อสม.หนองบัวลำภู พายายวัย 71 ปี มาร้องสื่อขอความช่วยเหลือ ยายอยากฉีดวัคซีนโควิด แต่ไม่มีบัตรประชาชนจึงไม่มีสิทธิ เผยเคยไปติดต่ออำเภอบอกให้รอ 8 ปีแล้วยังไม่ได้
เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2564 ผู้สื่อข่าวหนองบัวลำภูรายงานว่า นางสาวสมัคร วงศ์ล่าม อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) หมู่บ้านโคกม่วย หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านพร้าว อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู ได้แจ้งว่ามีชาวบ้านคนหนึ่งสภาพชีวิตยากจน ไม่มีบัตรประชาชน ไม่สามารถที่จะขอฉีดวัคซีนได้ ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปยังบ้านของนางบุญ ชามัด อายุ 71 ปี ที่บ้านไม่มีเลขที่ ปลูกอยู่บนริมสระสาธารณะหมู่บ้านในบ้านโคกม่วย ต.บ้านพร้าว อ.เมือง จ.หนองบัวลำภู
นางบุญ เล่าให้ฟังว่า ตนเกิดที่จังหวัดอุบลราชธานีจำวันเกิดไม่ได้ จำได้แต่ว่าปี 2493 พ่อแม่พามาอยู่ที่บ้านดอนหัน ตำบลหัวนา อำเภอหนองบัวลำภู จังหวัดอุดรธานีในสมัยนั้น ปัจจุบันเป็นอำเภอเมืองจังหวัดหนองบัวลำภู ตั้งแต่ยังเล็กๆ ต่อมาก็พาอพยพหาทำงานรับจ้างไปหลายที่ จนอายุประมาณ 7 ขวบ พ่อแม่จึงพาไปเข้าเรียนที่โรงเรียนบ้านบึงแกกลุ่มโรงเรียนโนนท่อน อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น แต่เรียนไม่จบก็พาย้ายเร่ร่อนรับจ้างไปเรื่อย จนย้ายกลับมาที่บ้านดอนหันอีกครั้ง
ต่อมาโตขึ้นได้สามีชาวอุบลราชธานี สามีพาไปอยู่ที่จังหวัดอุบลราชธานีอีกหลายปีแต่ไม่มีลูก หลังจากพ่อแม่เสียชีวิตสามีได้เลิกรากันและพามาส่งไว้ที่บ้านดอนหันให้อยู่กับพี่สาว ต่อมาพี่สาวเสียชีวิตไปจึงอยู่กับหลานลูกของพี่สาวและหลานเขย ย้ายเร่ร่อนมาอยู่ที่บ้านโคกม่วย หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านพร้าว เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ชาวบ้านสงสารจึงให้ไปปลูกกระท่อมอยู่อาศัยที่ริมสระสาธารณะหมู่บ้าน ต่อมาทางหมู่บ้านขอความช่วยเหลือ ทางอำเภอจึงได้วัสดุอุปกรณ์มาปลูกสร้างบ้านพอคุ้มแดดคุ้มฝน แต่เนื่องจากไม่มีบัตรประชาชนจึงไม่ได้รับสิทธิ์สวัสดิการใดๆ ทั้งสิ้น
นางสาวสมัคร วงศ์ล่าม อสม.เล่าว่า ยายอาศัยกินอยู่กับหลานสาวหลานเขยซึ่งมีอาชีพรับจ้าง เช่น ตัดอ้อย ดำนา เกี่ยวข้าว ขุดมัน สุดแต่จะมีคนจ้าง หากไม่มีงานไม่มีเงินก็อาศัยเพื่อนบ้านที่สงสารช่วยจุนเจือหรือไปเซ็นข้าวสารมาหุงกินก่อน ได้เงินแล้วก็ไปใช้หนี้เ มื่อก่อนหลานเขยทำงานก่อสร้างแต่เกิดอุบัติเหตุตกนั่งร้าน หลังไม่ดีทำงานหนักไม่ได้ รับจ้างได้แต่งานที่ไม่หนักมาก สองคนผัวเมียมีรายได้ประมาณเดือนละ 3,000 บาท ก็พอเลี้ยงชีวิตไป
สำหรับนางบุญ เนื่องจากมีเอกสารแค่สำเนาหลักฐานการรับเข้าเรียนและสำเนาบัตรของครูใหญ่เท่านั้นที่เก็บติดตัวมา ตนได้นำเอกสารเหล่านี้ไปหาอำเภอเพื่อขอความช่วยเหลือในการระบุตัวตนเพื่อทำบัตรประชาชนให้ได้รับสวัสดิการของรัฐ พอได้เลี้ยงชีพไป แต่อำเภอบอกให้รอฟังข่าว ผ่านมา 8 ปีก็ไม่มีการติดต่อกลับมา ภายหลังตนเคยทำหนังสือไปที่จังหวัดและสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เพื่อขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่แจ้งให้กลับไปติดต่อที่อำเภอใหม่ตนจึงหมดหวัง ยิ่งตอนนี้โรคโควิด-19 กำลังระบาดอยากให้ได้สิทธิ์ฉีดวัคซีนด้วยจึงวอนผ่านทางสื่อมวลชนเผื่อมีจะมีหนทางช่วยเหลือให้ได้มีบัตรประชาชนได้ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กับเขาบ้าง