“คุณแม่ภนิดา” คุณแม่ของ “แตงโม นิดา” พร้อมทนายความ เดินทางมาตามคำนัดของศาลจังหวัดนนทบุรี พร้อมเปิดหลักฐานเด็ด เกี่ยว 1 ใน 6 คนบนเรือ
วันนี้ 29 มิถุนายน 2566 ภายหลังจากการเดินทางมาตามคำนัดของศาลจังหวัดนนทบุรี เพื่อนัดตรวจพยานของทั้งสองฝ่ายในคดีการเสียชีวิตของดารานักแสดงสาว “แตงโม นิดา” นั้น “นายชัยวัฒน์ โลมากุล” ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายของ “นางภนิดา ศิริยุทธโยธิน” แม่ของแตงโม ได้ออกมาเปิดเผยภายหลังนัดตรวจพยานที่ศาลจังหวัดนนทบุรี ว่า
หลังจากที่แม่ได้รับเบาะแสจากพลเมืองดีรายหนึ่ง ส่งข้อมูลเกี่ยวกับเวชระเบียนประวัติการรักษาอาการทางจิตเวชของ 1 ใน 6 คนบนเรือสปีดโบ๊ตที่มีพฤติกรรมเป็นคนหงุดหงิดอารมณ์แปรปรวนง่าย ซึ่งถือเป็นสาระสำคัญในคดีนี้
“นายชัยวัฒน์” กล่าวต่อว่า ตนจึงได้ยื่นเรื่องต่อศาลเพื่อขอนำพยาน ซึ่งเป็นแพทย์และประวัติการรักษาเข้ามาเป็นพยานในคดีนี้ เพราะเชื่อว่าอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการพลัดตกเรือของน้องแตงโม ซึ่งทางศาลได้อนุญาตให้นำเข้าเป็นพยานในคดีแล้ว
นอกจากนี้ ตนยังได้ยื่นเรื่องให้ศาลพิจารณานำอดีตจำเลยคนที่ 1 และ 2 ในคดีที่ได้รับสารภาพและถูกศาลตัดสินไปก่อนหน้านี้แล้ว กลับเข้ามาเป็นพยานในฝ่ายโจทก์ เพื่อฟ้องร้องในคดีแพ่งที่จำเลยที่เหลืออีก 4 คน ยังไม่ได้ชดใช้ค่าสินไหมชดเชยให้กับทางคุณแม่เลย ซึ่งมีแต่เพียงจำเลยที่ 1 และ 2 เท่านั้นที่ร่วมกันชำระมาให้คุณแม่
“นายชัยวัฒน์” กล่าวว่า ส่วนประเด็นเรื่องบัตรเครดิตของน้องแตงโมที่มีบุคคลนำไปรูดใช้จ่ายนั้น ตนได้ตรวจสอบแล้วพบว่าทีการรูดใช้บัตรจริง ในวันที่ 24-26 ก.พ. จนกระทั่งเมื่อพบร่างของน้องแตงโม บัตรเครดิตดังกล่าวจึงหยุดใช้ไป ซึ่งเรื่องนี้ทางคุณแม่ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนกลางแล้ว เพื่อให้เร่งหาตัวผู้ใช้บัตรเครดิตของน้องแตงโมมาดำเนินคดี เพราะเป็นสิ่งไม่ถูกต้อง
“นายชัยวัฒน์” กล่าวด้วยว่า นอกจากนี้ คุณแม่ยังมีความสงสัยในสาเหตุการตกน้ำของแตงโม รวมทั้งคำให้การรับสารภาพของจำเลยที่ 1 และ 2 ในคดีแม้ให้การรับสารภาพไปแล้ว เพราะไม่มีการบรรยายถึงรายละเอียดในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดและอะไรเป็นสาเหตุทำให้แตงโมตกน้ำจนเสียชีวิต
ด้าน "คุณแม่" บอกว่า หลังจากที่ได้เห็นหลักฐาน ตนรู้สึกว่ามันมีสิทธิ์ที่จะโยงใยได้กับเรื่องในเรือ เพราะในเรือเขาดื่มสุรากัน เสพของมึนเมา อาจจะทำให้น้องเสียชีวิตด้วย ตนทราบข้อมูลมาก่อนที่จะได้หลักฐาน ว่าคนนี้เข้ามีการติดยาเสพติดมาก่อน เสพมามากกว่า10 ปี แล้ว ตนรู้ก่อนที่จะได้หลักฐานมา
ส่วนเหตุการณ์ในศาลวันนี้เขาไม่ได้ทักมาย ไม่ไหว้ตนเลย ซึ่งตนว่ามันผิดปกติ แต่ตนก็รู้สึกเฉยๆ แต่ไม่ได้ติดใจอะไร ก็เป็นไปตามเวรกรรม ใครทำอะไรไว้ก็เจอจุดจบของเขาเอง หลักจากที่ศาลรับพยานหลักฐานตนก็สบายใจขึ้นมา
Advertisement