ยิ่งโตยิ่งน่ารักทำเอาทุกคนหลงใหลในตัวของ เบบี้ พอล ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของคู่รักพันล้าน อั๋น ภูวนาท และ จ๋า อลิสา เป็นที่สุด งานนี้ แดดดี้อั๋น เลยถือโอกาสจูงมือภรรยาม๊ามี๊จ๋า มานั่งเล่าโมเมนต์ความน่ารักของลูกชายที่อันเป็นที่รัก ในรายการ ต้มยำอมรินทร์ แบบหมดเปลือกว่าตั้งแต่ที่ น้องพอล เกิดมาจนตอนนี้ 2 ขวบแล้ว ในทุกวันจะลูกชายคนนี้ต้องมีเรื่องทำให้เซอร์ไพร์สตลอด ทั้งการเรียนรู้ที่เร็วมาก แถมการเลียนแบบคุณพ่อที่เหมือนมาก และที่สำคัญได้เข้ามาชุบชีวิตคนในครอบครัว พร้อมทั้งทุกคนที่อยู่รอบตัว หรือได้ใครที่ติดตามได้ดู ก็จะมีรอยยิ้ม เสียงหัวเราะเสมอเมื่อได้เห็น
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
“อั๋น ภูวนาท” ถามรัฐบาลจะรำวงกันอีกนานไหม! 5,000บาทควรแจกทุกคน!!
จ๋า : พูดเก่งเหมือนแดดดี้เลย มาทางแดดดี้เลย
อั๋น : อั๋นเป็นคนที่ปกติแล้วไม่อินกับเด็กเท่าไหร่ ไม่ได้เกลียดเด็ก แต่ว่าเราไม่ค่อยได้คลุกคลีกับเด็ก อั๋นก็เลยไม่รู้ว่าเด็ก 2 ขวบปกติคนอื่นเป็นยังไง แต่ ณ วันนี้เราก็จะทึ่งกับเขาทุกๆวัน เหมือนเขามีของใหม่มาอวดเราทุกวัน พอเขาเข้านอนไปเขาตื่นขึ้นมา เขาจะโตขึ้นไปอีกสเต็ปอย่างที่เรารู้สึกได้
จ๋า : ทุกวันจะมีความเปลี่ยนหมดเลย
อั๋น : อย่างเช่นก่อนหน้านี้พูดคำนึง มีวันนึงก็มาเป็น 2 พยางค์ 3 พยางค์ แล้วอยู่ดีๆวันนึง หนึ่ง สอง สาม ปึ้งมาเป็นประโยคเลย แล้วเราก็จะหันมองหน้ากันแบบนี้ เป็นประโยคยาวแบบนี้เลยเหรอ? ใน 2 ขวบนะ
ถาม ยิ่งโตดูจะเหมือนคุณพ่อหรือว่าคุณแม่มากกว่ากัน
จ๋า : จ๋าว่านิสัยเหมือนอั๋นเลย เขาก็ช่างพูด ทำทุกอย่างที่พ่อทำ พ่อทำอะไรเขาทำตามหมด อั๋นชอบทาลิปมันเขาก็ทาลิปมัน อั๋นชอบเก็บขยะเขาก็เก็บขยะ เขาทานอะไรเหมือนกัน
จ๋า : ภูวนาถเนี่ยนอนไขว่ห้างอย่างงั้นหลับ จ๋าเคยถ่ายให้เขาดูบอกว่า เธอหลับเธอนอนไขว่ห้างได้ยังไง เขาก็นอนแบบนั้น น้องพอลก็นอนแบบนั้น จ๋าก็ห๊า มันมาทางกรรมพันธุ์เลยเหรอ
อั๋น : อยู่ดีๆวันนึงเขาก็ปีนขึ้นมาบนเตียงเขาก็มานั่งดูทีวี “เปิดวีครับ” แล้วเขาก็ยกขาขึ้นมาแล้วเขาก็นอน แล้วจ๋าก็(สะกดิอั๋น)หันไป เฮ้ย..มานอนท่านี้ได้ไงวะ
ถาม ทั้งคู่บอกว่าลูกเปรียบเสมือนของขวัญจากพระเจ้าเลย
จ๋า : จ๋าว่ามันก็เกินความคาดหมาย คือพ่อแม่ช่วงใหญ่ตอนแรกก็จะห่วงว่าคลอดมาครบไหม? อะไรอย่างนี้ อันนี้เขามีเซอร์ไพร์สให้เราตลอดเวลา จ๋ายังถามคุณยายคุณย่าเลยว่า เด็กเขาทำได้กันขนาดนี้เลยเหรอ เอ๊ะ..หรือว่าจ๋าก็เก่งแบบนี้ตั้งแต่เด็ก คือเราก็มีความรู้สึกว่าเซอร์ไพร์ส รู้สึกว่าแฮปปี้กับเขา เขาพูดรู้เรื่องตั้งแต่เล็กๆ
อั๋น : เหมือนเขาเป็นเด็กที่รู้เรื่องตั้งแต่คลอด เอาขึ้นมาในห้องโรงพยาบาลวันแรกเลยนะ แล้วคนมาเยี่ยม เขามองหน้าทุกคน ตั้งแต่อายุ1วัน2วันซึ่งเด็กบางคนยังไม่ลืมตาเลย แล้วมองทีละคน
อั๋น : แต่จริงๆชัดเจนเลย เขาชอบผู้หญิงแต่งหน้า
ถาม พอมีน้องพอลขึ้นมา พี่อั๋นตกกระป๋องจากคุณหญิงย่าเลยนะ
อั๋น : จริง ทุกคนรู้สึก
จ๋า : แล้วคุณหญิงย่านะวันเกิดน้องพอล ลุกขึ้นมาแต่งหน้าเลย บอกว่าทำไมวันนี้คุณย่าสวยจังเลยคะ? ไม่ได้ซิ วันนี้วันเกิดพอล เนี่ยย่าจะต้องสวยให้เขาเห็นว่าย่าสวย
อั๋น : เชื่อไหมแค่แต่งหน้าอยู่บ้าน น้องพอลเจอหน้าปุ๊บวิ่งเข้าไปสวัสดีจูงมือเลย เหมือนเป็นสัญชาตญาณอะเขาชอบคนสวย แต่ว่าคุณย่าเนี่ย มันเป็นเรื่องแปลกเนอะ เขาบอกเขาไม่ได้คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้ แต่เขาก็รู้ตัวว่าเขาลืมลูกไปเลยอะ เขาข้ามไปรักหลานแล้วแบบลืมลูกไปเลย แต่ไม่ได้แปลว่าเขาไม่รักเราหรอก เหมือนหมดห่วงเราแล้วเขาเอาความห่วงทั้งหมดไปอยู่กับตรงนั้น
ถาม คุณยายล่ะเป็นยังไงบ้าง?
จ๋า : หูย คุณยายเมื่อก่อนคือวันๆคือนั่งดูทีวีไม่ทำอะไรเลย เพราะไม่มีอะไรจะทำ คุณยายก็จะบอกว่าก็แม่ไม่มีอะไรจะทำอะลูก พอมีหลานนะ บ่ายจ๋าประชุมใช่ไหมคะ เมื่อไหร่นอนพอลตื่นขับรถออกกันไปเลย ไปทะเล ไปวิ่ง ไปหาสนามหญ้าใหญ่ๆ ตั้งแต่เขาเริ่มเดินได้อะ แม่หาสนามหญ้าใหญ่ทุกที่เลย เขารู้จักทั้งพัทยาเพื่อหาที่ให้หลานเดิน
ถาม ทั้ง 2 คนพูดเสมอเลยว่าน้องพอลเกิดมาในช่วงเวลาที่เหมาะสมมาก
จ๋า : จ๋าก็มองว่าตอนนี้เรามีโควิดใช่ไหมคะ? ธุรกิจเปิดไม่ได้เนี่ย วันๆก็คงนั่ง สติเราจะไปจดจ่ออยู่กับธุรกิจ พอตอนนี้คือมันไม่จดจ่อเลยอะ มันเหมือนกับเวลาทำงานก็แบ่งแยกได้ เวลาอยู่กับลูกก็แบบมีความสุขมาก หัวเราะทั้งวัน หัวเราะได้ทั้งวัน ถ้าเราทำแต่ธุรกิจ คิดสภาพเราไม่มีเขา เราจะต้องแบบ ทำยังไงอะ? เพราะจริงๆธุรกิจก็ลูกน้องก็เหมือนลูก น้องพอลก็ลูก มันก็จะต้องหวงกันไปหมดเลยค่ะ เพราะฉะนั้นทุกวันนี้มันก็เลยรู้สึกสบายมันชิลล์
อั๋น : อย่างที่อั๋นรู้สึกว่าเขามาถูกเวลาก็คือ ในช่วงนี้เขาเพิ่งคบ 2 ขวบพอดีในช่วงที่โควิดพีคสุด มันเป็นช่วงที่หลายคนบอกว่าเด็กวัยนี้เริ่มเข้าโรงเรียนแล้วด้วยซ้ำ แต่เรารู้สึกว่าเขาถึงอายุนี้แล้วเขามาพร้อมกับสถานการณ์การตึงเครียดนี้ แล้วเราก็ได้อยู่บ้าน เราได้ work from home ได้ stay home เพื่อช่วยชาติ แล้วเราอยู่บ้านเยอะมากอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน อยู่บ้านได้ต่อเนื่องกัน 7 วัน เห็นหน้าเขาหลับ พอเขาตื่นแอ๊ะแรกเปิดประตูปุ๊บคือ น้องพอลตื่นแล้วเหรอครับเป็นยังงี้ทุกวัน ซึ่งผมรู้สึกว่า มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์เนอะที่เวลามันลงตัวในช่วงเวลาที่เขาต้องการเราที่สุดและเขารู้เรื่องเราแล้วด้วยนะ ถ้าเด็กกว่านี้เขาก็อาจจะพี่เลี้ยงก็ได้ คุณย่าคุณยายคุณอาคุณป้าดูแลแทนก็ได้ แต่มันเป็นช่วงเวลาที่เขาต้องการพ่อแม่ที่สุดแล้วเราได้ตรงนี้พอดี
อั๋น : จ๋าบอกอั๋นตลอดเลยว่า ภูวนาถลองคิดดูนะถ้าช่วงนี้เราไม่ลูกอะ นั่งมองหน้ากัน ไม่รู้จะทำอะไร
อั๋น : เราจะต้องเครียดมาก เพราะว่าไปไหนไม่ได้ เจอเพื่อนไม่ได้ คนทำงานหนักๆอย่างเราก็ทำอะไรไม่ได้ แล้วยังต้องแก้ปัญหาธุรกิจ ไม่มีอะไรเลย แต่ทุกครั้งที่เราเครียดๆๆๆ เห็นหน้าลูก แม่ครับ มันศูนย์เลยคือมันหัวเราะ มันดีเลย
ส่วนที่ใครหลายคนลุ้นว่าเมื่อไหร่ที่ แดดดี้อั๋น กับ ม๊ามี๊จ๋า จะมีน้องให้ เบบี้พอล สักที งานนี้ทั้งคู่ก็เผยให้ทราบในรายการเลยว่า
อั๋น : รออยู่นะครับ
จ๋า : รอความพร้อมมากกว่าค่ะ เพราะช่วงปีที่แล้ว เราก็พยายามแล้ว แต่เป็นเพราะเราเกิดความกังวลเค้าเลยไม่มา เราเลยคิดว่ารอให้ทุกอย่างพร้อมดีกว่าค่ะ
ถึงการเป็นพ่อแม่จะไม่ง่าย แต่บอกเลยว่ามีความสุขมากจนลืมเหนื่อย แต่ถ้าอยากรู้ว่าแดดี้อั๋นและมามี้จ๋าจะมีน้องให้กับ น้องพอลไหมต้องตามดูในรายการ ต้มยำอมรินทร์ แบบย้อนหลังได้ที่ ยูทูป AMARIN TVHD
Advertisement