ล่าสุดทีมข่าวอมรินทร์ได้มีโอกาสไปพูดคุยพี่ไฮโซชูชัยถึงประเด็นที่เกิดขึ้น เจ้าตัวเล่าว่า เคยจัดงานเปิดตัวธุรกิจ แล้วทางเราจะต้องการให้ซุปเปอร์สตาร์ที่เป็นที่หนึ่งของเมื่องไทยร่วมงาน จึงได้มีการเชิญ แอน-ทองประสม , โยชิ-รินรดาและกลุ่มดาราLGBTQ+ นางงามเด่นๆหมดเลย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็เป็นดาราชายคนนี้ เมื่องานดำเนินช่วงสัมภาษณ์ท้ายงาน ดาราทุกคนก็รอให้สัมภาษณ์ต่อหน้าสื่อ เพราะช่วงสัมภาษณ์หน้าแบคดรอปจะเป็นช่วงที่ทำให้คนรู้จักแบรนด์ของเรา แต่พอตนเองถามหาเขาให้มาสัมภาษณ์ ทีมงานก็บอกว่าดาราชายคนนั้นกลับไปแล้ว
ซึ่งในตอนนั้นตนเองก็งงว่าเขาหายไปไหนเร็วจังเพราะตนเองเป็นคนจ้างงานมา แต่หลังจากงานเสร็จตนก็ไม่ได้ติดต่อไปว่าหรือตำหนิอะไร ตนอภัยให้เขา ไม่ได้ผูกใจเจ็บ แต่แค่รู้สึกว่าเราจ้างงานเขา แต่เขาทำงานให้เราแค่ 70 % เอง ครั้งนั้นจึงเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่ตนเองจ้างงานคนนั้น
จากเหตุการณ์ประเด็นที่เกิดขึ้น ณ ปัจจุบันที่ดาราชายไปด่านักข่าว ตนก็มองว่า ในการสัมภาษณ์ต่อหน้าสื่อเขาก็ตอบคำถามและพูดจาดีมาก ส่วนน้องนักข่าวอาจจะไร้เดียงสา คิดไม่ถึงว่าจะโดนด่า เพราะน้องนักข่าวเขาก็รักและเป็น FC ดาราคนนี้อยู่ น้องคงอยากจะถ่ายรูปด้วย แต่ก็เจอสวนด้วยคำด่าหยาบๆกลับมา จากที่จะใช้ถ่อยคำดีๆก็ได้เรื่องมันก็จะจบ ซึ่งเห็นน้องบอกว่าตอนแรกเหมือนจะฟังผิดแต่เขาดันย้ำครั้งที่ 2 ก็แสดงว่าเขาเป็นคนที่ไม่รู้จักการวางตัว แต่เขาก็อาจจะพูดไปด้วยอารมณ์ตอนนั้นก็ได้
ถามว่า มุมมองของพี่ชูชัยคิดว่าคำพูดคำนั้น(เหี้ย)เป็นคำที่แรงไหม เจ้าตัวมองว่าคำพูดคำนั้นเป็นคำพูดที่แรง ยิ่งผู้ชายเป็นคนพูดด้วย ซึ่งน้องนักข่าวน่าจะเป็นน้องใหม่ และผู้ชายคนั้นเป็นดาราที่เขารัก แล้วมาถูกด่า น้องเลยเกิดความน้อยใจจึงร้องไห้ ตนเองมองว่าน้องคงจะไม่มานั้งร้องไห้เพื่อหวังผลประโยชน์ และไม่รู้ว่าน้องเขาจะทำไปเพื่ออะไร เขาไม่รู้หรอกว่าการที่มาทำแบบนี้แล้วจะเป็นกระแส เขาคงร้องไห้จริงๆ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็มีข้อดี เป็นการเตือนดาราว่าอย่าทำพฤติกรรมแบบนี้อีกกับนักข่าว หากเป็นไปได้ก็อยากให้มาขอโทษกัน อธิบายเหตุผล จับมือกัน มันไม่ใช่เรื่องยาก มันก็จะจบแบบสวยๆ
แต่ก็ไม่ใช่ว่าตนไม่ชอบดาราคนนี้นะ ตนชอบเขามาก เขาเป็นคนเก่งการแสดง แต่ตนแค่เสียความรู้สึกกับเหตุการณ์ที่เคยได้ร่วมงานกัน แต่ก็ไม่ใช่เขาไม่ดี เขาอาจจะมีธุระก็ได้
ถามว่าพี่ชูชัย เคยร่วมงานกับคนในวงการบันเทิง เคยเจอเหตุการณ์โดนด่าไหม เจ้าตัวตอบว่าตนเองไม่เคยเจอ แต่ก็เห็นดาราที่ทำพฤติกรรมแบบนี้หลายคน ส่วนใหญ่ก็จะดับเลย ตนถึงบอกว่าจะทำอะไรให้คิดดีๆ ในการเป็นดารายิ่งดังมากแค่ไหนจะยิ่งมีคนกด ฉะนั้นต้องรู้จักอ่อนน้อมถ่อมตน
จากที่สังคมมองเป็น 2 ฝั่ง มีฝั่งที่โจมตีดารา และอีกฝั่งโจมตีนักข่าว มันก็แล้วแต่มุมมอง แต่ตนเชื่อว่าว่าพระเอกหนุ่มคนนั้นพูด เพราะคนมันหูคงไม่เพี้ยนถึง 2 ครั้ง แต่ที่รักเขาก็อาจจะคิดว่าน้องนักข่าวมาปั่นกระแส ตนมองว่าน้องเขาคงไม่ปั่นกระแสหรอก มันเป็นความรู้สึกที่เขาอยากจะระบายมากกว่า บางคนสร้างเองปั่นเองยังไม่ดังเลย
อยากฝากว่า เป็นสื่ออย่าสร้างประเด็น เต้าข่าวให้ใครเสื่อมเสีย แต่ถ้าเต้าแล้วเป็นกระแสสร้างผลดีกันทั้งสองฝ่ายก็ทำไปเลย และสื่อต้องมีจรรยาบรรณ เหตุการณ์ครั้งนี้ก็ถือว่าเป็นบทเรียน ของดาราและสื่อ
ทางนี้ตนไม่กลัวว่าทางแฟนครับของพระเอกดังจะโจมตี เพราะตนเองก็พูดเป็นกลางที่สุด แต่อย่างน้อยเรื่องนี้มันก็ต้องมีมูลฝอยของความเป็นจริงไม่งั้นมันจะมีกระแสได้อย่างไร ในเรื่องนี้หากทำผิดแค่ขอโทษและให้อภัยกันก็จบ
Advertisement