เจอตัวแล้วแท็กซี่ป้อสาว ขุดวีรกรรมเก่าชวนเทยขึ้นสวรรค์ สื่องงโดนจับยังร้องเพลง (คลิป)

กรณีหญิงสาวผู้โดยสารรายหนึ่ง ออกมาโพสต์แฉคลิปวิดีโอโชเฟอร์ขับแท็กซี่ ทะเบียน ทส 4962 กทม. อายุประมาณ 35-40 ปี ไม่สวมใส่แมสก์และพูดจาแทะโลมผู้โดยสารตลอดเวลา รวมทั้งเรียกเก็บค่าโดยสารแพงเกินจริง กระทั่งวันที่ 21 ก.ย.64 ผู้เสียหายได้เดินทางมาที่สภ.เมืองสมุทรปราการ เพื่อให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนและเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อติดตามตัวแท็กซี่รายนี้มาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ล่าสุดวันที่ 22 ก.ย.64 พ.ต.อ.เติมรัศมิ์ จินดาวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยพ.ต.ท.อำนาจ ราชสีห์ รองผกก.สส. และพ.ต.ท.สุวิชา ชั้นงาม รองผกก.จร. รวมถึงกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันติดตามตัวคนขับแท็กซี่คันดังกล่าวมาทำการสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา ทราบชื่อว่านายธเนศ บุญเสริมทรัพย์ อายุ 45 ปี ที่เดินทางมาพร้อมด้วยนางอารี อายุ 75 ปี ผู้เป็นแม่

นายธเนศ โชเฟอร์แท็กซี่คันก่อเหตุ ให้การอ้างว่า ตนเป็นหลานแท้ ๆ ของบิ๊กป้อม สมัยเด็ก ๆ เคยพาตนไปนั่งรถถังเล่น

แต่เมื่อผู้สื่อข่างถามย้ำ ๆ นายธเนศ กลับบอกว่า "อย่าเชื่อมาก พวกแท็กซี่ส่วนมากชอบโม้ แต่สำหรับผมของจริงในส่วนที่พูดและกระทำในวันนั้นไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร คนแถวนี้เข้ารู้นิสัยผมดี ไม่อย่างนั้นผมอยู่ไม่ได้หลอก ผมขับแท็กซี่มาหลายปี ในวันนั้นแค่จีบ ๆ เขาเฉย ๆ แนวสนุกสนานหยอกล่อเล่น"

ทั้งนี้ ตนยอมรับว่าเอ่ยปากชมผู้โดยสารว่าเขาสวย แต่ความจริงไม่ได้สวย เผื่อว่าผู้โดยสารจะใจอ่อนยอมให้ทริปตนบ้าง ส่วนที่ตนไม่ทอนเงินให้เขา เพราะตนยังขาดค่าน้ำมัน ถ้าน้ำมันหมดเรื่องใหญ่ ต้องจ้างให้วินจักรยานยนต์ไปซื้อน้ำมัน จึงไม่ทอนเงินให้ลูกค้า

พ.ต.ท.สุวิชา ชั้นงาม รองผกก.จร. กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ก่อเหตุยอมรับว่า เป็นคนในคลิปจริง ซึ่งกระทำความผิดตามพ.ร.บ.รถยนต์ มาตร 66/5 ผู้ใดเรียกค่าโดยสารเกิดกำหนด ซึ่งในมิเตอร์ขึ้นค่าบริการแค่ 47 บาท แต่ผู้ก่อเหตุเรียกไป 100 บาท มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 5 พันบาท และใช้กิริยาวาจาไม่สุภาพ มีความผิดตามมาตรา 57 ซึ่งมีอัตราโทษปรับไม่เกิน 1 พันบาท

ในวันนี้ตำรวจได้เชิญขนส่งจังหวัดสมุทรปราการ มาร่วมดำเนินการด้วย ซึ่งในส่วนนี้ได้ดำเนินการตามมาตรการของขนส่งทางบก เบื้องต้นผู้ก่อเหตุยินยอมเสียค่าปรับ แต่ขณะนี้อ้างว่ายังไม่มีเงินเสียค่าปรับ และจากการสอบถามเบื้องต้นเป็นคนชอบพูดคุย โดยเฉพาะถ้าผู้โดยสารเป็นผู้หญิง ก็จะพูดหยอกล้อ

นางอารี ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า ลูกชายเคยโดนรทำร้ายถูกตีที่ศีรษะมาแล้ว 2 ครั้ง ตั้งแต่สมัยวัยรุ่น ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้ไปรักษาที่โรงพยาบาลแต่อย่างใด เพราะไม่มีเงิน จึงนอนรักษาตัวที่บ้าน เพราะต้องทำมาหากิน หลังจากนั้นมาก็มีอาการผิดปกติ ชอบกินกาแฟวันละ 5-6 ซอง และเครื่องดื่มชูกำลังอีก 2-3 ขวด ตนก็ห้ามไม่ได้ ก็เพราะเขาเป็นอย่างนี้ หมอบอกว่าให้เอาอกเอาใจ เขาจะพูดอะไรก็ปล่อยเขา ไม่ให้เขาโมโห ถ้าเขาโมโห บางทีก็มีอาละวาทเหมือนกัน เวลาที่เราขัดใจเขา เหมือนกับเขาควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ เหมือนคนที่มี 2 บุคลิก เวลาดีเขาก็ดี เวลาเขาเป็นแบบนี้ ตนก็ขัดใจไม่ได้

ด้านนายธิวัฒถ์ บ่มไล่ หัวหน้ากลุ่มวิชาการขนส่งทางบก จังหวัดสมุทรปราการ กล่าวว่า เบื้องต้นในเคสนี้คนขับรถแท็กซี่เป็นผู้ถูกร้องเรียนและถูกกล่าวหา โดยนายธเนศ ให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ตอนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะปรับเท่าไร แต่ถ้ารับสารภาพและไม่มีเงินค่าปรับ พนักงานสอบสวนต้องส่งดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับในชั้นศาล

นอกจากนี้ ขนส่งจะต้องตรวจสอบอีกครั้ง เนื่องจากการเช็กประวัติในเบื้องต้นยังไม่พบการทำผิดซ้ำ ถ้ามีการทำผิดซ้ำก็จะไปดูว่าเข้าข่ายเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่หรือไม่ ส่วนที่ทางญาติของนายธเนศ อ้างว่าเป็นผู้ป่วยทางจิต ตรงนี้เป็นประเด็นที่หน้าสนใจ แต่ตอนนี้เขามีใบอนุญาตขับขี่รถแท็กซี่ ส่วนอาการป่วยไม่รู้ว่าอยู่ในระดับไหน ถ้าเขาอยู่ในระดับที่เป็นอันตราย ก็ต้องทำการพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ แต่ในเบื้องต้นยังไม่มีข้อมูลชี้ว่าขาดคุณสมบัติหรือไม่ ถ้ามีเอกสารทางการแพทย์ก็จะเข้าสู่กระบวนการเพิกถอนใบอนุญาตต่อไป