วันที่ 18 พ.ย. 67 เฟซบุ๊กเพจ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” โพสต์ข้อความระบุว่า “ช็อก! "หมอxxx" ปลอมลายเซ็นอดีตลูกสะใภ้ ยื่นกู้เงินเสียหายกว่า 8 พันล.ลือหนีไปนอกแล้ว หาตัวไม่เจอ”
จากนั้นระบุรายละเอียดใต้โพสต์ดังกล่าวว่า “วันนี้ (18 พ.ย.) นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ดำเนินรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ กล่าวในรายการสนธิเล่าเรื่อง ผ่านยูทูบ Sondhitalk ว่า นายแพทย์ชื่อดัง เจ้าของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านธนบุรี ที่มีวีรกรรมตั้งแต่สมัยโควิด-19 ซึ่งตนเคยเปิดโปงว่า นายแพทย์ชื่อดังคนดังกล่าวทำมาหากินกับวัคซีน เพื่อนำไปจำหน่ายแก่โรงพยาบาลต่างๆ แต่โดนขัดขวาง ที่ผ่านมาก็มีเรื่องมีราวตลอด ตอนนี้ไม่ได้อยู่ในประเทศไทย หนีไปต่างประเทศ”
“มีข่าวในแวดวงนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และวงการปล่อยเงินกู้ให้กับบริษัทต่างๆ ว่า นายแพทย์ชื่อดังไปฉ้อโกง เอาตัวเองไปกู้เงิน มีสัญญาเงินกู้เอาหุ้นไปค้ำประกัน โดยมีตัวแทน หรือเอเยนต์ไปหาเงินกู้ เหมือนกับว่าชื่อ นายแพทย์ชื่อดัง เป็นชื่อที่มีศักดิ์ศรี มีกิจการใหญ่ เป็นเจ้าของโรงพยาบาล และแอบอ้างชื่อมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งว่าเป็นตัวเองเจ้าของ ซึ่งไม่ใช่ เพียงแต่ชื่อมหาวิทยาลัยคล้ายกับชื่อโรงพยาบาล จึงมีเอเยนต์ไปหาเงินกู้ให้ โดยให้ดอกเบี้ยสูงถึง 15% ทำให้คนที่มีเงินเย็นอยากปล่อยเงินกู้ ทั้งการนำหลักทรัพย์ไปค้ำประกัน”
“แต่ที่หนักกว่านั้น คือไปปลอมลายเซ็นในหนังสือค้ำประกันเงินกู้ อดีตลูกสะใภ้ที่หย่ากับลูกชายตั้งแต่เดือน ก.ย. 2566 ปรากฎว่ามีลายมือชื่อเซ็นในเอกสารด้านหลังทุกอย่าง ทั้งเอกสารเรื่องหุ้น เงินกู้ และสัญญาต่างๆ เป็นลายเซ็นปลอม ทั้งที่อดีตลูกสะใภ้ไม่เคยรู้เรื่องและไม่เคยลงนามใดๆ ในชีวิตทั้งสิ้น โดยมีวงเงินที่เริ่มทวงถาม มีหมายจากตำรวจ และหมายศาลมาถึง เกือบ 8,000 ล้านบาท”
“นายสนธิ กล่าวว่า เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา อดีตลูกสะใภ้มาพบตน และหลานของตน บอกว่าไม่เคยเซ็นอะไรแม้แต่นิดเดียว พร้อมกับนำเอกสารมาให้ดูก็ตกใจ ตนเห็นว่าคนที่มีลูก 2 คนจากสามีที่หย่าไปแล้ว ตนไม่พูดดีกว่า แต่ถ้าไม่ถึงที่สุดจริงๆ ไม่ขอหย่าหรอก วันนี้นายแพทย์คนดังไม่ได้อยู่ในประเทศไทยแล้ว หลายคนบอกว่าออกไปสักพักหนึ่งแล้ว เพราะไม่มีเงิน ครอบครัวและอดีตลูกสะใภ้ยังงง ยังมีผู้ให้กู้อีกหลายเจ้าที่ยังไม่ได้เปิดเผยตัว เพราะอับอาย รวมกันแล้วกว่า 1 หมื่นล้านบาท”
“ทั้งนี้อดีตลูกสะใภ้ยืนยันว่าไม่ได้เซ็น และไม่เคยเซ็นด้วย เอาลายเซ็นไปพิสูจน์ที่ไหนก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นนิติเวช หรือพิสูจน์หลักฐาน จะรู้ว่าไม่ใช่ลายเซ็นเขา เพราะฉะนั้น นายแพทย์คนดังคือผู้สร้างเรื่องทั้งหมด สมัยก่อนตั้งคณะกรรมการโควิด-19 นายแพทย์คนดังมีชื่อ และดิ้นรนเพื่อเอาวัคซีนไฟเซอร์มา เป็นคนที่เห็นว่าตรงไหนมีผลประโยชน์ก็ไปขอมีส่วนร่วมด้วย
“ระหว่างโจรที่มาเป็นทนาย กับนายแพทย์ที่จบแพทย์ ผมไม่รู้ว่า นายแพทย์คนดังจบแพทยศาสตร์ที่ไหน แต่รู้อยู่ว่าความชั่วเหมือนกันเลย นี่คือบทเรียนข้อหนึ่งว่า คนเราอย่าเอาวุฒิภาวะหรือวุฒิการศึกษา คุณวุฒิมาวัดกันว่าคนเรียนสูงไม่โกง คนเรียนต่ำจะโกง ไม่ใช่ คนจิตใจชั่วต่างหาก ซึ่งจะเรียนสูงหรือต่ำ ถ้าจิตใจชั่วโกงได้ทุกคน นี่เป็นการฉ้อโกงประชาชนครั้งยิ่งใหญ่ ไม่มีใครกล้าเปิด ผมเปิดเป็นคนแรกที่นี่ และผมจะทำเรื่องนี้ต่อ นายสนธิ กล่าว”
ขอบคุณข้อมูล : เฟซบุ๊กเพจ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ”
Advertisement