แม่แตงโม อ้างถูกอดีตที่ปรึกษากฎหมายยักยอกเงินเยียวยา โบนัสที่ ปอ-โรเบิร์ต ให้ โกงแม้กระทั่งปลาสลิด รวมเสียหาย 1 ล้าน เตรียมดึงทนายเดชาทำคดี
วันที่ 8 ม.ค.67 ที่สำนักงานกฎหมายทนายเดชา ถนนรามอินทรา นางพนิดา ศิริยุทธโยธิน หรือแม่แตงโม พร้อมด้วย นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความชื่อดัง ร่วมกันแถลงข่าว ในประเด็นที่อ้างว่าอดีตที่ปรึกษากฎหมายยักยอกเงิน 4 แสน และมีการยื่นฟ้องผู้ต้องหาในคดีเพิ่มเติมข้อหาข่มขืน
นางพนิดา กล่าวอ้างว่า แม่โดนยักยอกทรัพย์ และอยากให้ทนายเดชามาช่วยทำคดีแตงโมให้แม่เหมือนเดิม เพราะคดียังอยู่ในชั้นศาล โดยให้ทนายเดชาทำคนเดียว ใครไม่เก่งแม่ให้อยากร่วมงานด้วย ทำให้ต้องเปลี่ยนทนายบ่อย โดยตอนนั้นที่เปลี่ยนนายเดชาออก เพราะความเห็นไม่ตรงกัน เนื่องจากในตอนนั้นแม่เห็นว่าน่าจะเป็นการฆาตกรรม แต่ทนายเดชามองว่าเป็นเหตุประมาท แค่ความเห็นไม่ตรงกันในตอนนั้น โดยมองว่าทนายเดชาเป็นคนเก่ง
นางพนิดา กล่าวอ้างว่า อีกเหตุผลที่เปลี่ยนทนายความ โดยอ้างว่ามีที่ปรึกษากฎหมายยักยอกเงินไป เป็นเงิน 4 แสนบาท ที่นายตนุภัทร เลิศทวีวิทย์ หรือปอ และนายไพบูลย์ ตรีกาญจนานันท์ หรือโรเบิร์ต ให้มา โดยอ้างว่าที่ปรึกษากฎหมายคนนี้นำเงิน 4 แสนไปเข้าบัญชีตัวเอง ยอมรับตอนนั้นแม่ไม่ฉลาด ส่วนเงินอีกก้อน 4 แสน คนนี้ก็เอาไป เป็นเงินที่น้องปอและน้องโรเบิร์ตให้มาเช่นกัน โดยเป็นเงินโบนัส ซึ่งปอและโรเบิร์ตจะให้ทุกปี กระทั่ง 4 เดือนผ่านไป ปอและโรเบิร์ตมาถามถึงเงินโบนัสถึงรู้ความจริง
นางพนิดา กล่าวว่า ตอนได้เงินสดจำนวนนี้มา แม่ไม่รู้ แต่ทนายคนนี้เอาเงินเข้าบัญชีตัวเองเลย พร้อมแจงสำหรับค่าทนายความนั้น มี 3 คน คนละ 1.3 แสนบาท รวมค่าทนายแล้วทั้งหมด 4 แสนบาท โดยยังซื้อเครื่องปริ้นเตอร์ คอมพิวเตอร์และซื้อปลาสลิดให้ รวมถึงจ่ายค่าเดินทาง ทั้งหมดอ้างว่าโดนไป 1 ล้านกว่าบาท
นางพนิดา ยืนยันปอและโรเบิร์ตไม่ได้ทำอะไรไม่ดีกับแตงโม ซึ่งตอนแรกไม่มีเรื่องข่มขืน กระทั่งมาถึงตอนที่ให้ฟ้องเอง ยังอ้างว่าทนายความคนนี้ใส่ประเด็นดังกล่าวมาเอง โดยแม่ไม่รู้เรื่องและไม่ได้อ่านละเอียด ซึ่งตามผลการชันสูตร น้องแตงโมปกติทุกอย่างไม่มีการข่มขืน จึงขอให้ทนายอธิบาย แต่ทนายความได้หายหน้าไป
ทางด้านทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ กล่าวว่า หลังจากได้รับการติดต่อมาจากแม่ของน้องแตงโม ตอนนี้จึงต้องกลับไปศึกษาเรื่องราวอีกครั้ง หากแม่น้องแตงโมมีความยินดี ตนก็จะเป็นทนายความให้ โดยแม่ต้องมีการถอดถอนทนายความคนเก่าก่อน เนื่องจากเป็นมารยาทของทนายความ ซึ่งสุดท้ายก็อยู่ที่ความประสงค์ของแม่ว่าต้องการยังไง.
Advertisement