วันที่ 15 ต.ค. 61 เวลา 20.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.พุทธมณฑล อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม รับแจ้งมีเหตุยิงกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่บริเวณถนนพุทธมณฑลสาย 4 ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้าซิตี สีแดงเลือดหมูทะเบียน กง1706 นครปฐม จอดแน่นิ่งอยู่โดยมีคนงานชาย 2 คนกำลังยืนรอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถัดไปพบรถกระบะยี่ห้อนิสสันสีขาว ทะเบียน1ฒค452กรุงเทพ ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อคือ นางกาญจนา พุ่มสงวน อายุ 42 ปี บ้านเลขที่ 90/1 ม.3 ต.กลอนโต อ.ด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนาด 9มม.เข้าที่กลางหลัง 1 นัด เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลพุทธมณฑล และมีคนเจ็บที่ถูกยิงในรถอีก 1 คนคือนายสมพิศ พุ่งสงวน อายุ 56 ปี พี่ชายของนางกาญจนา ถูกยิงด้วยอาวุธปืนชนาดเดียวกันเข้าที่หน้าอกอาการสาหัสถูกนำตัวไปโรงพยาบาลพร้อมกันแต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา
สอบถามนายแดง แร่เพชร พยานที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ตายและคนเจ็บทั้งหมด 4 คนได้ขับรถยนต์เก๋งเพื่อเข้ามาค้างคืนที่โรงกลึงเหล็กเลขที่ 354 แขวงศาลาธรรมสพน์เขตทวีวัฒนาของนายพิชัย สุขศิริ อายุ 58 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11/87 ถ.สุภาพบุรุษ แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนากรุงเทพ เพื่อจะไปทำงานในวันรุ่นขึ้นด้วยกัน เมื่อไปถึงก็พบว่านายพิชัยนั่งดื่มเบียร์รออยู่และเตรียมที่พักไว้ให้แล้ว
เมื่อได้เริ่มนั่งคุยกันนางกาญจนาได้สอบถามถึงเรื่องเงินจำนวน 2.5 แสนบาทที่ได้ไปรับเหมาร่วมกับนายพิชัยแต่เมื่อคุยกันไปมากลับมีปากเสียงกัน โดยนายพิชัยเกิดโมโหที่ถูกทวงถามเรื่องเงิน ลูกชายของนายพิชัยเห็นท่าไม่ดีจึงได้โทรไปแจ้งที่ 191 เพื่อให้มาระงับเหตุ แต่ทันใดนั้นนายพิชัยได้ชักอาวุธปืนขนาด9มม.ขึ้นมาเพื่อจะยิงใส่นางกาญจนา แต่นายสมพิศ พี่ชาย ได้ลุกขึ้นปัดปากบอกปืนแต่ไม่สำเร็จกระสุนได้ลั่นใส่หน้าอก 1 นัดล้มลงทำให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างตกใจกับสิ่งที่เกิดขั้นและรีบนำร่างนายสมพิศขึ้นรถเพื่อไปหาหมอและหลบหนี
ขณะที่นางกาญจนาและคนงานอีก 2 คนที่มาด้วยได้นำร่างของนายสมพิศขึ้นรถยนต์เก๋ง เพื่อจะไปส่งโรงพยาบาลพุทธมณฑล แต่นายพิชัยยังได้ขับรถกระบะกวดตามมาก่อนปาดหน้าและลงจากรถวิ่งขึ้นหน้าฝากระโปรงแล้วใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่ในรถอีก 2 นัด เข้าที่กลางหลังของนางกาญจนา จังหวะนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของสภ.พุทธมณฑลอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุจึงได้มีการจับกุมได้ทันควัน
นายพิชัย ผู้ก่อเหตุ บอกว่า ตนเองเครียดที่ถูกกลุ่มผู้ตายและได้รับบาดเจ็บมาทวงเงิน ตนรู้ว่ากลุ่มของนางกาญจนาทั้ง4คนนั้นมีการเสพยาเสพติดมาด้วย ซึ่งตนเองคิดว่าการที่มาชวนทะเลาะและทวงเงินนั้นเป็นเพราะมีฤทธิ์ยาเสพติด ที่ต้องชักปืนขึ้นมาเพื่อป้องกันตัว เนื่องจากทั้ง 4 คน เริ่มจะแสดงท่าทีว่าจะเข้ามารุมทำร้ายตนเอง ที่ผ่านมาก็พยายามเตือนเรื่องเสพยาแต่ก็ยังไม่เลิกรวมทั้งเรื่องทวงเงิน ทำให้ตนเองบันดาลโทสะ ช่วงที่ขับรถกวดมายิงหน้ามืดไม่ได้สติและควบคุมความโมโหไว้ไม่ได้
เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบปากคำนายพิชัย สารภาพว่าเคยมีคดีฆ่าคนตายมาแล้วเมื่อปี 49 ถูกจำคุกมาแล้ว 7 ปี 8 เดือนเพราะคิดว่าจะโดนรุมทำร้ายเหมือนเหตุการณ์นี้ โดยจะมีการสอบสวนและส่งตัวนายพิชัยมือยิงให้กับสน.ธรรมศาลาท้องที่ที่เกิดเหตุเนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่ต่อเนื่องกันในเหตุการณ์
ติดตามข่าวสารเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้ที่ อมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34