บ๊วย เชษฐวุฒิ สุดทรมาน! ป่วยเป็นฝีที่ตับจนติดเชื้อในกระแสเลือดแบบไม่ทราบสาเหตุ ลั่น ถ้าจะตุยก็ตุยไปเลย
ทำเอาแฟนๆแห่ให้กำลังใจกันเพียบ สำหรับหนุ่ม “บ๊วย เชษฐวุฒิ” หลังเจ้าตัวออกมาโพสต์ภาพเผยถึงอาการ แอดมิทนอนโรงพยาบาล ร่วมสัปดาห์ อีกทั้งยังจะอาวาสเดินทางมาเยี่ยมด้วย ซึ่งหลายคนก็เกิดความสงสัยว่าเจ้าตัวป่วยเป็นอะไร ซึ่งเจ้าตัวก็ได้มาเปิดเผยพร้อมอัปเดตถึงอาการป่วยของตนที่ทำเอาแฟนๆต้องช็อกเลยทีเดียว
“บ๊วย เชษฐวุฒิ วัชรคุณ“มาร่วมงานบวงสรวง "ชูชัยบุรี ศรีศิวะ มหาเทพ อัญมณี" พระมหาศิวลึงค์หยกแห่งเดียวในโลก พร้อมทั้งให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเพื่ออัปเดตอาการป่วย ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า ตอนนี้ก็ยังต้องไปโรงพยาบาลทุกวันเพื่อให้ยาฆ่าเชื้อ แต่การป่วยในครั้งนี้ ก็ได้รับพระเดชพระคุณจากเจ้าอาวาสถึง 2 วัดด้วยกัน โดย “พระพรหมวชิรมุนี” (เชิด จิตฺตคุตฺโต) เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหาร ได้ให้พระเลขามาเยี่ยมและสอบถามอาการแทน ส่วนพระปลัด “สุรเชษฐ์ สุรเชฏโฐ” เจ้าอาวาสวัดโตนด ต.วัดชลอ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ได้เดินทางมาเยี่ยมด้วยตนเอง
ถามถึงโรคที่เป็นตนบอกว่า ติดเชื้อในกระแสเลือด ก็ไม่รู้ว่าติดเชื้อมาจากที่ไหนยังไง หมอก็ไม่ทราบสาเหตุ แล้วเผอิญว่าตามกระแสเลือดไปเรื่อยๆ แล้วก็ไปลงตับ เลยเป็นฝีที่ตับ ต้องผ่าตัดเล็กเอาหนองออก แล้วก็ต้องให้ยาฆ่าเชื้อ ซึ่งยาฆ่าเชื้อก็ต้องรอดูว่ายาตัวนี้มันส่งผลต่อฝีไหม ถ้าส่งผลก็นอนโรงพยาบาลน้อยลง แต่เผอิญว่ามันส่งผลต่อฝี ก็นอนประมาณ 8-9 วัน อาการเบื้องต้นคือตอนเย็นหนาวๆ ร้อนๆ ตอนเช้าก็เหงื่อออก เป็นมาประมาณ 4-5 วัน คือไม่เจ็บคอ ไม่มีน้ำมูก ตรวจ ATK ก็ไม่ได้ 2 ขีด แต่พอไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาล ก็คือค่าเม็ดเลือดขาวสูง แสดงว่าร่างกายมันต่อสู้กับตัวเองอยู่ ก็โชคดีที่รู้ว่าเป็นที่ตับ
ตอนนี้ก็ยังต้องให้ยาฆ่าเชื้ออยู่ ไม่มีสัญญาณอะไร บางคนบอกว่าคนที่เป็นโรคติดเชื้อในกระแสเลือด บางทีก็มารู้ตอนตายไปแล้ว แต่เสียดในท้องเราเลยบอกได้ หมอเลยให้ไปเอ็กซเรย์ดู อาการเหมือนคนป่วย เป็นไข้ 40 องศารู้สึกหนาวๆร้อนร้อนๆ โดยหลังผ่าตัดสภาพไม่ดีเลย เจ็บเหมือนคนมาแทงตลอดเวลา ต้องขอมอร์ฟีน แต่ก็ดีขึ้นตามลำดับ ให้ยาฆ่าเชื้อตามกระแสเลือด ก็ต้องรอร่างกายรีคัฟเวอร์ตัวเอง
ถามว่าคุณหมอห้ามอะไรไหม ตนไม่ได้ถามเลย แต่ก็ไม่ควรจะไปโลดโผน ออกกำลังกาย ตอนนี้ก็ยังไปโรงพยาบาลทุกวัน ให้ยาทุกชั่วโมงต้องไปถึงประมาณกลางเดือนนี้ ก็ภาวนาให้หายขาด นี่ถือว่านอนโรงพยาบาลนานมากที่สุดในชีวิตเลย สงสัยอาจจะเครียดเยอะด้วย มีความเครียด คือเราไม่รู้ว่าติดเชื้อในกระแสเลือดจากอะไร ซึ่งก็ไม่ได้กินของดิบ อาจจะเข้าทางผิวหนัง หรือไปเข้าห้องน้ำสาธารณะ อันนี้ไม่รู้เลย
ถามต่อว่าหวั่นไหมพอไม่รู้สาเหตุแล้วจะทำให้ถึงแก่ชีวิต ตนบอกว่าไม่หวั่น ถ้าตุยก็ตุยไปเลย เราก็ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ ถ้ามานั่งกลัวมันก็นอยด์เปล่าๆ
ฝีในตับอันตรายยังไงบ้าง ตนบอกว่า อย่างที่บอกว่าติดเชื้อในกระแสเลือด เลือดก็วิ่งไปทุกที่ ของตนมันไปลงที่ตับ อาการแบบนี้หมอบอกว่าฝีมันเกิดสักประมาณ 1-2 สัปดาห์ ก็เพาะเชื้อได้ พอไปเจอที่ตับขนาด 5.7 เซนติเมตร ก็คือว่าใหญ่พอสมควร ตอนนี้น้ำหนักลดลงไปเท่าไหร่ไม่ทราบ แต่ว่าเสียงเรายังมีความเหมือนมอเตอร์ไซค์จะล้ม ทำให้มันไม่มีแรงเหมือนเดิม เราต้องเดินช้าๆ ทำอะไรช้าๆ ตั้งสติก่อน ก็ขัดใจแต่ต้องไปตามสังขาร ตอนนี้ก็ปรับการใช้ชีวิตคือนอนเร็วขึ้น วันนี้ก็ถอดเข็มมาเลย เพราะรับปากกับ”พี่ชูชัย“ไว้แล้ว
การป่วยครั้งนี้ทำให้คิดว่าความตายมันอยู่ใกล้เรา ในช่วงนี้ตื่นเช้าทุกวันมา 4 เดือนแล้ว เพื่อเข้าคลาสของพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี ตื่นตี 5 มานั่งสมาธิ ไหว้พระ สวดมนต์ พระอาจารย์ก็เทศน์ ซึ่งชีวิตก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ได้เจอมหัศจรรย์ของชีวิตอยู่แล้ว การมาเป็นสิ้นปีนี้ เหมือนการล้างสิ่งไม่ดี ในปี 2566 แล้วก็เริ่มต้น 2567 แบบเต็มที่เลย
เห็นโพสต์โซเชียลว่ามีเจ้าอาวาสไปเยี่ยมด้วย ตนบอกว่า ไม่ได้ตั้งใจโพสต์ เผอิญว่าจะไปงานลอยกระทง ที่มีจันทร์ซ้อนจันทร์ มีการอาบน้ำโบราณของพระสังฆราชที่วัดสุทัศน์ กะว่าจะพาเอฟซีเราไป ก็แจ้งชื่อเรียบร้อย ตนอยู่โรงพยาบาล ท่านก็เลยให้พระเลขามาเยี่ยม เราก็รู้สึกว่าเป็นกรุณาของท่าน ก็เป็นการป่วยที่มีพระมาเยี่ยม เป็นเจ้าอาวาสถึงสองรูปด้วยกัน
หลังจากนี้ตนบอกว่า จะรักษาร่างกายตัวเอง คอยดูแลตัวเองเรื่อยๆ เรื่องอาการป่วย ทุกคนมีเชื้อโรคดีและไม่ดีอยู่แล้วในร่างกาย แต่เชื้อโรคไม่ดี จะส่งผลต่อเมื่อเราพักผ่อนน้อย เครียด เกิดภาวะแอนติบอดี้อ่อนแอได้
Advertisement