จากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 5 และเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรหางดงจังหวัดเชียงใหม่ เข้าทำการจับกุม พระพันธ์ศักดิ์ ฐิตสีโลอายุ 37 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดศรีวารีสถาน (วัดน้ำโท้ง) ตำบลสบแม่ข่า อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ภายในบริเวณวัดช่วงเย็นวานนี้ (16ต.ค.61) นั้น (อ่าน :
รวบคากุฏิ! มารศาสนาลวงเด็กชายวัย 15 ข่มขืนกระทำชำเรา)
วันนี้ 17 ต.ค. 61 บรรยากาศที่วัดศรีวารีสถาน (วัดน้ำโท้ง) พระสงฆ์และสามเณรยังคงปฏิบัติศาสนกิจตามปกติ ขณะที่มีบรรดาชาวบ้านและผู้ศรัทธารวมกันนั่งล้อมวงพูดคุยกันเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ต่างตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากก่อนหน้านี้รักษาการเจ้าอาวาสไม่เคยมีการแสดงพฤติกรรมใด ๆ ที่ผิดสังเกตหรือส่อว่าจะมีการกระทำลักษณะดังกล่าว และตลอดเวลาที่ผ่านมาเกือบ 2 ปี ที่ปฏิบัติหน้าที่ได้พัฒนาวัดเป็นอย่างดี กระทั่งเป็นที่ยอมรับของชาวบ้าน
ทั้งนี้ นายครรชิต ม่อนคำดี อายุ 74 ปี มัคนายก วัดศรีวารีสถาน (วัดน้ำโท้ง) กล่าวว่า ชาวบ้านและผู้ศรัทธาวัดที่ทราบข่าวการจับกุมของรักษาการเจ้าอาวาสต่างรู้สึกตกใจและเสียใจ เพราะตลอดเวลาเกือบ 2 ปี ที่พระพันธ์ศักดิ์ ทำหน้าที่รักษาการเจ้าอาวาส ก็ได้พัฒนาวัดให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และไม่เคยมีการกระทำใด ๆ ที่ผิดปกติหรือส่อแววถึงพฤติกรรมอย่างที่เป็นข่าว อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสืบสวนจนมีพยานหลักฐานชัดเจน และออกหมายจับพร้อมทั้งทำการจับกุมแล้ว จากนี้คงต้องให้เป็นไปตามกระบวนการกฎหมาย
จากนี้คณะกรรมการวัดและชาวบ้านจะมีการประชุมร่วมกันอีกครั้ง ว่าจะทำอย่างไรกันต่อไป โดยเฉพาะงานทอดกฐินที่กำหนดจะมีขึ้นในช่วงต้นเดือน พ.ย. 61 ซึ่งคณะมาทอดกฐินนั้นเป็นลูกศิษย์ของรักษาการเจ้าอาวาสรูปดังกล่าว เมื่อเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น จึงไม่แน่ใจว่าคณะจะยังคงมาทอดกฐินตามเดิมหรือไม่ ซึ่งจะมีการติดต่อไปเพื่อหาข้อสรุปร่วมกันอีกครั้ง
ขณะที่ นางจันทร์ สมคะมณี อายุ 63 ปี ชาวบ้านที่เข้าวัดทำบุญเป็นประจำ เปิดเผยว่า ส่วนตัวค่อนข้างมีความสนิทสนมใกล้ชิดกับรักษาการเจ้าอาวาสที่ถูกจับกุม เพราะเข้าวัดทำบุญอยู่เสมอ ที่ผ่านมาเกือบ 2 ปี ที่รักษาการเจ้าอาวาส ได้พัฒนาวัดอย่างมาก ทำให้สภาพโดยรอบวัดดีขึ้นมีความสวยงามและเป็นระเบียบ รวมทั้งทำให้ชาวบ้านพากันเข้าวัดทำบุญมากขึ้น
เมื่อเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้น ตนรู้สึกตกใจและเสียใจมาก เพราะไม่อยากเชื่อว่ารักษาการเจ้าอาวาสมีพฤติกรรมเช่นนี้ ซึ่งตัวเองได้ไปเยี่ยมรักษาการเจ้าอาวาสที่ห้องขังมาแล้ว เพื่อให้กำลังใจ ซึ่งรักษาการเจ้าอาวาสบอกกับตนว่า "เสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่สุดท้ายเรื่องทั้งหมดอาจต้องว่ากันไปตามบุญตามกรรมและตามกระบวนการทางกฎหมาย หากอาตมาเป็นผู้บริสุทธิ์จริง ก็จะได้กลับมาบวชเป็นพระอีกครั้ง"