ต่าย สายธาร เผยอาการป่วยมะเร็งตับของคุณแม่ ตอบสนองหลังวิดิโอคอลพูด “แม่รอหนูนะ”

หลังจากก่อนหน้านี้ นักแสดงสาว ต่าย สายธาร ได้โพสต์เฟซบุ๊กแจ้งข่าว คุณแม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายที่ตับและปอดระยะเเพร่กระจาย ซึ่งตนไม่ได้กลับไปหาคุณแม่มาประมาณ 2 ปี สาเหตุหลักเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 แต่เกิดเป็นดราม่าขึ้นชาวเน็ตวิจารณ์ สร้างภาพใจบุญ แต่ 2 ปีไม่เคยไปดูแลคุณแม่ตัวเองที่ป่วยหนักให้คนอื่นมาดูแลแทน

ล่าสุด ต่าย สายธาร เปิดใจกับอมรินทร์ทีวีว่า คุณแม่เป็นมะเร็งที่ตับอ่อน ในระยะที่เรียกว่าลุกลาม ระยะ 4 คือ ระยะสุดท้าย คุณแม่อายุ 80 ปี และมีโรคประจำตัว คือความดัน เบาหวาน และมีโรคหัวใจเพิ่มเข้ามา ตนก็เพิ่งทราบว่าคุณแม่เป็นมะเร็ง เพราะว่าผลเพิ่งออก

ก่อนหน้านี้ คุณแม่ก็เหมือนคนชราที่เขามีโรคประจำตัวทั่วไป โดยที่ผ่านมานั้นมีลูกสาวบุญธรรมของ ต่าย สายธาร คอยดูแลและเป็นตัวแทนของตน ซึ่งในตอนนี้ คุณแม่อยู่ในความดูแลของคุณหมอและทีมแพทย์และพยาบาลอย่างใกล้ชิด

โดยหลังจากที่มีโอกาสได้ปรึกษาคุณหมอในเรื่องของการเข้าเยี่ยมคุณแม่หลังจากนี้นั้น คุณหมอแนะนำมาว่าในวันที่ 21 กันยายนนี้ จะให้เข้าเยี่ยมได้ โดยจะเป็นการย้ายคุณแม่ไปอยู่ที่ห้องประคับประคอง

ซึ่ง ต่าย สายธาร เผยอีกว่า หากถามว่ามีความหวังไหมนั้น คนเราถึงความหวังจะเป็นศูนย์ หรือ 1% อาจจะเป็นความหวังสุดท้ายของเขาก็ได้ ตนเคยบอกหลาย ๆ คนแบบนี้จน ณ วันนี้เป็นประโยคที่ต้องเอามาใช้กับตัวเอง ตนยังมีความหวัง ซึ่งวันก่อนได้มีวิดีโอคอลคุยกับคุณแม่ ก็มีการตอบสนองกลับมา คือ กระพริบตา ตนก็ตะโกนเรียกคุณแม่ว่า “แม่รอหนูนะ”

ทั้งนี้ ต่าย สายธาร ยังบอกอีกด้วยว่า อย่างที่หลายคนมองว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ตนไม่เคยหาคุณแม่นั้น ในส่วนนี้ตนขอบอกว่า ตนอยู่ตรงนี้เจอกับผู้ป่วย เป็นกลุ่มเสี่ยงและยังดูแลคนป่วยด้วย อีกอย่างหนึ่งเป็นพื้นที่สีแดง และช่วงที่ผ่านมาสนามบินก็ปิด ส่วนลูกสาวก็อยู่ในพื้นที่สีแดง ซึ่งลูกสาวก็บอกกับตนว่าย่าพึ่งกลับไป เพราะหากตนไปเจอกันก็จะเสี่ยงและคุณแม่อายุ 80 ปีแล้ว ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นว่า สมมุติจากที่คุณแม่ของตนเป็นมะเร็ง ตนยังมีโอกาสได้กลับไปเจอแม่ ได้กลับไปกราบท่าน กราบเท้า ลาท่าน แต่ถ้าเป็นโควิ-19 ตนจะไม่มีโอกาสนั้นเลย อยากให้ทุกคนเข้าใจด้วยตรงนี้

556058