พระเอกมาดเซอร์ "เป้ อารักษ์" มาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show เปิดแบบหมดเปลือกทุกเรื่องราวของชีวิตในเรื่องราวของชีวิตจากคนเรียบร้อยเปลี่ยนมาสู้คนเพราะเหตุการณ์นี้..?! พร้อมเผยไม่รู้สึกกับคำบูลลี่ของคนที่ว่าตัวเองในเรื่องของงานเพลง แถมยังแต่งเพลง "เชิญด่า" ไว้ให้รอฟัง ส่วนเรื่องความรักตอนนี้โลกเป็นสีชมพูที่สุด
เป้ อารักษ์ : เพราะว่าโดนไถเงินครับ ตอนเด็กๆ ต้องเดินไปขึ้นรถสองแถวตรงหน้าโรบินสันบางรัก แล้วจะมีเด็กโรงเรียน... ผมไม่ขอเอ่ยชื่อแล้วกันครับ เขาอยู่ประมาณม.ปลาย เขาก็จะนั่งจับกลุ่มกันแล้วก็จะเดินมากอดคอ บอกว่าของเงิน 20 บาท เพื่อนเราก็เล่ามาหลายคนว่าเพื่อนโดน เราก็บอกเพื่อนเราไปว่าเราไม่มีทางโดน เพราะเราไม่มีทางให้ แต่เราตัวเล็กนะตอนนั้น อยู่ประมาณม.2 ก็เดินไปกับเพื่อนอีกคนหนึ่ง ก็มากอดคอไถเงิน เราก็บอกเขาว่าไม่มี เขาก็บอกเราว่าถ้าเขาค้นเจอ เอาหมดนะ เราก็บอกว่าไม่ให้ ส่วนเพื่อนเราควักออกมา ขอ 20 บาทเหรอ มีแบงก์ร้อย มีทอนไหม เขาก็บอกว่ามีทอน แล้วเขาก็เอาแบงก์ร้อยไป แล้วทอนมา 20 บาท คือ ถ้าเพื่อนไม่ให้ผมอาจจะโดนกระทืบไปแล้ว แบบผมเห็นว่าเพื่อนให้เงินไป ก็แบบแค้นเสียใจ แค้นมาก ก็เลยขอป๊าส่งไปเรียนมวยหน่อย ป๊าก็ส่งไปเรียนที่วัดบางน้ำชนครับ เป็นมวยไทย แต่ป๊าไม่รู้นะว่าเราอยากเรียนไปทำไม ก็ไปเรียนแล้วก็เริ่มต่อยกันมาตั้งแต่ตอนนั้นเลยครับ จนถึงม.6 ก็เริ่มไปเล่นดนตรี ก็ไม่ได้ชกมวยอีก ความรุนแรงของผมในชีวิต หลังจากโตขึ้นมาผมไม่ได้มีเรื่องกับใครอีกเลย
เป้ อารักษ์ : ตอนนั้นประมาณม.5 อาจารย์ภาษาอังกฤษ ช่วงนั้นเป็นช่วงแรกของอาจารย์ฝรั่ง เขาจะสอนไม่รู้เรื่องเลยครับ น่าเบื่อมาก เขาสอนไม่ดีเลยครับ แต่เขาก็พยายามสอนอยู่ พอนักเรียนไม่เรียน เพื่อนๆ เรียนไม่รู้เรื่องก็โดดกันไปครึ่งห้องแล้ว แต่ผมก็ยังตั้งใจเรียนอยู่ แต่ตอนที่นั่งอยู่มันไม่สนุกเลยครับ มันเรียนไม่สนุกเลย เพราะว่าเขาหันหน้าเข้ากระดานตลอด แล้วเขาก็ไม่หันมามองเลย เราก็นั่งกับเพื่อนข้างๆ ถามกันว่าเอาไงดี โดดข้างนอกก็ไม่ได้เดี๋ยวอาจารย์เห็น โดดลงไปข้างล่างแล้วกัน ก็สะกิดกันปีนข้ามระเบียงออกไป ก็จะเป็นระเบียงเล็กแล้วข้างล่างมันเป็นระเบียงใหญ่ของอีกชั้นหนึ่ง ก็คือโดดลงไปเนี่ยก็จะไม่ตกลงไป ตอนนั้นโดดตึกหนึ่งชั้น สมองทำด้วยอะไร คือโดดจากชั้น 5 ลงไปชั้น 4 ซึ่งพอเรากระโดดลงมาเสียงมันดังสนั่นมาก เราก็ตกใจ ไม่คิดว่ามันจะอิมแพคขนาดนั้น พอลงมาปุ๊บเราก็วิ่งบอกเลยว่าตอนนั้นขามันสั่นทั้งคู่ครับ เพราะว่ากล้ามเนื้อมันได้รับการกระแทกแต่ไม่มีอะไรหักนะครับ แต่เพราะกล้ามเนื้อมันได้รับการกระทบอย่างแรงมาก แล้วอาจารย์ก็วิ่งมาแล้วถามเราว่าพวกเธอโดดลงมาเหรอ ผมก็ตอบว่าเปล่าครับๆ
เป้ อารักษ์ : ตอนชุดแรกใช่ครับ เพราะว่าคนได้ฟังเพลงเดียวไงครับ
เป้ อารักษ์ : ตอนนั้นต้องยอมรับว่าสายตาของผมมันถูกปกคลุมด้วยชื่อเสียงครับ มีปราชญ์ท่านหนึ่งเคยบอกไว้ว่าตราบใดที่คุณมีหน้าอยู่ทุกสี่แยก ใครจะมาเตือนอะไรคุณก็ไม่ฟังหรอก ตอนนั้นเรามีหน้าอยู่ทุกสี่แยกครับ ใครจะมาบอกว่าใจเย็นๆ ก่อน อย่าเพิ่งออกสิ ยังร้องไม่ได้เลย ไม่ฟังหรอก แล้วก็ไม่มีใครกล้ามาบอกเราตรงๆ ด้วยไง หรือเขาอาจจะบอกแต่เราไม่ฟัง เสียงยังไม่ถึง เสียงมันยังร้องเพลงไม่ได้ มันยังเป็นการพูดอยู่เลยในอัลบั้มนั้น เราก็เลยออกชุดนี้มาเลย ซึ่งคนก็ด่า ซึ่งก็โอเค ก็ถูกต้องที่เขาด่า เขาด่าว่าร้องไม่เพราะเลย มีคอมเมนต์หนึ่งนักร้องสเลอมันมาแซวบอกว่าเสียงเหมือนหมาแดกแฟ้บ หลังจากนั้นก็โดนมาเรื่อยๆ ครับ เอาจริงๆความรู้สึกของเราวันนั้นที่โดนด่าคือเราก็ไม่คิดมากนะครับ เพราะว่ายังมีหน้าอยู่ทุกสี่แยกอยู่ ก็เลยเหมือนกับก็ด่ามาสิไม่เป็นอะไร ฉันรู้ว่าฉันทำอะไรในใจนะครับ แต่พอเวลาผ่านมาเราก็รู้สึกว่าชุดแรกนั้นไม่ควรจะออกเวลานั้น เพราะว่าเราควรจะร้องเพลงให้ได้ก่อน หลังจากนั้นเราก็พัฒนามาเรื่อยๆ ตอนนั้นก็กลายเป็นว่าคนก็ยังไปติดภาพชุดแรกแบบนั้นอยู่ ซึ่งตอนนี้ชุดที่ 5 แล้วกำลังจะออกชุดที่ 6 แล้วครับ ดีขึ้นเยอะแล้ว มาตรฐานดีขึ้นเยอะเล่นคอนเสิร์ตก็ดีขึ้นอยากให้ไปลองฟังกันดู คำด่าของทุกคนในวันนั้นผมจำและเก็บมาพัฒนาตัวเองตลอดครับ
เป้ อารักษ์ : ใช่ครับ แต่ไม่รู้ว่าจะออกเมื่อไหร่นะครับ แต่อยู่ในอัลบั้มชุดที่ 6 แหละครับแต่ไม่รู้ว่าจะปล่อยออกมาให้ฟังเมื่อไหร่นะครับ เป็นเหมือนกับ Electronic music hip hop ครับ อวดรวยแบบที่ hip hop เขาชอบทำกัน ก็เลยอยากจะอวดตัวเองบ้าง แต่อวดแบบกวนๆ ครับ มันจะมีประโยคแบบตอนที่มึงหัดเดิน กูเล่นละครกับพี่อั้ม ตอนนี้มึงรับเงินเดือน กูเป็นเจ้าของ Production cover ไม่เล่นเพลงกูเยอะ เล่นไม่ทัน เพราะว่ามีเพลง 60 เพลงแล้ว จะให้มาเล่น cover อีกไม่ไหว ก็เลยแต่งไปเพลงนี้ชื่อ เชิญด่า หมายความว่า ได้เลย คุณด่ามาเลย เดี๋ยวจะเอาคำด่าของคุณมาทำเพลง
เป้ อารักษ์ : ก็เคยมีโทรไปบ้างครับ โทรไปหาผู้ชายที่มาจีบเขา
เป้ อารักษ์ : ใช่ครับ เคยมีโทรไปครั้งหนึ่ง ผมก็ยังมีสันดานเดิมครับ จะบอกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่ขึ้นแล้ว แต่สุดท้ายสันดานความหึงหวงของสิ่งมีชีวิตก็ยังมี เราก็โทรไปบอกเขาว่าดีๆ หน่อย เพราะเขาเป็นรุ่นน้องผมไง เราก็บอกเขาว่าแบบนี้ไม่ถูกนะ อ่านข้อความแล้วมันไม่ถูก มันไม่ใช่ เขาก็โอเคครับๆ ก็เคลียร์กันจบดี ผมก็ไม่ได้โกรธอะไรเขามากกว่านั้น ผมก็จบ ก็เป็นพี่น้องกันได้ปกตินะ แต่เขาก็ไม่ได้คุยกับผม แต่ผมยังรู้สึกว่าฉันทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว ไม่มีปัญหาอะไรต่อจากนั้นนะ กับน้องเราก็ยังปกติ จบเป็นจบเลยครับ
เป้ อารักษ์ : ก็มีทะเลาะกันบ้างครับพี่ (ยิ้ม)
เป้ อารักษ์ : อันนี้ต้องไปถามมิเรียมเอง ผมก็ไม่กล้าบอกเพราะว่าเป็นความคิดเขา เดี๋ยวพูดไปเดี๋ยวผิด
เป้ อารักษ์ : เยอะครับ มิเรียมเขาก็จะเป็นคนหวานอยู่แล้ว ผมก็หวานด้วยครับ แต่ว่าผมอาจจะไม่ได้หวานตามกาลเทศะ หมายความว่าวันนี้วันพิเศษ ฉันอยากจะหวานก็หวาน ก็คือแบบไม่จำเป็นต้องเป็นวันนี้
เป้ อารักษ์ : ไม่ๆ ขอโทษนะครับ ผมบอกไม่ได้ เดี๋ยวผมโทรหาเขาเองครับ
สามารถชมคลิปย้อนหลังรายการ CLUB FRIDAY SHOW ทางยูทูป :
https://youtu.be/eRAdUvzbS2Q
https://youtu.be/zM_27KVl4aQ
https://youtu.be/PfoPoxzyBT4
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พั้นช์ วรกาญจน์ เผย ความรักของผู้ชายคนหนึ่งที่ยังรอคอย
- เอ้ ชุติมา เผยวินาทีเจอหน้า บุ๋ม ตรีรัก ครั้งแรก หลังไม่ได้คุยกัน 20 ปี
- ดีเจอ๋อง เปิดความลับบางสิ่งที่ไม่ขอทำให้ ดีเจดาด้า ถึงแม้สนิทแค่ไหนก็ตาม
Advertisement