็เข้าไปที่ Hard Rock Café แล้วผมก็อยู่ Hard Rock Café ผมก็ดูผู้หญิงคนนี้ เขาแบบฝรั่งเลย ผมก็เลยทักเขาไปว่า Hello how are you / I Love You เราก็คุยเล่นๆ เขาก็บอกเราว่าพูดไทยได้ค่ะ เราก็แบบหน้าแตกไปเลย เราก็ถามว่าคุณเป็นใครมาจากไหน เขาก็บอกว่าเขาเป็นแอร์โฮสเตส เขาก็บอกว่าเขามาปาร์ตี้กับเพื่อน แล้วเขาก็มาเล่าตอนหลังว่าเขาดูรายการยุทธการขยับเหงือกจากพี่สาวเขา ซึ่งพี่สาวเขาจบอักษรศาสตร์จุฬาฯ แล้วไปเรียนปริญญาโทที่ซิดนีย์ เขาก็ดูรายการแล้วเขาก็บอกว่าเขาชอบรายการยุทธการขยับเหงือก มันสนุกดี เขาบอกว่าเราตลกดี โดนจริตเขา เขาบอกว่าวันหนึ่งเขามีโอกาส เวลาเขาบินมาพักที่เมืองไทย เขาจะมาดูรายการ ยุทธการขยับเหงือก เราก็รู้สึกว่ามันพิเศษดีเนอะ (ในสิ่งที่เขามาเล่าให้เราฟังทีหลัง)

ถาม ตอนนั้นเริ่มต้นคุยกันแล้ว สานต่อความสัมพันธ์อย่างไร

ติ๊ก กลิ่นสี : การเริ่มต้นทำความรู้จักกับเขาก็ปกติเลยครับ ไม่ได้มีพิเศษอะไร พอเขามีโอกาสที่จะมาเมืองไทย แล้วเราก็ได้เจอกัน มีแค่นั้นเอง เราก็ไม่ได้มีเวลานัดกันไปทานข้าว ดูภาพยนตร์เลย ไม่มีช่วงเวลานั้น แต่ถามว่าจีบคนนี้มาเป็นแฟนได้ยังไง โดยส่วนตัวเขามีความชอบผมอยู่ส่วนหนึ่งแล้ว เขาชอบที่เราสนุกตลก เขามีความสุขเพียงแค่นั้นเองนะครับ ไม่ได้แบบว่าพิเศษอะไรมากเลย เราก็ถามว่าทำไมเขาไม่ชอบคนอื่น เสนาเปิ้ล เสนาเพชร เขาบอกว่าเขาชอบเพราะเราตลก อาจจะโดนจริตเขาก็ได้ ผมก็คิดว่ามันก็เป็นสิ่งพิเศษนะที่เขารู้สึก แล้วเขาเกิดวันที่ 2 วันจันทร์ บอกสัญญาณว่าเขาเรื่องอารมณ์ เรื่องความรู้สึกข้างใน เขาใช้ความรู้สึก แล้วเขาเล่าให้ผมฟังว่าตอนที่เขาไปเสิร์ฟ เขาบอกว่าเห็นหน้าผมลอยอยู่เต็มไปหมดเลย ผมบอกว่าไม่จริงเป็นไปไม่ได้ เพราะผมเป็นมนุษย์ แล้วจะให้ผมเชื่อได้ยังไง ผมไม่เชื่อเป็นภาวะของผมเอง คนอื่นอาจจะเชื่อก็ได้ แต่ผมบอกว่าจริงเหรอๆ นึกออกไหมครับ มันก็เป็นสิ่งแปลกสำหรับผมนะ

ถาม อย่างไรก็ตาม ความรักก็เป็นความรักระยะไกล

ติ๊ก กลิ่นสี เราไม่รู้เลยว่าความสัมพันธ์ของเราคืออะไร แต่เรามีความรู้สึกที่ดีต่อกัน แล้วเขาเป็นคนหน้าตาดี เขามีโอกาสเจอใครเยอะแยะ ผมอาจจะเป็นแค่ตัวเลือกหนึ่งก็ได้ แต่เขามีความรู้สึกว่าเมื่ออยู่กับผมแล้วเขามีความสุขดีนะ ในเรื่องของการคุยตลก คุยเฮฮาปาร์ตี้อะไรประมาณนั้น ถามว่าจีบกันยังไง ก็เดินทางมาอย่างนัดกัน เดี๋ยววันศุกร์จะบินมาจากซิดนีย์มาเมืองไทยนอน 1  คืน พรุ่งนี้เดินทางไปฮ่องกงแล้วบินกลับมาอีก มีเวลาอยู่เท่านั้น เพราะฉะนั้นเราก็จะรู้ว่าเดี๋ยวเราจะเจอกันวันศุกร์ เขามีแพลนการบินล่วงหน้า เราก็เลยรู้ว่าเดี๋ยวเราจะเจอกันเมื่อไหร่ แต่ระหว่างที่เราอยู่ห่างกัน เราก็ไม่เคยส่งอีเมล์ หรือแชทคุยกันเลยครับ เพราะตอนนั้นผมโลวเทคโนโลยีมาก เพราะฉะนั้นคือเจอกันเมื่อเจอกันเท่านั้นเอง

s__75833442

ถาม แล้วก็ได้เริ่มต้นรักครั้งใหม่เจอผู้หญิงที่รู้สึกว่าเขามีแสงออร่ามันคือยังไง ???

ติ๊ก กลิ่นสี : ก็ไปเจอกันจริงๆ แล้วผมเห็นเขา เขาทำงานอยู่ที่สตาร์บัคส์ ผมก็เห็นว่าน้องคนนี้โอเค ไม่ได้อะไร ผมก็นั่งกินกาแฟ ผมไม่ได้คิดอะไรด้วย แต่วันหนึ่งเดินไปเจอเขาเอ๊ะ ผู้หญิงคนนี้แปลก แปลกตรงไหน เพราะผมมีความรู้สึกเขามีแสงออร่า เราก็เลยแบบโอเค ก็เลยลองคุยกัน แล้วก็ถามวันเกิดเขาเหมือนเดิม ตอนนั้นเราก็ใช้ชีวิตแบบปั้นปลายชีวิตแล้ว เราก็ไม่ได้คิดอะไรหรอก แต่มันมีพลังบางอย่างที่ทำให้มีสัญญาณลูก วันหนึ่งบอกมีลูก ผมไม่เชื่อแต่ก็ตกใจ

ถาม คุยกับภรรยานานแค่ไหนว่าตัดสินใจใช้ชีวิตคู่

ติ๊ก กลิ่นสี : สักประมาณ 3 ปี ผมก็ดูพื้นฐานของผู้หญิงนะ ถ้าผู้หญิงมีความรัก พ่อแม่ผมว่าผ่านระดับหนึ่งแล้ว ถ้ามีพื้นฐานนี้ แต่ไม่ใช่สวยแล้วก็แบบพ่อแม่ไม่เคยดูเลย ไม่ต้องมาคุยกับผมเลยแบบนั้น ถามว่าคิดไหมที่คนนี้จะมาเป็นคู่ชีวิต หรือจะเข้าสู่การแต่งงานอีกครั้ง ผมว่าสถานการณ์มันเซตให้ผมนะ ผมเชื่อแบบนั้น ผมก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร แต่ผมว่าพิเศษมาก สำหรับคนที่เรียนศิลปะแล้วมีลูก เพราะว่ามันเป็นสิ่งที่แบบในชีวิตหนึ่ง ไม่เคยคิดว่าจะมีลูก แล้วพอมีเขา ทำให้ผมรู้สึกว่าผมอยากเห็นตัวผมเองตอนเล็กๆ เพราะผมไม่เคยมีรูปถ่าย ไม่เคยมีอะไร ผมก็บอกว่าวันหนึ่งพิเศษมากเลย แล้วมีเขาขึ้นมา แต่กว่าที่จะมีเขาขึ้นมาได้ ตอนแรกๆ ผมก็ต้องผ่านอะไรหลายอย่างเหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ของคุณโอ ซึ่งเป็นภรรยาของผม หรือแม้แต่เพื่อนๆ ของเขาว่าเรานี่โอเคจริงๆ เหรอ

ถาม พี่ติ๊กดูดวงให้ลูกไหม ??

ติ๊ก กลิ่นสี :  ดูตั้งแต่ที่เขายังไม่เกิดเลยด้วยครับ ผมก็ตั้งใจว่าถึงเวลาเขามาแล้ว ผมก็เลยเตรียมเซตว่าถ้าเขาเกิดปี 2559 ดูกาลโยค กาลโยควันพุธเป็นอธิบดี ผมให้ลูกเกิดวันพุธอันดับหนึ่งเลข 4 วันพุธ 4 แตะอยู่คู่อะไรดี ถ้า 4 แตะอยู่คู่ 2 การพูดการเจรจาดี แต่ถ้า 4 แตะอยู่คู่ 1 โชคดีสติปัญญานี้ ผมเซตไว้หมดเลยสำหรับลูกผมที่จะเกิดมา แล้วผมก็ดูเส้นลายมือเขาด้วย แปลกมากเลย เส้นอาชีพเขาสวย บางทีเราไม่ต้องอวยลูกก็ได้ แต่ที่เนินมือเขาไม่ธรรดาเลย เส้นอาทิตย์ขนาดนี้เลยเหรอ ผมยังบอกว่าอวยลูก ลูกผมดี ไมจำเป็นดูกันเองดีกว่า ดูหัวกะโหลกเขาดูตำแหน่งเขา ถามว่าคิดว่าต่อไปเขาจะเป็นอะไรในอนาคต เป็นนักการทูตครับ แต่เขาจะไม่เป็นก็ได้ นึกออกไหมครับ เขาจะเป็นอะไรเรื่องของเขา แต่ว่าดูดีๆ เซตแล้วภาษาอังกฤษเขาเก่ง สำเนียงเขาดีมากๆ ผมยังบอกเพื่อนผมเลย สงสัยพ่อมันเป็นฝรั่ง

ถาม แล้วถามพี่ติ๊ก กับ คุณโอ ใครดุมากกว่ากันเอ่ย

ติ๊ก กลิ่นสี : คุณโอเขาจริงจังกับลูกมากเลย อายุผมกับคุณโอเราห่างกัน 24 ปี แต่โดยส่วนตัวผมไม่ได้ชอบเด็กนะครับ แต่บุคลิกที่เจอเขา เขาไม่มีสัญญาณเด็กเลย มีสัญญาณความเป็นผู้ใหญ่การพูดการจา

ถาม ซึ่งสัญญาณส่วนหนึ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่าคนนี้คือใช่ แต่หลังจากใช้ชีวิตจริงๆ 24 ปี มีผลกับความสัมพันธ์ของคู่เราไหม

ติ๊ก กลิ่นสี : มันกลับเป็นสิ่งที่ดี เขาอายุห่าง 24 ปี ตอนนั้นเราเป็นอย่างไร เราตอนนี้เป็นอย่างไร ทำไมต้องมีสัญญาณนี้ ยาวขนาดนี้ อ๋อ … แสดงว่าให้เรามีวุฒิภาวะ ย้อนกลับมาเพื่อสอนเขาว่าตอนนั้นผมอารมณ์เป็นอย่างนี้นะ จากนี้ไปคุณมีผมเดินไปด้วยกัน อีก 10 ปีคุณต้องเป็นอย่างนี้นะ ผมเป็นอย่างนี้นะ วันหนึ่งเราก็จากกันไปด้วยภาวะอะไรก็แล้วแต่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเขาอันนี้แท้จริง อันนี้คือของๆ เขานะ เรามอบให้เขา สุดท้ายเขาจะไปทำอะไรเรื่องของเขา เขาเป็นตัวของเขาเอง ลูกผมโตมาอาจจะมีวิธีคิดที่แตกต่างก็ได้ แต่เราเชื่อว่าการสอนเป็นสิ่งสำคัญในการปลูกฝังความรักที่มีต่อลูกกับภรรยา สายตา การเอื้ออาทร มีแววตาห่วงหาอาทรเวลาจับมือลูก จับมือภรรยา สัญญาณในมือเนี่ยอาจจะพิเศษก็ได้ ผมเชื่อเรื่องนั้น ผมนอนกับลูก แล้วผมก็จะดูพฤติกรรมในการที่เขาแสดงออกว่าเขาแสดงออกในอารมณ์ไหน เขาชอบทำหน้าทำตา ผมก็มองอ๋อ เพราะเขาดูจากเรา เขาได้เห็นจากงานที่เราแสดง ได้สัมผัสไปเรื่อยๆ เขาก็มีภูมิคุ้มกันต่อไปในอนาคต ตอนนี้เขาก็อายุ 5 ขวบ 3 เดือนแล้วครับ ถามว่าจะมีอีกไหม ผมบอกไม่ครับ เพราะผมอยากจะดูแลเขาคนนี้ด้วยภาวะของผม ซึ่งเพราะผมเองไม่เคยคิดจะมีลูก แต่เมื่อผมมีแล้ว ผมอาจจะมีความคิดพิเศษกว่าคนอื่น แล้วผมจะรักษาความรักผมตลอดไป

s__75833443_1

สามารถชมคลิปย้อนหลังได้ทางยูทูบ

https://youtu.be/eTuLjCVYfiU
https://youtu.be/DnEBaHUImXU
https://youtu.be/Honq0WysrA0
https://youtu.be/74NZxa3zvX8
https://youtu.be/GaMK2ycCdPs

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

- เก๋ ชลลดา เผยเรื่องราวผู้ชายในฝันที่กลายมาเป็นคู่ชีวิตจริง
- เคลลี่ ธนะพัฒน์ รับยังไม่พร้อมมีรักครั้งใหม่ แต่เชื่อว่าสักวันต้องเจอเนื้อคู่
- เปิดความลับที่ไม่เคยบอกที่ไหน คนแบบ ต๊อก ศุภกร มีแค่ 3 เปอร์เซ็นต์ในโลก !

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส