วันที่ 15 ก.ย.64 สำนักข่าวต่างประเทศรายงาน องค์กรด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม Sea Shepherd Conservation Society เปิดเผยว่า มีโลมากว่า 1,400 ตัว ถูกสังหารเมื่อวันอาทิตย์ (12 ก.ย.) ที่ผ่านมา บริเวณชายฝั่งของหมู่เกาะแฟโร เขตการปกครองตนเองของเดนมาร์ก ทางตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประเพณีการล่าของชาวเกาะที่สืบทอดมานาน
หน่วยงาน NGO ซึ่งมีฐานอยู่ในสหรัฐฯ เผยว่า มีโลมาสายพันธุ์แอตแลนติกข้างขาว ทั้งหมด 1,428 ตัวถูกสังหาร ซึ่งถือเป็นจำนวนมากที่สุดที่ถูกล่าภายใน 1 วันเท่าที่มีการบันทึกไว้ทั่วโลก โดยรายงานข่าวระบุว่า การล่าโลมาประจำปี เป็นส่วนหนึ่งของประเพณีที่สืบทอดมายาวนาน ในหมู่เกาะตอนเหนือของมหาสมุทรแอตแลนติก โดยนักล่าจะใช้เรือยนต์ต้อนฝูงโลมามายังชายหาด ก่อนสังหารพวกมันจนทำให้พื้นที่ตลอดแนวชายฝั่งกลายเป็นสีเลือดที่หลังออกมาจากตัวโลมา
ภาพที่หลายคนมองว่าดูโหดร้ายทารุณนี้ จุดกระแสเรียกร้องจากนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ให้ยุติประเพณีสุดโหดที่เกิดขึ้นทุกปี และในปีนี้ จำนวนโลมาที่ถูกสังหาร ทำให้กลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิสัตว์แสดงจุดยืนต่อต้านมากขึ้น เพราะเห็นว่าเป็นการล่าเกินความจำเป็น
อย่างไรก็ตาม ชาวหมู่เกาะแฟโร ต้องการรักษาประเพณีล่าวาฬและโลมาของพวกเขาไว้ เนื่องจากเปรียบเสมือนกระดูกสันหลังของการดำรงชีพ เพราะพวกเขาบริโภคเนื้อโลมา และวาฬ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- อียิปต์พบฟอสซิล วาฬ 4 ขา เก่าแก่ 43 ล้านปี เชื่อมโยง วาฬบก-ทะเล
- นักวิจัยพบ มนุษย์ คือสาเหตุใหญ่ ทำนกสูญพันธุ์อย่างน้อย 469 สายพันธุ์
- วิจัยพบ ไวรัสโคโรนา เอี่ยวก่อโควิด-19 แพร่กระจายในค้างคาวเกือกม้าสหราชอาณาจักร
Advertisement