ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 130/41 หมู่ที่ 2 ต.ทุ่งหว้า อ.ทุ่งหว้า จ.สตูล ซึ่งเป็นบ้านของนายอาจ โนราเจ๊ะ อายุ 69 ปี หลังได้รับการร้องเรียน ว่าอยากให้หน่วยที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือครอบครัวของตน เนื่องจากตนได้กลายเป็นคนพิการถูกตัดนิ้วกลาง นิ้วนางและนิ้วชี้มือซ้าย เมื่อช่วงปลายเดือนก.ย.2561 ที่ผ่านมา เพียงเพราะตนปวดหัวไปพบหมอ ที่โรงพยาบาลในพื้นที่ ขอให้หมอฉีดยาให้ หลังรับยาเดินทางกลับบ้านตกกลางดึกมีอาการปวดมือซ้ายจนทนไม่ได้ จึงกลับไปหาหมออีกครั้ง หลังหมอเห็นอาการได้รีบส่งตัวเข้ารักษาที่ รพ.สตูล ทันที ก่อนที่หมอใน รพ.สตูล ชี้แจงว่าต้องตัดนิ้วมือทิ้ง เพราะนิ้วเส้นตายหมดแล้ว
นางอุสา ปาวัล อายุ 43 ปี บุตรสาว และนางประคอง ปาลาหา อายุ 48 ปี ลูกเลี้ยง และทุกคนในครอบครัว ยอมรับว่า รู้สึกแปลกใจที่พ่อแค่มีอาการปวดหัวเพราะเป็นโรคลมบ่อยครั้ง โดยไม่มีโรคอื่นแทรกซ้อน ไม่มีโรคเบาหวาน ไม่มีโรคความดัน พ่อเป็นคนแข็งแรงมาก พายเรือทุกวันเพื่อออกไปวางไซดักปูดำ มีรายได้วันละ 300-500 บาท หลังไปฉีดยาจากโรงพยาบาล ซึ่งปกติจะฉีดที่ข้อพับเนื่องจากหมอลงความเห็นว่า ไม่พบเส้นจึงเปลี่ยนมาฉีดยาที่ง่ามนิ้วมือแทน ตกดึกพ่อปวดแขนจนทนไม่ได้ เล็บนิ้วมือที่ใกล้จุดฉีดยาเขียวช้ำ เนื้อพุพอง จนต้องตัดนิ้วและกลายเป็นคนพิการอย่างที่เห็น ทำมาหากินไม่ได้
กรรมการหมู่บ้านและผู้ใหญ่บ้านต่างปรึกษาหารือถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเดินเรื่องให้ความช่วยเหลือ โดยนายสมหมาย ลาทัพ สท.เทศบาลตำบลทุ่งหว้า และนายวิจิตร ทุ่งหว้า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ยืนยันว่านายอาจ เป็นคนแข็งแรงและขยันขันแข็งแม้จะมีอายุ 69 ปี ก็ยังพายเรือออกไปตกปู ตกปลาหารายได้เลี้ยงภรรยาและลูกที่พิการทางสมองวัย 58 ปีได้สบาย และแม้จะมีเงินผู้สูงอายุ และบัตรสวัสดิ์การของรัฐ และตอนนี้ช่วยกันเดินเรื่องทำบัตรคนพิการให้ แต่ระหว่างรอเงินอุดหนุนก็ไม่มีรายได้อะไร ซึ่งได้ประสานกลับไปทางรพ.ที่เกี่ยวข้องแล้ว แต่ก็ไม่เป็นผลอะไร ซึ่งทางหมู่บ้านและชุมชนก็ไม่ได้นิ่งนอนใจอะไร
ภายหลังจึงลงความเห็นว่า ต้องเดินทางไปแจ้งร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอทุ่งหว้า ในการหาทางช่วยเหลือเยียวยา ซึ่งนายสาทร หวังพัฒน์ นอภ.ทุ่งหว้า และนายสุรวุฒิ แก้วกระจ่าง หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมอำเภอทุ่งหว้าลงมารับเรื่อง พร้อมยืนยันว่าจะเร่งประสานความช่วยเหลือ และติดตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าช่วยเหลือตามที่ญาติและผู้เสียหายร้องขอ
ขณะที่น.ส.กัลยาทรรศน์ ติ้งหวัง หัวหน้าหน่วยรับเรื่องร้องเรียนจากหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กล่าวว่า รับทราบปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว และเตรียมเข้าเยียวยา เนื่องจากเป็นผลมาจากความเสียหายจากระบบหลักประกันสุขภาพ ตามมาตรา 41 ของพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งหลังจากนี้จะลงเก็บข้อมูล และให้ความช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ติดตามข่าวสารเรื่องราวที่น่าสนใจอื่น ๆ ได้ที่
อมรินทร์ทีวี เอชดี ช่อง 34