“หญิง รฐา” ยังไม่คิดมีทายาท เครียดหนัก รูปร่างเปลี่ยน ถูกทักว่าท้อง
การรักษาหุ่นให้สวยเฟิร์มเป๊ะอยู่ตลอดนั้นเป็นเรื่องที่ยากสำหรับใครหลายคน “หญิง รฐา” ศิลปินนักแสดงตัวแม่ ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยหลังจากที่แต่งงานออกเรือน เจ้าตัวก็เผลอปล่อยตัว จนรูปร่างไม่เป๊ะเหมือนเดิม จนคนทักแรง “ท้อง” ทำให้สูญเสียความมั่นใจ ซึ่ง “หญิง รฐา” ก็ได้เปิดใจถึงเรื่องนี้ว่า ยังไม่ได้ตั้งครรภ์อย่างที่ข่าวลือว่าเอาไว้ แต่เพราะเป็นคนเอวใหญ่ ทำให้มีพุง จนทำให้หลายคนเข้าใจผิด
“ตอนนี้ไม่ได้ท้อง เรื่องนี้คนทักเยอะมาก แต่ละคนก็รูปร่างไม่เหมือนกัน หุ่นเราจะเป็นแบบตรง ๆ ไม่ได้มีเอว ไม่มีสะโพกแบบผู้หญิง แต่หญิงเป็นคนแขนเล็ก ขาเล็ก แต่พุงป่อง เป็นคนตัวกลม เอวใหญ่ ต่อให้เรามีพุงนิดนึงเราก็ดูพอง สะโพกเราก็ไม่ได้เยอะ เวลาน้ำหนักขึ้นคือดูอ้วนง่ายมาก”
“ยิ่งพอเข้าเลข 4 แม้เราจะพยายามรักษารูปร่างตัวเองอย่างดีแค่ไหน แต่มันก็ไม่ใช่ว่าเราจะทำได้เหมือนแต่ก่อน มันก็มีความเครียด จนรู้สึกไม่มั่นใจที่จะรับงาน แล้วหุ่นเราต้องเป๊ะตลอด แต่เวลาไม่เอื้ออำนวย ทำให้ต้องหาตัวช่วยเสริม KUT-L (คัทแอล) ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารควบคุมน้ำหนัก ในเครือ Shining ที่มีสารสกัดจากธรรมชาติ ทั้งปลอดภัย ไม่มีผสมสารกดประสาท และไม่มีผลที่ไม่ดีต่อร่างกายตามมาภายหลัง ซึ่งตอนนี้ KUT-L เป็นเคล็ด(ไม่)ลับ ของหญิงไปแล้ว เพราะถ้าช่วงไหนไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย ก็กินเสริมแทนได้เลย”
“สำหรับเรื่องลูก หลายคนก็ถามกันเยอะ แต่ในความเป็นจริงการแต่งงานมีลูกก็คงเป็นเรื่องที่คนสองคนต้องตัดสินใจเป็นหลัก แต่เราปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในตัวแปรสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจในเรื่องนี้ คือ เรื่องเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อม สภาพสังคม และอีกหลากหลายปัจจัย ที่มันส่งผลกระทบให้เรารู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยหรือไม่มั่นคงในการดำเนินชีวิต จนแนวโน้มที่คนยุคใหม่เริ่มมีความต้องการมีลูกลดลงเรื่อย ๆ เพราะถ้าเราลองคิดดูว่าการที่เราต้องพยายามหารายได้เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ในขณะที่ค่าครองชีพในตอนนี้ก็สูงเสียเหลือเกิน จนทำให้ต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการทำงาน มันแทบจะจินตนาการถึงชีวิตที่ต้องดูแลรับผิดชอบเด็กอีกคนหนึ่งไม่ออกเลย”
“เพราะจากเดิมที่การทำงานก็กินเวลาส่วนตัวในการทำกิจกรรมอื่น ๆ ไปมากแล้ว อย่างการใช้เวลากับตัวเอง และครอบครัว แล้วถ้าแต่งงานมีลูกก็เท่ากับว่าอิสระในการใช้ชีวิตก็จะหายไป เห็นเพื่อนมีแล้วชีวิตเพื่อนเปลี่ยน อิสระหลายอย่างหายไปด้วย หลายครั้งเราเจอเพื่อน ๆ เขาจะบอกไม่มีลูกน่ะดีแล้ว เราก็เลยโอเค ตามนั้นเนอะ อยู่เลี้ยงลูกเพื่อนดีกว่า เราไม่อยากมีความรู้สึกว่าการมีลูกมันอาจจะเป็นภาระ เราได้เห็นชีวิตของเพื่อนที่เขามีลูก เขาก็เปลี่ยนกันไปจริง ๆ อิสระหลายอย่างหายไป การที่เราจะดูแลคน ๆ หนึ่งในยุคปัจจุบันนี้มันเป็นเรื่องที่ใหญ่มาก มีเรื่องให้คนเป็นพ่อแม่ต้องคิดกังวลมากมาย รวมถึงเราเองก็ไม่อยากจะเป็นภาระของเขาในอนาคตด้วยไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตาม ทั้งทางความรู้สึกและชีวิตความเป็นอยู่”
Advertisement