จากกรณี วานนี้ (17 ต.ค.) ที่บริเวณริมถนนบ้านจั่น ต.โนนผึ้ง อ.วารินชำราบ จ.อุบลราชธานี ช่างทาสีถูกฟันด้วยมีดสปาต้ายาวประมาณ 10 นิ้ว นิ้วกลางกับนิ้วก้อยขาดไป 1 ข้อ และคมมีดถูกศรีษะด้านซ้ายของเหยื่อเป็นแผลยาว เย็บกว่า 20 เข็ม ส่วนลูกสาวโดนลูกหลงถูกเตะถูกแก้มด้านซ้ายบาดเจ็บ หลังเกิดเหตุ ผู้ใหญ่บ้านได้ออกมาไล่วัยรุ่นกลุ่มก่อเหตุ ก่อนช่วยนำคนเจ็บส่งโรงพยาบาลนั้น
วันที่ 18 ต.ค. 61 พ.ต.อ.อดิเทพ พิชาดุลย์ ผกก.สภ.วารินชำราบ สั่งให้ชุดสืบสวนนอกเครื่องแบบนำโดย ร.ต.อ.ธนาวิน พรมหาชัย รองสารวัตรสืบสวนเข้าหาเบาะแสติดตามจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ จนทราบตัววัยรุ่น 2 ใน 3 แล้ว ปรากฏว่าเป็นวัยรุ่นในหมู่บ้านที่เกิดเหตุ คือ นายคัมภีร์ หรือหลอน อินทรเทพ อายุ 23 ปี อีกคนคือ นายบิว (นามสมมติ) อายุ 17 ปี ส่วนวัยรุ่นที่เป็นผู้ฟันมือ นายปราโมทย์ แสงกล้า อายุ 37 ปี ช่างทาสี เป็นวัยรุ่นไม่ทราบชื่อจากบ้านนาสะแบง ต.หนองกินเพล อ.วารินชำราบ ซึ่งอ้างว่าน้องชายของตนถูกนายปราโมทย์ ทำร้ายเมื่อปีก่อน
ขณะนี้ชุดสืบสวนกำลังออกหาตัวนายคัมภีร์และนายบิว ซึ่งหลังก่อเหตุพากันหลบหนีออกไปจากหมู่บ้าน และขยายติดตามหาตัววัยรุ่นจากบ้านนาสะแบง ซึ่งชุดสืบสวนได้เข้ากดดันพร้อมแจ้งให้ญาติของผู้ต้องหาทั้ง 2 นำลูกหลานเข้ามอบตัว
น.ส.สิริพร ปาทานนท์ อายุ 38 ปี เจ้าของร้านค้าชุมชนในหมู่บ้านจั่น ซึ่งนายปราโมทย์วิ่งมาขอความช่วยเหลือเล่าว่า เห็นกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ ซึ่งตั้งวงดื่มสุราอยู่ริมถนนห่างจากร้านของตนเองไปประมาณ 20 เมตร ใช้เท้าถีบรถจักรยานยนต์ของคนเจ็บและบุตรสาว จนล้มลง และเตะคนเจ็บ แต่เท้าไปถูกบริเวณใบหน้าบุตรสาวของนายปราโมทย์แทน
จากนั้น นายปราโมทย์ลุกขึ้นวิ่งหนีเข้ามาในร้านของตน โดยมีกลุ่มวัยรุ่น 3 คน วิ่งไล่ตามมา โดย 2 ในสามเป็นวัยรุ่นในหมู่บ้านจั่น ตนจึงได้ตะโกนร้องห้ามอย่ามาทำร้ายกัน แต่วัยรุ่นที่ถือมีดที่เป็นวัยรุ่นมาจากต่างหมู่บ้าน ซึ่ง น.ส.สิริพร ไม่รู้จัก ไม่ยอมฟัง และใช้มีดสปาต้ายาวประมาณ 10 นิ้ว ฟัน มือซ้ายของนายปราโมทย์ ทำให้นิ้วขาด และคมมีดเลยไปถูกด้านข้างศีรษะเลือดอาบ
ตนจึงร้องตะโกนเรียกนายสีหา ปาทานนท์ บิดาและผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งอยู่บริเวณหลังบ้านออกมาช่วย เมื่อกลุ่มวัยรุ่นเห็นนายสีหา จึงวิ่งหลบหนีออกไปจากร้าน โดยวัยรุ่นมือมีดได้กระโดดขึ้นซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนหนีออกจากหมู่บ้านไป หลังจากนั้น ตนจึงช่วยห้ามเลือดให้คนเจ็บ ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลให้แพทย์รักษา
ด้าน น.ส.สุจิตรา คำสิงหา อายุ 33 ปี ภรรยานายปราโมทย์ กล่าวว่า ไม่ทราบสาเหตุของการรุมทำร้ายสามี ทราบเพียงว่า วัยรุ่นจากหมู่บ้านนาสะแบงบอกว่า นายปราโมทย์เคยทำร้ายน้องชายของตนเมื่อปีก่อน เมื่อเห็นนายปราโมทย์ขี่จักรยานยนต์มา จึงดักทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ
ส่วนอาการบาดเจ็บที่ศีรษะของสามี บาดแผลไม่ถึงสมอง ไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต แต่ต้องเย็บแผลให้กว่า 20 เข็ม ส่วนนิ้วมือด้านซ้ายทั้งนิ้วกลางและนิ้วก้อยขาดไปนิ้วละ 1 ข้อ นิ้วมือด้านขวากระดูกแตกจากการโดนของแข็ง แพทย์ต้องด้ามเหล็กไว้จนกว่าอาการจะดีขึ้น ทั้งนี้ ตนต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเร่งติดตามจับกลุ่มวัยรุ่นมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะเกรงจะมาทำร้ายสามีของตนอีก