มายด์ กมลวสุธ์ อดีตเดอะสตาร์ เล่าบาดแผลในใจจนเป็นซึมเศร้า วอนหยุดแชร์คลิปเก่า ลั่นรายการอย่าทำแบบนี้กับใครอีก

มายด์ กมลวสุธ์ อดีตผู้เข้าประกวดเดอะสตาร์ วอนชาวเน็ตหยุดขุด หยุดแชร์คลิปเก่าสมัยเข้าประกวด ลั่นรายการตัดเฉพาะช่วงที่รุนแรงออกมา ทำให้ชีวิตหลังจากนั้นโดนชาวเน็ตด่าถึงพ่อแม่ เกิดบาดแผลในใจจนเป็นโรคซึมเศร้า

โดย มายด์ กมลวสุธ์ โพสต์ไอจีเล่าบาดแผลในใจ พร้อมแคปชั่นว่า "เล่าเรื่องแผลในใจที่เก็บมานานแล้วนิดหนึ่ง แชร์ลงสตอรี่ได้เต็มที่เลยนะ ถือว่าช่วยให้คนเข้าใจเรามากขึ้นและเพื่อไม่ให้รายการไปทำแบบนี้กับใครอีกงะ ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากทุกคนด้วย มันช่วยเราได้มากเลย ปล.ตอนนี้มายติดต่อให้เจ้าของบัญชี Tiktok ลบคลิปไปแล้วนะคะ"

สำหรับที่มาของเรื่องราวทั้งหมด สาว มายด์ กมลวสุธ์ เล่าว่า 

"ก่อนหน้านี้เราเห็นโพสต์ใน Tiktok ที่มีคนเอาคลิปสมัยเราประกวด The Star ไปรีโพสต์แล้วมีคนดู ไป 3 ล้าน มันทำให้เรานึกถึงช่วงเวลานั้นที่อยากลืมไปแล้วมากๆ แบบเป็นแผลในใจเรามานาน แบบที่ไม่กล้าดูคลิปซ้ำมานานมากๆ ขอเล่าหน่อยแล้วกันนะ อยากให้เป็นสิ่งที่คนทำรายการต่อไปไม่ควรทำแบบนี้กับผู้เข้าประกวดแล้ว ใครอยากแชร์ก็แชร์ได้เลยนะ ถือว่าช่วยแก้ให้เราด้วยละกัน"

"หลายคนคงเคยเห็นคลิปตอนนั้นที่เราไปประกวดแล้ว เอาจริงคือเราตื่นเต้นมาก ต้องโทษตัวเองที่ทำอะไรไม่ถูกจริงๆ จำได้ว่าตอนแรกที่เข้าไปคือ เราแทบไม่พูดอะไร แล้วกรรมการบอกว่าเราดู เงียบไป ดูน่าเบื่อ เราเลยพยายามชวนคุยด้วย"

"อีกอย่างเขาตัดมาเฉพาะช่วงที่มันดูแรง ทำให้หลายคนเข้าใจเราผิดไปเยอะมาก ทั้งเพื่อน รุ่นน้อง ครูหลายคนที่โรงเรียน (สำหรับคนที่ยังเข้าใจเราอยู่คือขอบคุณมากจริงๆ) ตั้งแต่รายการออก เราก็เจออะไรหลายอย่างจริงๆ คำพูดของกรรมการและชาวเน็ตในตอนนั้นทำร้ายเรามาก (ตอนนี้ก็ยังมีคอมเมนต์แย่ๆ อยู่นะอ่านแล้วก็เศร้านิดหนึ่ง) ถ้าจะนับว่าเป็นโรคซึมเศร้าก็คงพอได้ เอาเท่าที่จำได้แล้วกัน"

"1. เราเสียความมั่นใจไปเลย เริ่มคิดว่าสิ่งที่เราเป็นมันผิดใช่ไหม ไม่ควรกล้าพูดกล้าแสดงออกความคิดอะไร กลายเป็นกลัวไปหมด กว่าจะกลับมาได้ก็ยากเหมือนกัน

2. เราต้องมานั่งแก้ข่าวกับคนที่โรงเรียนและมหาลัยว่าเราไม่ได้เป็นคนแบบนั้น รวมถึงรุ่นน้องที่ไม่เคยรู้จักเรา และหลายคนที่ไม่เคยคุยก็คิดกับเราในอีกแบบไปแล้ว (หรือเราอาจจะรู้สึกไปเอง)

3. ถึงเรื่องจะผ่านมานานมากแล้ว แต่มันก็ยังมีผลกับเรามากๆ เรายังนึกถึงวันนั้นอยู่ว่าเราเป็นคนผิดที่ตอบออกไปแบบนั้น เราชอบฝันเกี่ยวกับเรื่องนี้อยู่บ่อยๆ ว่าถ้าเราทำอีกแบบ มันจะได้ผลอีกแบบมั้ย ทำไมเราถึงไม่ทำนะ

4. พ่อแม่เราโดนชาวเน็ตว่าเยอะมาก คือเรารู้สึกแย่เพราะเขาไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เหมือนเขาเลี้ยงลูกมาแย่อะไรแบบนั้น ทั้งที่เขาคอยซับทุก อย่างและเป็นพ่อแม่ที่ดีมาตลอด

"เอาจริงคือพยายามลืมเรื่องนี้ไปแล้วแหละ เพราะมันนานมากๆ แล้ว แต่มันก็ยังตามมาหลอกหลอนอยู่ตลอด เหมือนพอเริ่มจะทำอะไรใหม่ที่เกี่ยวกับการร้องเพลงหรือการแสดง เราก็รู้สึกแย่ขึ้นมาอีกแต่เราก็พยายามทำตัวให้ดีขึ้นเพื่อให้ไปต่อให้ได้เพราะเราอยากทำในสิ่งที่เรารัก ใจที่อ่านคอมเมนต์ในตอนนี้แล้วหลายคนไม่ได้มองว่าเราเป็นตัวตลก แล้วก็เข้าใจว่าเราในตอน นั้นแค่ประหม่าแล้วก็กล้าพูดในสิ่งที่คิด เพราะมันเป็นแบบนั้นจริงๆ ดีใจที่มีหลายคนช่วยดีเฟนให้เรา เราดีใจมากๆ เลยนะ ขอบคุณจริงๆ"

"ถึงตอนนี้เราจะไม่เหมือนเดิมแล้ว ก็นะโตขึ้นมากแล้วแหละ แล้วก็มั่นใจในตัวเองขึ้นมาประมาณหนึ่งแล้ว เราก็อยากขอบคุณตัวเองนะที่ผ่านมันมาได้ (แต่ก็ยังร้องไห้อยู่ 55555 อ่อนแอจัง) และขอบคุณทุกคนที่คอยอยู่ข้างเรา ในทุกวันนี้ก็ดีใจนะที่หลายคนยังเชื่อมั่นในตัวเราและรู้จักเรามากกว่าการที่จะเชื่อแค่คำพูดของใครบางคนและคลิปในอดีต"

"สุดท้ายอยากจะฝากให้คนที่ทำรายการหน่อยว่าอย่าสร้างปมในใจแบบนี้ให้ใครอีกเลย เราไม่ใช่คนแรกที่โดนแบบนี้หรอก แต่ไม่อยากให้มีใครต้องโดนว่าแบบนี้เพื่อ Rating อีกแล้ว เพราะหลายคนก็มารายการเพื่อความฝันของตัวเอง ไม่ได้มาเพราะอยากเสียความมั่นใจและเสียสุขภาพจิตไปเลยแบบเรา"

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สิงโต เดอะสตาร์ เข้าพิธีประดับยศ "เรืออากาศโท"