คุยแซ่บShow:"แซม ยุรนันท์" เปิดใจครั้งแรกหลังอวดหุ่นแซ่บในวัยเฉียด 62 ปี พร้อมเคลียร์ Sexyเกินจนภรรยาหึง!?!
เปิดใจครั้งแรกนักแสดงรุ่นเก๋า แซม ยุรนันท์ หลังสลัดผ้าโชว์หุ่นแซ่บอวดซิกแพคแน่นๆ เปิดเบื้องหลังหุ่นฟิตจนเกือบทำภาพหลุดมาแล้ว พร้อมเคลียร์ประเด็นภรรยาหวงหลังกลับมาฟิตแอนด์เฟิร์มขึ้น ทุกประเด็นในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี เป็กกี้ ศรีธัญญา ซินแสเป็นหนึ่ง และ ดีเจพุฒ พุฒิชัย เป็นพิธีกร
ภาพเซ็ตนี้กระชากใจคนดูมาก ทำให้สาวๆเรียกแด๊ดดี้แซม รู้สึกอย่างไรบ้าง ?
แซม : จุดประสงค์จริงๆแค่จำทำให้เห็นว่ารูปร่างเป็นส่วนหนึ่งที่เป็นผลพลอยได้ หลายคนอาจจะบอกว่ารูปร่างที่ดีคือเป้าหมายหลัก สุขภาพต่างหากที่มันสำคัญ ภาพที่เราเห็นเป็นแรงกระตุ้น แต่ผลลัพท์คือสุขภาพกลับมาดี
นอกจากได้สุขภาพแล้วก็จะได้อะไรแบบนี้ด้วยให้กับคนดู มีคอนเม้นท์อย่างไรบ้างสำหรับคนที่เห็นภาพเซ็ตนี้แล้ว ?
แซม : ส่วนใหญ่ก็ตรงวัตถุประสงค์ที่อยากให้เป็นก็คือเป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายๆคน คนอายุปูนนี้เขายังทำได้เลย แล้วเราทำไมถึงไม่ทำ เขาทำได้ในเวลาแค่เดือนกว่าเอง อย่าไปบอกว่าอายุเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เราดูแลสุขภาพไม่ได้ หรือเวลา อย่าบอกว่าไม่มีเวลาเลย พี่ถ่ายละครอยู่ 2 เรื่อง งานบริษัทอีก งานเต็ม 7 วันทำไมถึงแบ่งเวลาได้ มันเป็นข้ออ้างของคนที่ไปไม่ถึงซักที
จุดเริ่มต้นกานถ่ายรูปโชว์หุ่น ?
แซม : จริงๆเป็นคนขี้อายมากนะ เล่นหนัง เล่นละคร ให้ถอด ไม่ถอดครับ ขนาดเล่นแม่เบี้ยเป็นอีโรติก หนังก็ไม่เล่นเพราะมันต้องถอดเยอะ พอเป็นละครก็ผมไม่เล่นนะ 1.เราขี้อาย 2.เราเป็นตัวอย่างของคนหลายๆคน การวางตัวซักอย่างต้องระวังเพราะว่าต้องบอกว่าเราเป็นไอดอลของคนหลายๆกลุ่ม พยายามที่สุดที่จะไม่ทำอะไรที่มันล่อแหลม แต่อันนี้มันเป็นชาเล้นจ์ของบริษัท ดิไอคอน เขากำลังจะออกว่าคนเราดูแลสุขภาพ ผู้หญิงก็ต้องลดหุ่นประมาณนี้ ผู้ชายถ้าลดหุ่นให้สุดมันยก็ต้องมีซิกแพคซิ เขาก็แข่งกัน คนไหนจะทำได้เดือนไหน เขาไม่มองพี่เลยนะ ข้ามกันไปข้ามกันมา ทำไมล่ะคนเกษียณเราไม่มีส่วนหรอ
ระหว่างที่นั่งฟังเขาท้าทายชาเล้นจ์ตอนนั้นรู้สึกยังไง ?
แซม : ก็รู้กสึกว่าข้ามกันไปเลย แล้วก็บอกว่สาคุณพ่อหรือคุณพี่แซมสะดวกเมื่อไหร่ยังไงก็มาด้วยกันนะ ก็ไม่ถามเทรนเนอร์ว่าอย่างนี้จะเป็นได้กี่เดือน เขาก็บอกได้ครับพี่ก็ 3-4 เดือน แล้วถ้าเดือนกว่าๆล่ะ มันก็ต้องวินัยเยอะมาก ทุ่มเทเยอะมาก อย่างโน้นอย่างนี้เยอะมาก โอเคทำได้ใช่มั้ยแต่ต้องทุ่มเทใช่มั้ย ก็ไม่ได้บอกนะครับเพราะกะว่าจะเซอร์ไพรส์ คือถ้าไม่ได้ก็เนียนๆไป ก็ไม่ได้ว่าอะไรนิ่ แต่ถ้าได้กูเสียงดังนะ ก็แอบซุ่ม เทรนเนอร์ก็ให้เวลามีแค่นี้นะ ที่เหลือก็ไปทำต่อเองที่บ้านหรือไปทำที่ฟิตเนสที่อื่น เอาให้รู้ว่าวินัยมีเป็นยังไง
ทั้งหมดใช้เวลาเท่าไหร่ถีงได้มา ?
แซม : เดือนครึ่งครับ เพราะว่ามันจะต้องขึ้นเวทีวันเสาร์ มันจะต้องมีประกาศผลวันเสาร์อีกทีต้องรอเป็นเดือนหน้าแล้วก็อีกเดือนโน้น คือวันศุกร์ต้องตั้งเป้าถ่ายรูปวันศุกร์นี้ให้ได้ ส่วนอาทิตย์ก่อนก็ไปริมสระน้ำปิ้งบาร์บีคิวลองซ้อมก่อนว่าได้มั้ย พอได้ปุ๊ปอีก 5 วัน เข้าสตู ถ้าไม่ได้ก็เจียมตัวว่าไม่ได้ก็คือไม่ได้
เดือนครึ่งมีอุปสรรคอะไรบ้างมั้ย ?
แซม : เยอะแยะเหมือนกันครับ ลองทายดูว่าพี่ลงไปกี่กิโล คนเรามันลงได้แค่ไหน
เป็กกี้ : รู้จักกับพี่แซมมานานแล้วเกิน 10 ปีแล้ว พี่แซมจะทรงตัวสูงและตัวใหญ่กว่านี้ ตอนนี้พี่แซมตัวเล็กเลย
แซม : คือเราสูง 180 กว่า ฝรั่งผู้ชายลบ 100 แล้วหนัก 80 ได้ แต่คนไทยลบซัก 110 จะดูบางลงหน่อย พี่หนัก 70-72 มาตลอดเป็น 10 ปีเพราะพี่ชั่งน้ำหนักทุกวัน แต่ว่าถ้าอยากจะเปลี่ยนหุ่นให้คนเห็นว่ามันเปลี่ยนต้องลง 10 กิโลขึ้นไป ทั้งหมดลงไป 12 กิโล
น้ำหนักที่ถ่ายวันนั้นกี่กิโล ?
แซม : 60.5 ครับ น้ำหนักเท่ากับตอนเป็นนายแบบอายุ 18-19 วันที่ถ่ายเอว 29
เห็นว่าวันที่ถ่ายตอนแรกไม่ได้ถอดเสื้อขนาดนี้ อาจจะแค่ปลดกระดุมเสื้อ แต่สุดท้ายก็มีภาพอย่างที่เราเห็นคือถอดเสื้อหมดมันเกิดอะไรขึ้น ?
แซม : จริงๆภาพที่จะต้องถ่ายฝ่ายสไตลิสต์เขาให้เราด็ว่าจะเป็นยังไงบ้าง น้องฉัตรจะแต่งยังไงบ้าง ก็ไม่มีอะไรที่ต้องถอดเสื้อ ก็จะมีแค่ปลดเสื้อสูทออก ปลดเสื้อเชิ้ตออก ก็จะเห็นแบบเพลาๆ ถ่ายไปถ่ายมาตรงนี้หน่อย เบิร์นหน่อยมั้ยแบบฮีทสโตรก เปิดนี่หน่อย เอาน้ำมันลงตรงนี้ก็สวยดี ไปๆมาๆ คือเสื้อหายไปแล้วไม่รู้ตัว
พี่แซมรู้ตัวอีกทีคือเสื้อไม่มีแล้ว ?
แซม : อีกนิดคงจะกางเกงแล้ว แต่เขาก็ให้ดูรูปก่อน อย่างวันที่ไปถ่ายต่างจังหวัด เรารู้ไงเราลงในน้ำมันมีเหตุผล แต่อย่างอยู่สตูถอดทำไม จะอวดขนาดนั้นเราก็ไม่มีอะไรจะอวดเหมือนรุ่นหนุ่มๆ แค่พยายามที่สุดมันก็ได้แค่นี้
เดือนครึ่งที่บอกว่าตั้งใจออกำลังกายยัง กินยังไง ดูแลตัวเองยังไง ?
แซม : เป็นเรื่องของฮาวทูแล้ว จริงๆไม่อยากสอนจระเข้ว่ายน้ำ หลายๆคนก็ทำ จริงๆมันสำคัญควบคู่กันหมด ออกกำลังกายประมาณ 20-30% ที่เหลือเป็นเรื่องโภชนาการ ออกกำลังกายมีอยู่ 2 ส่วน ส่วนหนึ่งเราต้องรีดไขมันส่วนเกินออกให้หมดจากการเบิร์น วิ่งเฉยๆมันอาจจะดึงกล้ามเนื้อๆไป มันต้องเดินแบบเร็วสุดเท่าที่เราเดินได้ ต้องเบิร์นแต่ใช้เวลาเยอะ ความชันแค่ไหน มันต้องถูกวางว่ามันจะต้องไปยังไง อันนี้คือเอาไขมันออก ส่วนการเล่นกล้ามเป็นการเพิ่มกล้ามเนื้อเพื่อไม่ใช่ลีนจนแบนแต่ว่าไม่มีกล้ามเนื้อ สองส่วนนี้ทำไปด้วยกัน แต่ที่ยากที่สุดคือการเติมเข้าไปนั่นคือการกิน โภชนาการยุ่งมากจะต้องชั่งอาหารโปรตีน 200 กรัม ก่อนปรุงหรือปรุงแล้วอีก ต้องชั่งน้ำหนักแล้วก็ส่งให้เขาดูทุกวัน คาร์โบไฮเดรตเท่าไหร่ ถ้ากินข้าวแล้วข้าวซ้อมมือ ข้าวแดง ข้าวขาว ต่างกันค่าการเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาลมันต่างกัน ด้วยความที่เราเรียนทางด้านนี้จนจบปริญญาโทด้านนี้ก็จะเข้าใจในวิธีอธิบาย ภรรยากับลูกก็ต้องทำแบบนี้ทุกวัน ทำยังไงให้อร่อยที่สุดในวัตถุดิบที่มี ลูกสาวก็จะจบฝรั่งเศสก็จะประดิษฐ์ก็จะมีสารอาหารแปลก ๆส่งไปให้เทรนเนอร์เขาก็ไม่รู้จัก เออลูกแล้วเขาจะรู้ได้ไงว่าค่ามันเท่าไหร่ ส่วนคุณภรรยาก็ตรงไปตรงมา ไก่ต้ม หมูเอามันออก กุ้งลวก แต่เวลามันวางพร้อมกันนี่ซิ พี่จะกินของใครล่ะ ของลูกอันนี้ฝรั่งเศสนะ ของภรรยาอันนี้ก็บ้านๆนะ แต่บ้านๆถ้ากูไม่กินก็บ้านแตกเหมือนกันนะ ก็ต้องกิน แต่ถ้ากินทั้งหมดมันก็จะเกินไง อร่อยทั้งคู่แหละ เพราะทุกคนเขาก็หวังดีทำให้ทาน
เห็นว่าแต่ละวันเวลารับประทานอาหารต้องมีการถ่ายรูปแล้วส่งเทรนเนอร์เห็นบอกว่าเปลือยระหว่างชั่งเพื่อให้เห็นน้ำหนักจริง ?
แซม : พี่ก็ไม่คิดว่าขนาดนี้นะ แรกๆเราก็ใส่ชุดนอน พี่ครับผมขอไม่ใส่อะไรเลยดีที่สุด เพราะว่าตัวแปรก็คือเสื้อผ้ามันหนักเท่าไหร่ไม่รู้ ก็กลายเป็นว่าต้องเปลือยชั่งน้ำหนักทุกเช้า วันหนึ่งไปธุรกิจของเราที่เขาใหญ่ก็ไม่รู้หรอกที่ชั่งน้ำหนักของเราเป็นยังไงลืมตามาก็ชั่งแล้วกดถ่ายก็ส่งทุกทีจะลงสตอรี่ด้วย วันนั้นโชคดีไม่ได้ลงสตอรี่ ชั่วโมงนึงเดินผ่านจะชั่งน้ำหนักอีกที เห้ย ! มันเป็นกระจก เปิดดูเทรนเนอร์ยังไม่ได้อ่าน แล้วขยายดู อุ๊ย !
ก่อนหน้าที่จะเข้าสู่การฟิตหุ่น แล้วพี่แซมก็ไปกินอาหารยั่วคนที่กำลังฟิตหุ่นอยู่ด้วย ?
แซม : ใช่ ตอนนั้นเล่นละครกับ ฟิล์ม ธนภัทร และ มิน พีชญา ซึ่งก็อยู่ในโปรแกรมเหมือนกัน แต่ตอนนั้นเรายังไม่ได้เข้าโปรแกรมอะไร เขามองเราเป็นผู้สูงอายุคงไม่เกี่ยวไงครับ เขาก็กินกันแต่ละมื้อชั่งตวงกิน เราก็สั่งขนมปังสังขยา ไก่ทอด ขนม แล้วก็กินยั่ว อร่อยสุดเลยฟิล์ม มันอร่อยมากเลย
บาปเหมือนกันนะ พอถึงตาเราบ้างเป็นยังไง ?
แซม : กรรมมันถึงตามสนองไงครับ ฟิล์ม ฉันเข้าใจแกหมดแล้วที่แกบอกว่านั่งแล้วเจ็บก้น ตอนนี้ฉันนั่งลงไปบนโซฟาฉันเจ็บก้น ฉันไม่มีก้นแล้ว
เวลาไปปาร์ตี้ทำยังไงเทรนเนอร์ห้ามมั้ย ?
แซม : จริงๆเขาก็บอกเหมือนกันว่าไม่อยากให้มี ไม่อยากให้ไป แล้วคุณเป็นใครมาห้ามผมล่ะ เมียผมยังไม่ห้ามเลย ผมไปผมดูแลตัวเองได้แล้วผมทำได้ สุดท้ายก็ต้องไปเพราะว่าเรียนหลายหลักสูตรแล้วก็เป็นประธานหลักสูตรด้วย ก็ต้องไป จิบหน่อย ถ้าจะบอหว่าไม่ได้ดูแลหุ่น เหมือนคุณพ่อเปลี่ยนไป เราก็รู้ว่าเราจะทำอะไรแค่ไหน อะไรที่มันไปเพิ่มน้ำตาล เพิ่มยีสต์มันมีผลต่อแฟตในร่างกาย แต่แอลกอฮอลล์ก็กินได้ครับ ก็กินบ้าง
เห็นว่าตั้งแต่เข้าวงการมาไม่เคยถอดเสื้อเลยนี่เป็นครั้งแรก ?
แซม : ตั้งแต่เป็นนายแบบมาอายุ 17-18 เมื่อก่อนนายแบบไม่ค่อยเยอะไม่ใช่ว่าโด่งดังอะไร แต่ว่ามันไม่ค่อยมี ส่งกางเกงว่ายน้ำมาก็บอกว่าไม่ใช่สายนั้น ก็กลับบ้าน หนังก็เหมือนกัน เล่นแรกๆยังเรื่องมากไม่ได้ก็ยังต้องใส่ผ้าขาวม้าอาบน้ำ ไม่เคยใส่ผ้าขาวม้าอาบน้ำในป่า พอโตขึ้นมาเลือกได้ก็บอกว่าไม่ถอด
เห็นบอกว่ามีพรีเซ็นเตอร์ตัวหนึ่งเหี่ยวกับแชมพูที่ต้องอาบน้ำสระผมที่ต้องถอดเสื้อ พี่แซมบอกไม่เอาเลย ทิ้ง ?
แซม : ตอนสตอรี่บอร์ดที่เราเห็นเราไม่เห็นว่ามันมี พอถึงเวลาปั๊ปอ้าวแล้วทำไมจะต้องถอดเสื้อ ก็เป็นแชมพูต้องถอดเสื้อสระ คือผมเป็นดารามาตลอดชีวิตผมก็ไม่ถอด ไม่อย่างนั้นผมจะพูดกับเรื่องอื่นๆที่ผมปฎิเสธยังไง ผมไม่ถอด ยกเลิกสัญญาก็ไม่เป็นไร ก็หลายล้านนะ คือผมไม่โอเคเราควรจะคุยกันตั้งแต่แรกในเรื่องที่ผมไม่โอเค แต่เขาก็โอเคเขายังอยากได้เราอยู่ก็ใส่เสื้อกล้ามสระผมก็แล้วกัน
หุ่นแซ่บขนาดนี้คุณภรรยามีหึวง มีหวงบ้างมั้ย ?
แซม : คุณจุ๋ยเขาหวงคุณมั้ยล่ะ
ดีเจพุฒ : ถ้าถอดเยอะๆเขาก็ถามว่าถอดไปให้ใครดู ของพี่มุกว่ายังไงบ้าง
แซม : ก็ไม่ได้หึงหรอกอยู่ในอายุนี้แล้วมีแต่เป็นห่วงว่ามันจะผอมเกินไปแล้วนะ ไหวหรอ มันจะป่วยมั้ย เราก็บอกว่าขออีก 10 วัน ถ้าเปลี่ยนหุ่นมันต้องให้เห็นว่าเปลี่ยน ถ้าเปลี่ยนนิดๆหน่อยมันเหมือนกับไปไม่สุด แล้วจะเป็นข้ออ้างว่าเห็นมั้ยไปไม่สุด ไปตามที่เขาบอกให้หมดทุกอย่างเลย ถ้าไม่ได้คนที่จะเปลี่ยนเราเขาก็หมาเหมือนกัน เขาทำเราไม่ได้ เพราะฉะนั้นขอไปให้สุดก่อนหลังจากนั้นจะกลับมาฟื้นฟู ไม่ได้หวงแค่ห่วง
สาวเข้ามากรี๊ดเยอะมั้ย ภรรยาหวั่นไหวมั้ยเวลามีสาวๆมากรี๊ดสามี ?
แซม : นั่นซิ เราก็อย่าให้เขาเห็นซิ(หัวเราะ) พูดเล่น บางทีพี่ว่าผู้ชายมันก็ต้องมีบ้างที่ไปไหนมันต้องมีบริหารเสน่ห์นิดนึง ใครยิ้มด้วยก็ยิ้มกลับนิดหน่อย ไม่ใช่หน้าบึ้งใส่เขาหมด มิตรภาพที่ดี ถ้าเราเลือกชีวิตที่ดีแล้วมีความสุขแล้ว เราจะเอาชีวิตดีๆของเราไปทิ้งกับเรื่องชุ่ยๆทำไม
ถ้าโดนรุกล้ำมากๆจัดการยังไงกับแฟนคลับ ?
แซม : ตอนโตไม่ค่อยมี แต่สมัยวัยรุ่นก็จะมี ไปคอนเสิร์ตมือไม่ว่างเราไม่รู้จะป้องกันตัวยังไง ข้างบนเวทีไม่เท่าไหร่ ลงข้างล่างต่อให้มีการ์ด 4 คน ไม่รู้มายังไง มันก็จะมีมือที่สามที่สี่แล้วแม่นมาก แรกๆก็อายไม่กล้าบอก หลังๆก็แหกปากแล้วครับคือเจ็บ
มีคนส่งขนลับมาให้ ?
แซม : ก็พูดไปเรื่อย แต่ก็จริง ไอ้ที่ดีๆก็เยอะ แต่ก่อนมันเป็นจดหมายขอรูปก็จะมีข้อความแปลกๆขอโน่นขอนี่ บางคนก็ส่งรูปโป๊ตัวเองมาให้ ส่งกางเกงในใช้แล้วบ้าง อะไรบ้าง ก็ขำๆนะ เดี๋ยวนี้มันไม่มีจดหมายแล้ว
เห็นว่าเป็นนใส่ซองมา ?
แซม : ที่แรงกว่าไม่ใช่ฝ่ายหญิง ฝ่ายชายก็มี เขาส่งผลแห่งการสำเร็จอะไรซักอย่าง พับใส่จดหมายมา บอกว่าได้ดูหนังแล้วมันอดใจไม่ไหว
พี่แซมจัดการกับสิ่งเหล่านั้นที่เขาส่งมายังไง ?
แซม : มีลูกน้องเป็นคนเปิดจดหมายให้ เรื่องดีๆเข้าก็จะส่งรูปกลับไปให้ปกติ สุดท้ายเขาก็เอามาเล่าขำๆก็ว่าแบบนี้ๆ เขาก็สกรีนมาแล้ว เราก็มองเป็นเรื่องขำๆ ไม่ได้อะไร
Advertisement