นับเป็นอีกหนึ่งหนุ่มที่ประสบความสำเร็จทั้งในเรื่องของงานในวงการบันเทิงและธุรกิจส่วนตัวเลยทีเดียว สำหรับ "ดอม เหตระกูล" เมื่อมาเป็นแขกรับเชิญคนพิเศษในรายการ Club Friday Show ได้เปิดแบบหมดเปลือกทุกเรื่องราวของชีวิตในเรื่องราวของชีวิตที่คิดว่าตัวเองผิดในหลายๆ เรื่องนั้น เป็นประสบการณ์ที่ผิดพลาดนับว่าเป็นบทเรียนที่พร้อมนำมาแก้ไขให้ดี และเผยตอนนี้ขาเตียงยังมั่นคงเหมือนเดิม
ดอม เหตระกูล : ก็จากงานที่มันเริ่มหายไป เราก็ต้องมองหาสิ่งอื่นๆ ซึ่งในช่วงเวลานั้น ผมก็เลยเริ่มทำธุรกิจมอเตอร์ไซค์ ก็ไปเป็นหุ้นส่วน ในเวลาต่อมาก็เริ่มทำของตัวเอง เริ่มนำเข้าเอง จัดจำหน่ายเองมาพร้อมกับลูกสาว ก็เป็นช่วงเวลาที่มาพร้อมกัน
ดอม เหตระกูล : ห่างด้วยครับ และในขณะเดียวกันก็ได้มีโอกาสได้เริ่มงานใหม่กับทางทีมโปรดักชันภาพยนตร์ต่างประเทศที่ติดต่อเข้ามา ก็ทำให้เรามีรายได้ส่วนหนึ่ง แล้วก็มีเงินบางส่วนที่คุณพ่อก็ให้ไว้เป็นของขวัญแต่งงาน เราก็ไปซื้อบ้าน
ดอม เหตระกูล : ก็คงเป็นเรื่องปกติที่เขาเห็นเราไปไหนต่อไหน เพราะว่าเราก็ไม่ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตเรามากนัก ยังออกไปเที่ยว ยังออกไปเฮฮาสังสรรค์กับเพื่อน ซึ่งในสิ่งที่ผมกับก้อยไม่เหมือนกันคือตรงนี้ด้วย แต่ถ้าเกิดอยากไปก็ไปนะ แต่บางทีก็มีบ้างที่กลับดึก การที่คนจะเริ่มเห็นอยู่กับคนนู้นคนนั้น เราไม่รู้ว่าใครเป็นคนเห็น คือเราบอกไม่ได้ว่าความสัมพันธ์ที่มันเกิดขึ้น อยู่กับใคร คุยอะไรอย่างไรกับใคร อาจจะมีบ้างที่ไปถึงเนื้อถึงตัวก็ว่ากันไป เป็นเรื่องที่เราก็ต้องรับมันไป เพราะถ้าเกิดมันทำ นี่คือผลที่ตามมา มันก็ไม่ได้มีใครพอใจหรอกครับ ไม่มีใครชอบเพราะเรื่องพวกนี้เกิดขึ้นมามันก็เป็นคำถาม ก็มักจะพูดกันอยู่บ่อยๆ บางทีเรากินดื่มนะ มันอาจจะมีอะไรที่มันเลยเถิดไป
ดอม เหตระกูล : แต่ก็อย่างที่บอกครับ ว่าท้ายสุดต่อให้มีความรักอะไรเยอะแยะมากมาย คนที่จะอยู่เป็นภรรยาเราก็คงจะมีแค่คนเดียว
ดอม เหตระกูล : ถ้าวันหนึ่งกับก้อยมันล้มเหลว ไม่ต้องคิดจะเริ่มใหม่เลย เพราะมันก็จะพังไปเรื่อยๆ มันจะไม่มีครั้งใหม่หรอก ตอบคำถามพี่อั๋นว่าท้ายที่สุดแล้วเคยหวั่นไหว จะเลิก จะหย่าไหม บอกเลยครับไม่มี ถ้าหย่าก็ไม่ต้องมีความสัมพันธ์กับคนอื่น แต่ถ้าในเมื่อถ้าคิดว่าหย่าแล้วไม่เริ่มความสัมพันธ์กับคนอื่น ก็อย่าคิดจะหย่า เพราะมันไม่มีประโยชน์
ดอม เหตระกูล : ก้อยเป็นคนที่เขามีอะไรเขาพูดตรงๆ เลยว่าถ้าเกิดมันมีปัญหาแบบนี้เพราะอะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร จะคุยกันเสร็จสรรพเรียบร้อย ดอม เราเป็นครอบครัวกัน ขอได้ไหมให้ครอบครัวมาก่อน ผมบอกว่าได้
ดอม เหตระกูล : ไม่มีครับ เขาขออย่างเดียวเลยคือครอบครัวมาก่อน ดังนั้นคือคนอื่นหรืออะไรต่างๆ มีได้ประมาณหนึ่ง คุยได้ แต่กลับบ้านนะแค่นั้น
ดอม เหตระกูล : 70 80 เปอร์เซ็นต์เราคิดผิดในหลายๆ เรื่อง การที่เรายึดถือตัวตนของตัวเองมากจนเกินไป เราต้องการสร้างจุดยืน ต้องการสร้างผลงาน ต้องการสร้างโปร์ไฟล์ที่เป็นพิเศษ โดดเด่นกว่าคนอื่น ซึ่งจริงๆ แล้วมันเหมือนเป็นการเรียกร้องความสนใจ ซึ่งในความเป็นจริงแล้วการเรียกร้องความสนใจมันไม่ได้เป็นการสร้างความสำเร็จให้กับตัวเอง
ดอม เหตระกูล : นั่นเป็นอัตตาเราอย่างหนึ่ง แล้วเราก็พยายามที่จะเอาชนะทุกอย่าง เอาชนะสรรพสิ่งรอบๆ ตัว โดยการใช้สิ่งที่เราเรียกมันว่าเหตุผล
พิธีกร : แปลกดีที่ ดอม เหตระกูล เองอาจจะมองตัวเองผิดพลาดมาในหลายๆ เรื่อง แต่ขณะที่นั่งคุยกับ ดอม เหตระกูล ดอมเป็นคนหนึ่งซึ่งคิดดูอาชีพวงการบันเทิงไม่เคยเป็นอาชีพในฝัน แต่เราสามารถเข้ามาฝึก เรียนรู้และสร้างความบันเทิงให้คนยาวนานเป็น 10-20 ปี แม้แต่วันนี้ที่ดอมบอกว่าชีวิตต้องหันไปทำธุรกิจ แต่ธุรกิจก็เกิดมาจากการต่อยอดส่วนหนึ่งของการเป็นที่รู้จัก เพราะฉะนั้นมันอาจจะเป็นได้ว่าวันนี้มันอาจจะมีโควิดที่มันเป็นโจทย์ที่ยากสำหรับทุกคน แต่มันไม่ถึงขั้นว่าที่ผ่านมาล้มเหลวนะ ยังคงยืนยันเสมอว่าเรายังมองภาพ ดอม เหตระกูล คือคนที่ประสบความสำเร็จในเรื่องของวงการการแสดง วันนี้ในวัยนี้มีหลายๆ คนหายไปจากหน้าจอแต่ ดอม เหตระกูลยังเป็นคนที่ยังอยู่บนหน้าจอมาโดยตลอด แค่อันหนึ่งที่ ดอมยังรู้สึกคือหนึ่งที่บ้านคาดหวัง แต่เราไม่ได้ทำตามความคาดหวังนั้นเลย แต่การที่ไม่ได้ทำตามความคาดหวังของครอบครัว ก็ไม่ได้แปลว่าตัวเองไม่ประสบความสำเร็จ กลับทำให้เห็นด้วยว่าเทควันโดก็เล่นจนได้เหรียญ การแสดงมาไกลเล่นมาเป็น 10-20 ปีไม่ง่ายเลยในวันที่วงการบันเทิงบ้านเราต้องการคนใหม่อยู่ตลอดเวลา แต่ดอมเป็นคนหนึ่งที่เล่นละครมาตั้งยาวนาน แต่ยังอยู่ร่วมจอกับดาราใหม่ๆ ตั้งหลายคนเลยไม่อยากให้รู้สึกว่าเป็นความล้มเหลว วันนี้ที่ดอมได้มานั่งคุยตรงนี้มันน่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆ คน ที่อาจจะไม่ได้ทำตามคสามคาดหวังของครอบครัว แต่ไม่ได้แปลว่าคนนั้นแย่เพราะเขาก็ยึดมั่นในความเป็นตัวตนเขาเชื่อมั่นในความเป็นตัวเขาว่าเขาทำได้นะ
ดอม เหตระกูล : หรือท้ายที่สุด ตัวตนเองก็ไม่ได้อยู่กับเรา เพราะคนเราทุกคนมันโตไปทุกวันมันฉลาดขึ้น วิถีชีวิตมันก็จะเปลี่ยนไป มันไม่มีใครอยู่กับที่คนชอบคิดว่าเขาเป็นเหมือนเดิมในความสัมพันธ์จะพูดว่าเขาเป็นเหมือนเดิม ไม่มีใครเป็นเหมือนเดิมหรอกครับ แต่คุณต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวการปรับตัวที่ว่ามันปรับตัวแล้วมันดีขึ้นไหม ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความสม่ำเสมอ เมื่อมันสม่ำเสมอมันจะดูมั่นคงกว่า ดังนั้นท้ายที่สุดตอนนี้ทุกคนเห็นผมงานเยอะนะ เปล่าครับ งานผมสม่ำเสมอ ผมมีงานเรื่อยๆ
ดอม เหตระกูล : บางทีเราคิดว่าการที่เราเป็นตัวของเราเอง เป็นคนที่มั่นคง เข้มแข็ง แข็งแรงในความคิด ในความตั้งใจอะไรต่างๆ มันไม่ช่วยหรอก มันต้องฟัง มันต้องเข้าใจ มันต้องพยายาม พยายามแม้แต่จะต้องออกนอก Comfort Zone ของตัวเอง อย่าเอาตัวเองมาวางไว้บนโต๊ะ แล้วบอกว่าฉันเป็นแบบนี้ ถ้าเธอรับไม่ได้ก็ไป อยากจะบอกว่ามันไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณบอก ไม่ได้ง่ายอย่างที่คุณคิด บางครั้งอย่าพูดพล่อยๆ ท้ายที่สุดคุณต้องเรียนรู้ที่จะอยู่กับความรักให้ฉลาด คุณรักคนได้อีกเป็นร้อยเป็นพันเลย แต่คุณต้องรู้ว่าหน้าที่ของคนแต่ละคนใครที่มีความสำคัญในชีวิต การสร้างสมดุล การสร้างความสม่ำเสมอ มันเป็นสิ่งสำคัญเราต้องไม่เป็นเหมือนใคร ถ้าอยากทำวันนี้ ไม่อยากเหนื่อยก็รอบคอบ คิดสร้างเหตุที่จะให้เกิดผลที่ดีจบ เพราะท้ายที่สุดแล้วความรักมันเป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่ง แต่ว่ามันไม่ได้หวานตลอดเวลา ผมว่ามันเป็นความอบอุ่น มันเป็นความกลมกล่อมของชีวิตการอยู่ด้วยกันอย่างคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งในวันกลับบ้านไปกราบเท้าท่าน นั่งคุยกัน กินดื่มกัน กินข้าวกัน พาลูกพราหลานมาเจอกัน อย่างที่เราบอกครับ ชีวิตมันก็จะผ่านไปเรื่อยๆ คนเราโตขึ้น ฉลาดขึ้น เราก็ต้องปรับตัวกับสภาพที่มันเป็นอยู่ตลอดเวลา ความรักมันถูกพัฒนาไปหลายๆ รูปแบบ ความเข้าใจ เหตุผล การยอมรับมันเป็นสิ่งสำคัญ
สามารถชมคลิปย้อนหลังรายการ CLUB FRIDAY SHOW ทางยูทูป :
https://youtu.be/Uo-9p9oAZoE
https://youtu.be/1C3d1w3aMHI
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "แอนนา" โตมาด้วยแรงกดดัน เคยประชดครอบครัว หนีออกจากบ้าน
- "ปีเตอร์ คอร์ป" เปิดใจกว่าจะมีวันนี้ไม่ง่าย เผยคนที่ร่วมทุกข์ในวันที่ไม่มีกิน
- "วาววา ณิชชา" น้ำตาคลอ! ปรึกษาเรื่องหัวใจกับพี่อ้อยพี่ฉอด ปมทะเลาะแฟนบ่อย
Advertisement