จากกรณีผู้ต้องหาชิงรถกระบะตำรวจที่ สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี แล้วขับหลบหนี ชนรถยนต์ที่จอดติดไฟแดงเสียหาย 3 คัน จนรถกระบะขับไปต่อไม่ได้ จึงได้ชิงจักรยานยนต์ของประชาชนในพื้นที่ สภ.คูบางหลวง ขับหลบหนีไปต่อนั้น (อ่าน :
ผู้ต้องหาเหิม! ชิงรถตร.ซิ่งหนี ชนรถชาวบ้านพัง 3 คัน น้ำมันหมดจี้จยย. อีก 2 ลอยนวล)
วันที่ 19 ต.ค. 61
นายอุดมศักดิ์ อรรถพรพิพัฒน์ อายุ 66 ปี คนขับแท็กซี่ ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ประมาณเวลา 09.00 น. ขณะที่ตนรับผู้โดยสาร และจอดติดไฟแดงอยู่ที่แยกซอยกำนันวิรัต บนถนนมุ่งหน้าไป อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี รู้ตัวอีกทีตอนที่ได้ยินเสียงชนจากด้านหลัง แต่ตนก็ไม่ได้สังเกตว่าเป็นรถกระบะของตำรวจ จากนั้นรถของผู้ต้องหาก็ขับหลบหนีไป และรถมีควันตลบและชนรถอีกหลายคัน ซึ่งเท่าที่ตนรู้มี 3 คัน ซึ่งตนตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และหากตนนำรถส่วนตัวมาก็คงตามคนร้ายทัน แต่เป็นแท็กซี่จึงไล่ตามไม่ทัน
นายอุดมศักดิ์ กล่าวต่อว่า เดิมทีตนคิดว่าคนที่มาชนนั้นเป็นแค่วัยรุ่นหรือบุคคลทั่วไป และไม่รู้มาก่อนว่าเป็นคนร้าย ซึ่งตนเพิ่งมารู้ภายหลัง เนื่องจากตำรวจบอก ทำให้ตนรู้สึกตกใจจนมือสั่น ซึ่งตนคิดว่าเจ้าหน้าที่ของรัฐไม่น่าปล่อยให้ผู้ต้องหาหนีออกมาแบบนี้ หากไม่มีผู้มารับผิดชอบความเสียหายของรถ ตนก็ต้องจ่ายค่าซ่อมเองถึง 6,000 บาท ซึ่งตนเสียความรู้สึกมาก เนื่องจากต้องสูญเสียรายได้ต่อวันละ 1,000 บาท จึงอยากให้รัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับผิดชอบกับความเสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตนได้แจ้งความไว้ที่ สภ.บางคูหลวง
ด้าน
เด็กชายชัยวัฒน์ ด้วงโพธิ์ อายุ 15 ปี เจ้าของจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า สีส้มดำ กล่าวว่า ขณะที่ตนเองมาซื้อขนมที่ร้านค้า กำลังจะขับรถจักรยานยนต์เพื่อกลับบ้าน มีรถกระบะมาจอดใกล้ ๆ และมีชายหญิงลงมาจากรถ พร้อมเข้ามาบอกให้ตนเองลงจากรถจักรยานยนต์ ตนก็ขัดขืน แต่ทั้ง 2 คน ทำท่าทางจะเข้ามาทำร้าย ตนจึงกลัว ยอมให้รถจักรยานยนต์ไป
ขณะที่
นางละออง เรืองสุวรรณ แม่ของนางสาวสมจิต เรืองสุวรรณ เจ้าของรถจักรยานยนต์ กล่าวว่า ขณะไปทำบุญกลับมาจากวัด กำลังจะจอดรถจักรยานยนต์ เพื่อเอากับข้าวให้น้องชาย ต่อมามีชายหญิงขับรถจักรยานยนต์มาจอดด้านหลัง เดินเข้ามาหาตนและลูกสาว แล้วบอกให้ลงจากรถจักรยานยนต์ เมื่อตัวเองและลูกสาวขัดขืนไม่ยอมลงจากรถ คนร้ายจึงผลักตนและลูกสาวเสียหลักล้ม จากนั้นคนร้ายทั้ง 2 คน ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หนีไป โดยทิ้งรถจักรยานยนต์ที่ขับมาไว้ เนื่องจากน้ำมันหมด
ทั้งนี้ ตำรวจได้ตรวจสอบเส้นทางที่ผู้ต้องหาทั้ง 2 คนหลบหนี และได้สอบถามผู้เสียหายคนอื่น และผู้ที่เห็นเหตุการณ์เพื่อติดตามผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป