นกน้อย อุไรพร เปิดใจหลังสูญเสีย พ่อหลอด มาเข้าฝันทุกคืน ไม่อยากให้มีผัวใหม่ “น้องแป้ง” เปิดใจโดนตราหน้าทำวงไม่พัฒนา
คุณแม่นกน้อย อุไรพร วันนี้ควงเหลนสาว น้องแป้ง ณัฐธิดา ดีกรีทายาทเสียงอีสานรุ่นใหม่ มาเปิดใจหลังสูญเสียคู่ชีวิตเสาหลัก “พ่อหลอด” หัวหน้าวงเสียงอีสานไปอย่างไม่มีวันกลับ พร้อมย้อนเล่าเหตุการณ์น้องแป้งทะเลาะหนักมาก ก่อนพ่อหลอดเสียชีวิต และโดนตราหน้าเป็นเพราะเธอ วงเสียงอีสานถึงไม่พัฒนา แรงมาก!
สูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักและเสาหลักไป 3 เดือนกว่าๆ คือคุณพ่อหลอด ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?
นกน้อย : มันเกิดขึ้นไวมากเหมือนฝัน คุณพ่อเขาป่วยนาน แต่แม่ไม่ได้ทำใจไว้ การรักษาก็หวังปาฏิหาริย์มาก ตอนนี้ยังเคว้งอยู่ เวิ้งว้างมากในความรู้สึก ยังกอดรูปคุณพ่อนอน วันที่ 21 จะครบ 100 วันคุณพ่อ ท่านตายจริงแล้ว เราเชื่อแล้ว เอฟซีแฟนเพลงก็ปลอบใจเราว่าให้แม่คิดว่าพ่อไปเมืองนอกนะ พ่อคงไม่ได้ไปเมืองนอกหรอก เพราะคนๆ นึงหายไปจากบ้านและเหลือเถ้ากระดูกไว้ให้เรา
แม่บอกเอฟซีกับทุกคนว่ากลางคืนนอนฝันถึงพ่อทุกคืน?
นกน้อย : ค่ะ ฝัน และเชื่อว่าพ่อก็ยังอยู่กับเราตลอด ก่อนที่ท่านจากไป ท่านก็ห่วงเรามาก ห่วงแม่ ห่วงน้องแป้ง เพราะเป็นผู้หญิง จะอยู่ยังไงโดยไม่มีพ่อ เขายังถามเลยว่าจะทำวงต่อมั้ย
แม่ฝันถึงพ่อว่ายังไง?
นกน้อย : ก่อนท่านตาย แม่ฝัน แม่ตีความหมายว่าน่าจะเป็นยมทูตมารับแม่กับพ่อ แต่พ่อไปก่อน เราเดินทางไปด้วยกันแล้วหลงทาง พ่อไปก่อน แล้วมีเหมือนทหารกลับมารับแม่ ยังไงแม่ก็ต้องได้ไปกับพ่ออยู่แล้ว แม่ก็เลยขอว่าอย่าเพิ่งเอาแม่ไปตอนนี้เลย เพราะลูกๆ เสียงอีสานยังไม่แข็งแรง มีน้องคนนึงจำได้ว่าจำได้ว่านี่เป็นแม่นกน้อย อุไรพร เป็นเอฟซีของท่าน ให้แม่ร้องเพลง แล้วทุกคนก็บอกว่าให้เอาพ่อไปก่อน อันนั้นเป็นความฝันก่อนพ่อเสีย พอพ่อเสียก็ฝันว่าพ่อกลับมารับแม่ ท่านไม่ไว้ใจว่าใครจะเป็นคนดูแล
เคยเล่าให้น้องแป้งฟัง?
แป้ง : ก็เล่าตลอด หนูกับพ่อใหญ่ แม่ใหญ่ อยู่ด้วยกันตั้งแต่เด็กๆ พอไม่มีพ่อใหญ่แล้ว บ้านก็เงียบเหงา จากที่เคยมีเสียงหัวเราะ เพราะพ่อเป็นคนอารมณ์ดี ชอบหยอก ก็รู้สึกเหงามากๆ ค่ะ
นกน้อย : ตอนนี้รู้แล้วว่าไม่ใช่ความฝัน มันเกิดขึ้นจริง แฟนคลับบางคนยังโทรมาทักทายว่าให้พ่อหายไวๆ เขาก็เข้าใจว่าเสียงอีสานสร้างคอนเทนต์อะไรเสียอีก ก็อยากบอกแฟนเพลงว่าพ่อตายแล้วจริงๆ
ทุกครั้งพ่อหลอดเข้ารพ. ก็วิกฤตทุกครั้ง แต่พ่อรอดได้ทุกครั้ง จนครั้งที่สามที่ส่งพ่อหลอดเข้ารพ. ทุกคนก็เข้าใจว่ายังไงพ่อหลอดก็หาย หลายคนเข้าใจว่าพ่อหลอดหายป่วยแล้ว?
นกน้อย : แม่ก็หวังปาฏิหาริย์ เข้ารพ.รอบนี้ พ่อบอกแม่ว่าให้แม่ไปไหว้ บนบานศาลกล่าวที่ไหนก็ได้ ขอให้พ่อหาย เพราะแม่มาออกรายการรอบก่อน ทางรายการคุยแซ่บโชว์พูดถึงคุณพ่อ บอกว่าถ้าแม่ได้กลับมาอีก พ่อต้องได้กลับมาด้วย ท่านก็บอกว่าพ่ออยากเดินได้ พ่ออยากไป
รายการนี้พ่อบอกว่าพ่อชอบมาก พออยากมา แต่มาไม่ทัน?
นกน้อย : ใช่ค่ะ อยากบอกพ่อว่าแม่มาเป็นตัวแทนของพ่อแล้วที่ได้มาออกรายการนี้กับเหลน
ทุกครั้งที่เข้ารพ. แม่เอง ทุกคน ก็มีความหวังว่าต้องมีปาฏิหาริย์ แต่ครั้งสุดท้ายทำให้แม่เชื่อว่าปาฏิหาริย์ไม่มีอีกแล้ว?
นกน้อย : ปาฏิหาริย์ไม่มี เป็นรอบที่สาม ซึ่งคุณพ่อท่านดื้อมาก ไม่อยากไปหาหมอ ในรอบนี้ก็หนักมาก คุณพ่อเส้นเลือดตีบ เส้นเลือดอุดตัน ต้องบอลลูนเส้นเลือด เบาหวานตัดเท้าก่อน ใส่ขวดลวดที่ขาเพราะแผลติดเชื้อ พ่ออาการดีขึ้นก็ต้องตัดขึ้นไปอีก เพิ่งบอลลูนหัวใจได้เส้นเดียว ติดเชื้อในกระแสเลือด มันมาหมด เบาหวาน ความดัน ไตวาย มารวมกันเลย แม่อึ้ง แม่จุกตอนคุณหมอถามแม่ หมอท่านรักษาก็ต้องรู้อาการพ่อ เขาถามว่าถ้าพ่อหัวใจหยุดเต้น จะให้ปั๊มหัวใจมั้ย แม่งง พ่อมาถึงจุดนี้แล้ว การรักษาเราก็คาดหวังว่าจะหาย
แม่ตอบคุณหมอว่าอย่างไร?
นกน้อย : แม่ถามคุณหมอก่อน ตอนแรกแม่บอกให้ปั๊มหัวใจ แล้วถามว่าคุณพ่อจะอยู่กับเรากี่วัน กี่อาทิตย์ กี่เดือน กี่ปี หมอตอบว่าคุณพ่อหัวใจพร้อมหยุดเต้นทุกนาที แม่ก็เลยบอกว่างั้นไม่ปั๊มหัวใจ ไม่ยื้อ เพราะคุณพ่อร้องไห้ตลอดบอกว่าพาพ่อกลับบ้าน อยากกลับไปตายบ้าน ไม่อยากตายที่โรงพยาบาล
น้องแป้งอยู่กับคุณแม่ด้วยมั้ยตอนคุณพ่อสั่งแบบนั้น?
แป้ง : หนูไม่ได้อยู่เลยค่ะ เป็นช่วงเดินสายการแสดง หนูต้องอยู่ที่วง แม่ต้องดูแลคุณพ่อ หนูก็ต้องดูแลลูกน้องที่วง ไม่ได้มาดแลใกล้ชิด แต่โทรหากันตลอด มีไปเยี่ยมอยู่รอบนึงค่ะ
ก่อนคุณพ่อจากไป มีสั่งเสียกับน้องแป้งมั้ย?
แป้ง : เคยพูดไว้เรื่องทำวง บริหารคน เหมือนให้คำสอน ให้หลักการใช้ชีวิตแก่เรา การดูแลคนเยอะๆ ต้องทำเป็นระแบบแบบนี้นะ
พ่อห่วงวงมากๆ ห่วงลูกหลานที่อยู่ข้างหลังอีกหลายคน?
นกน้อย : ช่วงคุณพ่อไม่สบาย รักษาอาการยาว ช่วงโควิดด้วย โควิดก็ไม่ได้หยุดงาน 300-400 ชีวิต ทุกคนก็รออย่างมีความหวัง ไม่กลับบ้าน ซ้อมรองาน แต่มันก็ยาว
ตอนนั้น 300 กว่าชีวิต อยู่ในความดูแลของพ่อหลอด ในสถานการณ์โควิด พ่อก็รักษาตัวด้วย ก็กระทบหนักที่สุดกับวง?
นกน้อย : หนักที่สุดจนแอบคุยกับพ่อสองคน ลูกๆ ไม่รู้ ที่ออกมาประกาศขายบ้านตองห้า ลูกๆ ก็ไม่ไปไหน เราไปรพ. พ่อถามว่าระหว่างบ้านตองห้ากับเสียงอีสาน ถ้าพ่อให้เลือก แม่จะเลือกอะไร ระหว่างขายบ้านเพื่อยื้อลมหายใจพ่อและวง กับเลือกวง แม่เลือกไม่ยุบวง แต่ขายบ้านตองห้า คุณพ่อก็อนุญาต เพราะบ้านตองห้าเป็นตำนานที่คุณพ่อสร้าง ณ ตอนนั้นไม่ได้บอกใครเลย ลูกๆ ทุกคนพอรู้ก็ตกใจ
วันที่สูญเสียพ่อหลอด แม่อยู่กับคุณพ่อ น้องแป้งทำงาน ได้คุยกับคุณพ่อครั้งสุดท้ายมั้ย?
แป้ง : หลังได้ไปเยี่ยมที่รพ.รอบนั้น หนูก็ไม่ได้ไปอีกเลย ทีนี้ช่วงนั้นเป็นช่วงก่อนสงกรานต์ เดินสายคอนเสิร์ตทุกวันไม่ได้พัก ได้แต่โทรถามข่าวกัน เพราะได้ข่าวว่าแม่ใหญ่จะพาพ่อใหญ่กลับบ้าน ในใจหนูก็คิดว่าต้องมีปาฏิหาริย์แน่นอน พ่อใหญ่ต้องรอให้ลูกหลานกลับไปหา แต่สุดท้ายแล้ว ก็ไม่ทันค่ะ วันนั้นเลยได้วิดีโอคอลดูใจพ่อครั้งสุดท้าย
นกน้อย : วันที่ 11 กลับบ้าน วันที่ 12 ท่านก็จาก
แป้ง : ตอนนั้นท่านพูดไม่ได้แล้ว แต่คิดว่าท่านรับรู้ได้ ได้วิดีโอคอล และพูดครั้งสุดท้ายว่าพ่อใหญ่ไม่ต้องเป็นห่วง หนูจะดูแลแม่ใหญ่ ดูแลวงอีสานสืบทอดเจตนารมณ์พ่อใหญ่ที่วงเสียงอีสานเป็นจิตวิญญาณของพ่อ หนูจะทำให้ดีที่สุดค่ะ
ตอนเดินสายคอนเสิร์ต ชาวคณะทุกคนก็เห็นคุณพ่อ?
แป้ง : ตอนนั้นหนูอยู่คนเดียวค่ะมันไม่ถึงเวลาแสดง เวลา 5 โมงเย็น ทุกคนก็ทำภารกิจส่วนตัวอยู่
นกน้อย : มันเหมือนเคาท์ดาวน์ ไม่กล้าบอกใคร กลัวลูกๆ เสียขวัญ
แป้ง : พอพูดไม่กี่นาที พ่อก็จากไปค่ะ ช็อกมาก เสียใจมากค่ะ
แป้งก็ต้องขึ้นทำการแสดงต่อ?
แป้ง : ใช่ค่ะ เหมือนเจ้าภาพจ้างไป เป็นงานบุญช่วงสงกรานต์ ก็ประชุมลูกวงว่าตอนนี้พ่อได้จากเราไปแล้วนะ ทุกคนก็เสียใจ ร้องไห้แต่หลังจากนั้นต้องทำงานเหมือนเดิม ต้องปลอบใจกันว่าไม่เป็นไรนะถึงพ่อไม่อยู่ เราก็ต้องทำงาน สร้างความสุขให้คนมาดูเราให้เต็มที่ที่สุด ตอนนั้นเราอยู่ร้อยเอ็ด พ่อกลับบ้านตองห้าที่อุดรฯ จากนั้นอีก 2 วันถึงได้กลับมาช่วงกลางวัน มาเจอแม่ ก็ไม่ได้พูดอะไรกัน กอดกันแล้วก็ร้องไห้
นกน้อย : ความรู้สึกแม่ใหญ่ ก็ปลอบใจตัวเองว่าพ่อใหญ่นอนหลับ แต่เวลาผ่านไปเรื่อยๆ พอน้องแป้งกลับมา ในอ้อมกอดที่เราได้กอดใครสักคน คือเหลนของพ่อใหญ่ที่พ่อใหญ่ตั้งความหวังไว้ว่าเธอจะมาสืบสานเสียงอีสาน ทำให้แม่โล่งมาก
ก่อนหน้าพ่อใหญ่จะเสีย มีเรื่องทำให้น้องแป้งเสียใจจนถึงทุกวันนี้?
แป้ง : ณ ตอนนั้นเกิดความไม่เข้าใจกันค่ะ เป็นความน้อยอกน้อยใจของหนูและทางพ่อใหญ่ เป็นเรื่องงานนี่แหละค่ะ ระหว่างหนูและพ่อใหญ่เหมือนความคิดไม่ตรงกันเรื่องการบริหารวง หนูก็คิดว่าเราทำถูกแล้ว หนูอยากทำแบบนี้ ทำไมพ่อถึงไม่ให้ทำ เขามีเหตุผลของเขาว่าทำแบบนี้ไม่ได้นะ จนถึงขั้นงอนกัน ไม่คุยกัน หนูก็ไม่คุย พ่อใหญ่ก็ไม่คุยเหมือนกันประมาณเดือนนึง จากนั้นหนูก็กลับมาทบทวน ว่าหนูทำผิดหรือเปล่า เราเป็นเด็กต้องเข้าหาผู้ใหญ่ ต้องขอโทษท่าน
นกน้อย : ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คนลำบากใจคือแม่ พ่อจะบอกว่าลูกเจ้า เจ้าไม่สอนมัน จริงๆ เขาคนละเจนกัน
แป้ง : เหมือนความคิดไม่ตรงกัน วันนั้นพอกลับจากคอนเสิร์ตก็ขึ้นไปง้อ เขาไม่คุยด้วย เหมือนอยากคุยกับเราแต่วางฟอร์ม หนูก็ถามว่าพ่อใหญ่กินข้าวหรือยัง อยากกินอะไรเดี๋ยวไปซื้อให้ ตอนแรกเหมือนไม่อยากคุย แต่สุดท้ายกลับมาปรับความเข้าใจกันได้ จนวันที่พ่อเข้ารพ. ความรู้สึกน้อยใจก็หายไปหมด เป็นความรู้สึกรักและผูกพัน
พ่อขี้หึงมาก?
นกน้อย : ค่ะ (หัวเราะ) หึงและหวง สมมติแม่ออกไปหน้าเวที มีแฟนคลับผู้ชายเอาพวงมาลัยมาคล้อง ท่านก็จะแอบส่องข้างเวที ถ้าเห็นว่าไม่บริสุทธิ์ใจกับเมียแล้วจะโผล่ออกมาหน้าเวทีเลยค่ะ ท่านจะบอกตลอดว่าคนมาโอบกอดหน้าเวที หรือจับมือหลังเวที เขารู้หมดว่าใครมีเลศนัยแอบแฝง จะรู้หมดทุกเรื่องแหละ แม่ล้าหลัง เขารู้หมดใครเจ้าเล่ห์แค่ไหน
มีห้ามรับพวงมาลัยจากหนุ่มๆ มั้ย?
นกน้อย : ห้าม แต่เราทำไม่ได้ เราเป็นนักร้อง แต่คุณพ่อส่องข้างเวที แล้ววิ่งมาหน้าเวทีเลยนะ โดดไปข้างล่างก็มีจะต่อยเลยนะ นักดนตรีต่างๆ เป็นทีมพ่อหมด จนช่วงนึงฉายาเสียงอีสานคือหมอลำหาเรื่องเขาก่อน เพราะพ่อนี่ไง (หัวเราะ)
แม่ก็ดื้อมาก พ่อยิ่งห้าม ก็เหมือนยิ่งยุ?
นกน้อย : ทุกคนก็คงไม่สมบูรณ์แบบเนอะ แม่เป็นลูกคนสุดท้อง ก็เอาแต่ใจตัวเอง พอได้แต่งงานกับพ่อ เราก็ไม่ยอม ถ้าบอกจะเข้าบ้านหนึ่งทุ่ม ก็เกินกว่านั้นไม่ได้ ข้าวของทุบทำลาย กรีดตัวเอง กล้อนผม เข้าบ้านช้าแค่หนึ่งนาทีเท่านั้นค่ะ
พ่อเจ้าชู้มั้ย?
นกน้อย : คิดว่าเป็นเรื่องปกติผู้ชาย อาจมีบ้างที่นอกกรอบ แต่ที่ต่อสู้กับพ่อคือเรื่องไก่ชน เขารักไก่ชนมาก เอาไปนอน กางมุ้งให้ไก่ รักไก่มากกว่าเราได้ไง เราก็ให้เลือกระหว่างไก่กับเมียเลือกอะไร ไก่กับนกเลือกอะไร (หัวเราะ) พ่อก็บอกว่าเลือกไก่ นกก็กลับมาทบทวนค่ะ เราเป็นคน ทำไมอยากชนะไก่ (หัวเราะ) ก็มาตั้งสติทุ่มเททำวงเสียงอีสานกับลูกหลาน คุณพ่ออยากไปชนไก่กับเพื่อนอะไรของท่านก็ตามใจ
ก่อนพ่อเสีย มีเรื่องลองใจคุณแม่อีก?
นกน้อย : กังวลมาก เรื่องเราไปวงแล้วเขาไม่ได้ไปด้วย ท่านไม่สบาย ท่านขอไปวง แต่ไปไม่ได้ เพราะล้มหมอนนอนเสื่อ
คนในวงเม้าธ์ว่าพ่อใหญ่กังวลที่สุด คือพ่อกลัวแม่มีผัวใหม่?
นกน้อย : ก่อนพ่อจากไป นอนอยู่รพ. ยังพูดกันได้ พ่อบอกว่าพ่อถามหน่อย ถ้าพ่อตายจะเอาผัวใหม่มั้ย แม่ก็บอกว่าเอา (หัวเราะ) พ่อก็ต่อว่าเราว่า พูดเหมือนหมาเนอะ หมาพูดแบบนี้ไม่ใช่คน แม่ก็บอกว่าถ้าแม่บอกว่าเอา แต่แม่ไม่เอาคนยกย่องชมเชยนะ แต่ถ้าแม่บอกว่าไม่เอา แต่สุดท้ายแม่เอา คนจะครหาแม่นะ ถ้าแม่อยากรู้ว่านรกมีกี่ขุมก็ให้แม่เอาซะ ที่ผ่านมาก็หลายขุมแล้วที่มีผัวเนี่ย
พ่อหึง แม่ดื้อ ก็แกล้งพ่อ?
นกน้อย : อันนี้พูดจริงใจค่ะ (หัวเราะ.) ท่านก็หวงแรง พูดขรึมเลย ถ้าพ่อตายจะเอาผัวใหม่มั้ย ไม่ได้พูดขำๆ ไงคะ (หัวเราะ) ชีวิตคู่ต้องอยู่กับความอดทน ท่านก็ทนเรา พอมาถึงชม.นี้ คิดทบทวน เราก็แสบเหมือนกัน ท่านทนเราได้ถึงขนาดนี้ เราก็ทนท่าน เราก็ทำดีที่สุดแล้ว ท่านไม่ใช่ภาระ แต่เป็นที่สุดของแม่ ยกขึ้นหิ้ง พ่อจะพูดตลอดว่าไม่อยากรักษา เพราะไม่อยากเป็นภาระของแม่ แต่แม่ก็บอกตลอดว่าพ่อไม่ใช่ภาระ ถ้าไม่มีพ่อ ก็ไม่มีนกน้อย อุไรพร ไม่มีวงเสียงอีสาน จบลงด้วยเราดูแลท่านถึงที่สุดแล้ว ท่านไม่ใช่ภาระของแม่
ถ้าพ่อดูอยู่บนสวรรค์ แล้วถามว่าแม่จะมีผัวใหม่มั้ย?
นกน้อย : ยังไม่อยากมี ไม่อยากรู้ว่านรกมีกี่ขุม คุณพ่อก็ไม่ไปไหน ฝันทุกคืนเลย
พ่อใหญ่เข้าฝันแม่เรื่องอะไรบ้างแต่ละวัน เมื่อคืนก็ฝันอีก?
นกน้อย : เขามานั่งเฝ้าเฉยๆ ค่ะ วันนี้ก็บอกพ่อว่ารายการคุยแซ่บที่พ่ออยากมาแต่ไม่ได้มา ก็จะบอกว่าแม่มาเป็นตัวแทนพ่อกับน้องแป้งนะ ส่วนเรื่องวงก่อนท่านจากไปท่านบอกว่าถ้าทำไม่ดีตอนผมอยู่ ไม่ต้องทำ
กระแสเองก็โจมตีน้องแป้งหนักมาก ว่าวงเสียงอีสานไม่พัฒนา เขาหาว่าเป็นเพราะเรา?
แป้ง : สมัยก่อน ตอนเริ่มเข้าวงการใหม่ๆ ตอนนั้นไม่เก่งอะไรเลย เป็นเด็กดิบๆ ร้องเพลงไม่เก่ง เต้นไม่เก่ง ทำอะไรเหมือนงูๆ ปลาๆ ก็จะมีคอมเมนต์ว่าใช้เส้นหรือเปล่า เห็นว่าเป็นหลานแม่นก ขึ้นมาโดดเด่นบนเวทีแบบนี้ก็ได้เหรอ แม่ดันแต่หลานตัวเอง วงก็เลยไม่พัฒนา จะได้รับคอมเมนต์แบบนี้ตลอด สมัยก่อนหลายปีแล้ว
นกน้อย : ในลูกๆ ครอบครัวเสียงอีสานที่ไม่ใช่สายเลือด แม่พร้อมให้โอกาสทุกคน แต่ข้อปลีกย่อยของคำว่าศิลปินหรือความดังมันเยอะ บางคนเสียงดี แต่ความอดทน จะทนได้มั้ย
เพราะสวยหน้าตาดี เลยได้โอกาสก่อน?
นกน้อย : ข้อนี้ไม่น่าใช่ แต่คนเมนต์ว่าเป็นเพราะหลานตัวเอง สายเลือดตัวเอง
แป้ง : ใช้เวลาพิสูจน์ตัวเองก็นานพอสมควรค่ะ คือตอนเราเป็นเด็ก เรามีความคิดว่าทำไมเขาต้องมาว่าเราแบบนี้ หรือเราไม่เหมาะกับจุดนี้ เราก็เคยคิดเลิกทำไปเลย เพราะคิดว่าเราไม่เหมาะกับการเป็นหมอลำ มีร้องไห้คนเดียว ก็มาปรึกษาแม่ใหญ่ว่าหนูจะทำยังไงดี คนว่าหนูเยอะมาก หนูทำไม่ดีตรงไหน บกพร่องตรงไหน แม่ใหญ่ช่วยสอนเพิ่มได้มั้ย หนูต้องการเรียนรู้ให้มากกว่านี้ สิ่งไหนที่ทำได้ไม่ดีก็จะทำให้ดีกว่านี้ หนูก็ก้าวผ่านคอมเมนต์ทำให้เฟลมาได้ตลอด มาถึงตรงนี้ก็คิดว่าตัวเองเข้มแข็งพอที่จะเดินไปข้างหน้า
Advertisement