“ลุกซ์ ชาญวิทย์ ” น้องชายและผู้จัดการ “ใบเตย อาร์สยาม” โพสต์เฟซบุ๊กรีวิวชีวิต 1 เดือนหลังพี่สาวได้กลับบ้าน เผยเหตุผลที่ต้องรับงานทันที
โดยเมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2566 “ลุกซ์ ชาญวิทย์ ทวีสิน” โพสต์เฟซบุ๊กว่า
"รีวิวครบ 1 เดือนหลังจากพี่เตยกลับมาอยู่บ้าน วันนี้ของเดือนที่แล้วคือ ความเซอร์ไพรส์ที่สุดในชีวิต ยังจำวินาทีรอศาลพิจารคดีและพูดคำว่า อนุญาตปล่อยตัวชั่วคราวได้ เป็นวินาทีที่บีบหัวใจที่สุด กุมมือพี่เตยแน่น ภาวนาในใจ แต่หูดับ ไม่อยากได้ยินอะไรทั้งนั้น ... สุดท้าย โชคดีก็มาหาครอบครัวเราบ้าง ดีใจมากๆ"
"ชีวิตหลังจากนั้นคือคำว่า ทุกอย่างเร็วไปหมด เร็วไปมากๆ พี่เตยกลับมา เหมือนดวงอาทิตย์สาดส่องบ้านอีกครั้ง หลังจากที่มืดสนิท เป็นสีเทามา 6 เดือน เห็นได้จากความสดใส ร่าเริง ของเวทย์มน และเพื่อนๆ ที่มาหาพี่เตยกันทุกวัน ในใจตอนนั้นคิดว่าจะทำยังไงต่อไป ไม่แน่ใจว่าพี่เตยจะทำงานอะไรได้บ้าง จะมีโอกาสจากที่ไหนหยิบยื่นเข้ามา บวกกับลุกซ์ไม่ทันได้วางแผนชีวิตเลย เพราะในใจไม่ค่อยมีความหวังเรื่องการที่พี่เตยจะได้ออกมา เพราะยื่นไปก่อนหน้า 2 ครั้ง คือ ไม่เคยได้เลย"
"แต่ชีวิตนี้ ได้เจอคำว่า ฟ้าหลังฝน แล้วเลยนะ พี่เตยได้รับโอกาสในการทำงานอีกครั้ง (แบบเยอะมากๆเลย) ซึ่งโอกาสเหล่านี้ มาจาก คนใกล้ตัว เพื่อน คนรู้จัก คนที่เคยจ้างงานกันมา หรือง่ายๆ คนที่รักและเชื่อในตัวพี่เตย ขอเอ่ยชื่อเลยนะคะ พี่ตั๊กตั๊ก พี่ป๊อป เจ๊ลอทติ้ง น้องนัททิว พี่แอปเปิ้ล ขอบคุณมากๆนะคะ โดยเฉพาะพี่ตั๊ก ที่ให้โอกาสงานแรก จนทำให้พี่เตยมีงานเข้ามาเรื่อยๆ ขอบคุณจริงๆ"
"หลายครั้ง ลุกซ์ได้ยินคนทั้งใกล้และไกลตัว พูดเรื่องลุกซ์รับงานให้พี่เตยเร็วไป ควรให้อยู่เฉยๆ อย่าเพิ่งทำอะไร หรือพูดอะไร จริงๆ ลุกซ์เห็นด้วยมากๆ นะคะ อยากทำแบบนั้นเหมือนกัน แต่ลุกซ์จะบอกว่า ที่ผ่านมา 6 เดือนที่ลุกซ์ดูแลบ้านเอง ลุกซ์ใช้เงินเก็บของตัวเอง Hold ทุกอย่างไว้ ไปเกือบหมดแล้วค่ะ ค่าใช้จ่ายต่อเดือนของลุกซ์ ที่ต้องหามาจ่ายรายเดือนของทั้งครอบครัวคือเยอะมากๆ แบบที่ลุกซ์ก็คิดว่าตัวเองคงไม่น่ารอดเกิน 3 เดือน แต่ลุกซ์สู้มากๆ 6 เดือน คือ จะพูดว่าหมดตัว ก็พูดได้เลยค่ะ ..."
"เพราะฉะนั้น ลุกซ์คงรอไม่ได้ค่ะ ถ้าพี่เตยออกมาแล้วได้รับโอกาส ในการช่วยเหลือครอบครัว ช่วยลุกซ์ และช่วยได้มากๆ ลุกซ์คงมีความจำเป็นที่ต้องให้พี่เตยทำงานค่ะ และอีกอย่าง งานร้องเพลงที่พี่เตยทำ ก็เป็นงานที่เขาทำได้ดีที่สุด และเป็นพลังใจที่ดีในการสู้ชีวิตต่อ สำหรับคนเป็นนักร้อง ถ้ามีคนมาฟัง มาดูตัวเองร้องเพลง คงจะเป็นพลังใจมากๆ เลย จริงไหมคะ ลุกซ์เข้าใจทุกคนและขอบคุณมากๆ สำหรับความหวังดี ยังไงก็จะพยายามดูแลพี่เตยและที่บ้านให้ดี เหมือนที่เคยทำมาตลอดนะคะ"
"แต่ไม่ใช่ว่าทุกอย่างจะราบรื่นได้ดังใจนึกทุกอย่างนะคะ ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว พี่เตยก็ต้องรายงานตัวกับศาลทุกวันที่ 15 และใส่กำไล Em อยู่ตลอด กำไล EM ค่อนข้างหนัก สำหรับข้อเท้าขนาดตัวของพี่เตย พี่เตยน้ำหนัก 39-40 ตอนนี้ น้ำหนักของกำไลก็ประมาณ power bank หนึ่งอัน ซึ่งลุกซ์เห็นทุกครั้งเวลาขึ้นคอนเสิร์ต พี่เตยจะต้องใส่รองเท้าส้นสูงมากๆ แต่เวลาจะยกขา หรือเต้น ก็ทำไม่ได้เต็มที่ บางวันกลับมาข้อเท้าเป็นช้ำๆ แต่พี่เตยก็ไม่เคยบ่น ก็อดทนมากๆ"
"แล้วก็ทุกวันนี้พี่เตยเข้ารับการรักษาตัวเองกับจิตแพทย์เป็นระยะ เพราะเวลา 6 เดือนในนั้น สำหรับพี่เตย ก็คงนานเหมือน 6 ปี ก็ต้องพบหมอ ให้หมอช่วยเยียวยากันต่อไป"
"ลุกซ์ขอบคุณกำลังใจจากเพื่อนและคนรอบตัวมาตลอด ที่ส่งมาให้เสมอ ดีใจที่ยังมีทุกๆคนอยู่ ชีวิตคงยากกว่านี้แน่ๆ ถ้าไม่มีทุกคนคอยรับฟัง ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆ 10 คนที่สลับตัวกันไปเยี่ยมพี่เตยตลอด น้องคราม พี่จ๋า พี่ตา น้องอีฟ ลุกซ์ขอบคุณลูกค้าร้านแบรนด์เนมตัวเองและทีมงานมากๆ โดยเฉพาะพี่เอ๋ ลุกซ์มีกินมีใช้ ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา เพราะมีลูกค้าเหล่านี้คอยมาช่วยเหลือ ซัพพอร์ทตลอด ขอบคุณมากๆ จริงๆ ค่ะ และคนที่อยากขอบคุณมากที่สุด อีก 2 คน คือ พี่ดุก กับ พี่มะลิ ไม่มีคำไหนจะอธิบายได้เลย ความรู้สึกที่พี่ดุก และพี่มะลิ ช่วยหนูมาตลอด เป็น 6 เดือนที่ได้กอดกันร้องไห้มากที่สุด ขอบคุณที่ดูแลเวทย์มนอย่างดีมากๆ ขอบคุณจริงๆค่ะ"
"สุดท้าย ลุกซ์ยังรอความหวังให้พี่แมนได้กลับมาเจอพี่เตยและลูกนะคะ อยากให้ครอบครัวพี่เตยได้กลับมาอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา ได้สมหวัง อย่างน้อยลุกซ์ก็คิดว่า พี่แมนก็ควรได้รับโอกาสในการทำหน้าที่พ่อ ทำหน้าที่สามี และลูกที่ดีให้กับพ่อเหมี่ยว แม่ป๋อง ... ลุกซ์ไปเยี่ยมพี่แมนทุกครั้ง ก็คิดถึงพี่ภูมิมากๆ ตลอด อาจจะเป็นเพราะลุกซ์รู้สึกว่าคนของลุกซ์กลับมาไม่ได้แล้ว แต่คนของพี่เตยยังกลับมาได้อยู่ เพราะฉะนั้น ครอบครัวเรายังต้องสู้กันต่อไปนะคะ เป็นกำลังใจให้พวกเราด้วยนะ"
"6 เดือนที่ผ่านมา คงเป็นประสบการณ์ชีวิตที่เศร้าที่สุดแล้ว ไม่อยากแชร์ความเศร้านี้ให้ใครต้องทราบ แต่ถ้าใครอยากพูดคุยกับคนที่ผ่านเหตุการณ์แย่ๆมาได้ ลุกซ์ยินดีรับฟัง และกอดทุกคนจริงๆนะคะ ... จากผู้ประสบความทุกข์ชื่อลุกซ์ซี่"
Advertisement