พระเอกมาดเข้ม "นิว ชัยพล" ชายหนุ่มผู้รักการเดินทาง ได้มาเยือนรายการ ต้มยำอมรินทร์ เล่าประสบการณ์เที่ยวต่างแดนแบบไม่มีวันลืม ไปทุกที่ กินทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่ อัณฑะแกะ รวมถึงย้อนอดีตถึงเส้นทางการก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงที่ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เคยแคสงานทั้งปี แต่ไม่ได้สักงาน เพราะพระเอกหนุ่ม "มาริโอ้ เมาเร่อ"
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "Miss Grand Thailand 2020" สาวงามที่ไม่ใช่แค่สวย แต่รวยความฮา!
- "ธัญญ่า อาร์สยาม" เผยเคยตกต่ำจนแทบไม่มีเงินติดกระเป๋า เชื่อชีวิตดีขึ้นได้เพราะ "นั่งกรรมฐาน"
- "นก ชลิดา" อดีตนางสาวไทย พ่วงดีกรีดอกเตอร์ป้ายแดง เผยเบื้องลึกเวทีประกวดนางงาม
- "ศิรินทรา นิยากร" หมดศรัทธาในความรัก ประกาศปิดประตูหัวใจ!
- "ซินดี้ สิรินยา" เคยเกือบทำเครื่องเพชรร้อยล้านหายก่อนขึ้นโชว์!!
- "สิงห์ วรรณสิงห์" เปิดความสัมพันธ์หวาน "มารีญา"
- ดูเพลิงนางย้อนหลัง ละครแซบอมรินทร์ทีวี ที่นี่
ถาม ซิกแพคแน่นเพราะมาจากการบน
นิว ชัยพล : เราเรียนวิทยาศาสตร์การกีฬามา จะรู้อยู่แล้วว่าออกกำลังกายยังไง กินข้าวยังไง แต่เรื่องบนบานศาลกล่าวเพราะเรากำลังจะไปแคมป์ที่ประเทศเนปาล ซึ่งระยะทางค่อนข้างจะไกลมาก ใช้เวลาเดินขึ้นไปประมาณ 16 วัน นอนตามหมู่บ้านในหุบเขา เราต้องแบกของขึ้นไปด้วย เราพูดกับธรรมชาติมากกว่าครับ ก่อนที่เราจะไปที่นี่ ว่าขอให้เราไปแล้วทุกอย่างปลอดภัย ทุกอย่างราบรื่นเป็นไปได้ด้วยดี กลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิมทุกอย่าง ถ้าเป็นแบบนั้นจริง เราจะไม่กินเนื้อสัตว์ทุกวันอังคาร 1 ปี ซึ่งทุกทริปที่เราไปมันมีความอันตรายหมด แต่เราก็จะศึกษาไว้ล่วงหน้าอยู่แล้วว่าเป็นยังไง เพื่อความปลอดภัยและป้องกันไว้ก่อน แต่ความที่เราอยากจะไปเราเลยไป ถามว่าไปแล้วรู้สึกเข็ดไหม ไม่เข็ดครับ แต่คงไม่ไปอีกแล้วเนปาล
ถาม แต่ทริปนี้เป็นบ่อเกิดของการทานมังสวิรัติ
นิว ชัยพล : ใช่ครับ ไม่ได้ตลอดทุกวัน ทานทั้งปีแต่ไม่หลุด ผมจะทานทุกวันอังคาร ไม่กินอะไรที่มีส่วนผสมของเนื้อสัตว์เลย ส่วนวันพฤหัสบดี เราจะไม่กินสัตว์ใหญ่ เราก็ทำแบบนั้นมาตลอด ตอนนี้ก็ 5 ปีแล้วครับ
ถาม พอกินมังสวิรัติ ทำให้เรามีซิกแพคเลยเหรอ
นิว ชัยพล : ไม่ครับ ช่วยให้เราควบคุมอาหารได้ดีขึ้น ทำให้เราย่อยได้ดีขึ้น เหมือนร่างกายได้พักจากการย่อยเนื้อสัตว์มากกว่า
ถาม ทำไมถึงมาเป็นนักเดินทางได้
นิว ชัยพล : ชอบเดินทางอยู่แล้วครับ รู้สึกว่าโลกใบนี้มันกว้างใหญ่ มีหลายๆ สิ่งหลายๆ อย่างที่น่าสนใจ เลยอยากไปสัมผัสมันด้วยตัวเราเอง เริ่มต้นจากการเห็นรูปจากในอินเตอร์เน็ต รู้สึกว่าเราอยากไปเห็นด้วยตาของตัวเอง เชื่อว่ามันต้องสวยกว่าในรูป นั่นคือจุดเริ่มต้นการเดินทางของผมเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ตอนเด็กๆ นิวมีความฝันอยู่ 3 อย่าง คือ นักกีฬา นักแสดง และนักบิน อยากเป็นเพราะอยากเดินทางฟรีไปทั่วโลก จริงๆ แล้วเราอยากเที่ยว
ถาม แล้วนิวเป็นถึงนักกีฬาอาชีพเลยไหม
นิว ชัยพล : เป็นนักกีฬาเยาวชนครับ มีว่ายน้ำ แข่งระดับประเทศ แล้วก็ไปแข่งที่ฮ่องกง สิงค์โปร์ แต่ก็ต้องเลิกว่ายน้ำเพราะหูอักเสบ เพราะเราฝึกว่ายน้ำมากไป ทำให้น้ำขังอยู่ในหู ทำให้อักเสบ หมอเลยสั่งห้ามเรา แล้วก็ไปตีเทนนิสแทน ซ้อมหนักเหมือนเดิมเช้าเย็นเหมือนกัน เป็นคนที่ทำอะไรจริงจังตลอด จนข้อมือหัก (เพราะฟุตบอลครับ) เล่นบอลจนข้อมือหัก แล้วโดนเสียบแล้วเราล้มเอาข้อมือลง แต่เราตีแบล็กแฮนด์สองมือพอข้อมือเราหักแล้วเราต้องหยุดไป 2-3 เดือน แล้วเรารู้สึกว่าเรากลับไปตีไม่เหมือนเดิม ก็เลยไปเตะบอล เอ็นขาดอีก
นิว ชัยพล : แต่ก็เกิดจุดเปลี่ยน พอเรา 18 จะได้เล่นละครเรื่องแรก เขาชวนไปเล่นละคร แล้วเราเตะบอลอยู่กับจุฬาฯ เมื่อมาถึงตรงนี้ มันทำสองอย่างพร้อมกันไม่ได้ เพราะเวลาของเราคือ เรียน ถ่ายละคร ซ้อมบอล เลยต้องเลือกอย่างหนึ่งจะทำอะไร แล้วตอนนั้นฟุตบอลไม่ได้บูมเท่ากับตอนนี้ แต่การแสดง เรารู้สึกว่าน่าจะมั่นคงมากกว่า ฟุตบอลเราก็ยังสามารถเตะเล่นได้ เราเลยตัดสินใจไปเล่นละคร
ถาม แต่เชื่อไหมก่อนที่จะมาเป็น นิว ชัยพล ที่มานั่งอยู่ตอนนี้ เขาเคยแคสงานมาแล้วทั้งปี ไม่ได้เลยสักงาน
นิว ชัยพล : ปีนั้นน่าจะไปทุกอาทิตย์เลยครับ เพราะผมแบ่งเวลาเรียนจันทร์ถึงศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ แคสงาน มีคนบอกว่าถ้าได้ 1 งานคือได้หลักหมื่น เราอยากได้ เราเลยไปแคสทุกอาทิตย์ แต่ที่ไม่ได้งานเพราะ มาริโอ้ เมาเร่อ ครับ ผมเป็นรุ่นเดียวกับเขา หนุ่มครึ่งเหมือนกัน ตัดผมเหมือนกัน เราไปแคสโฆษณา เจอกันทุกอาทิตย์ เจอกันจนสนิทกัน เขาได้งานไป แต่ผมก็ไม่เคยท้อนะครับ เพราะหลังจากที่เขาได้ไปเล่นหนังแล้ว เราก็ได้ครองบัลลังก์ของโฆษณาครับ (หัวเราะ) ในปีนั้นกวาดประมาณ 50 งาน แต่เรื่องตอนนั้นตอนนี้กลับมาเป็นเรื่องเม้าท์ คุยกันสนุกเลย พอเราเจอเขา เราก็จะแซวว่าเราไม่ได้งาน ก็เพราะเขาคนเดียวเลย
ถาม ค่าตัวจากงานแรกเท่าไหร่
นิว ชัยพล : 15,000 บาทครับ ดีใจมาก ในปีแรกที่เราทำงาน เรารู้สึกว่าพอเราได้เงินมาเราจะเอาไปซื้อของเล่น แต่พอได้เงินมาแล้วเรารู้สึกเสียดาย เพราะเป็นเงินก้อนแรก เราทำงานมาทั้งปี เราเลยรู้สึกว่าเราเก็บก่อนดีกว่า พอเราได้ตัวแรก เรามีความหวัง มีเป้าหมายว่าอยากจะคว้าเงินล้านก่อน 18 ซึ่งเราก็ทำสำเร็จ คว้าเงินล้านมาได้อย่างที่ตั้งใจ และพอได้เงินล้านก็เป็นจังหวะที่เราได้ไปแคสละครเรื่องแรก ก็ได้ละครเรื่องแรก เข้าวงการเต็มตัวตอนอายุ 18 ครับ
ถาม ตอนนี้ถ่ายละคร 7 วัน และมีรายการในยูทูบด้วย
นิว ชัยพล : รายการในยูทูบจริงๆ เราไม่อยากทำ เพราะว่ามันเสียเวลาเที่ยวของเรา เราต้องมาถ่ายรูป ถ่าย VDO เพราะเวลาทำงานก็ทำงาน เวลาเที่ยวเราก็อยากพักผ่อนจริงๆ แล้วผมก็อายที่จะต้องมาถือกล้องแล้วพูดเอง เรารู้สึกว่ามันตลก มันพูดไม่ได้ เราไม่ใช่ทางนี้ เราเลยปฏิเสธมาตลอดเวลา แต่มาถึงวันหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว ได้มาสนิทกับ พี่วิลลี่ แมคอินทอช เขาพูดคำหนึ่งว่า นิว เที่ยวขนาดนี้ถ่ายไว้หน่อยเถอะ เพราะเรามียูทูบ เราโชคดีมากนะ เพราะรุ่นพี่เป็นเบต้า ตอนนี้มันก็พังแล้ว จะให้ลูกดูก็คือไม่ได้แล้ว พี่วิลลี่ เขาบอกเราว่า ถ่ายเสร็จ เราก็อัดแล้วก็ลงยูทูบแค่นั้น ก็เก็บไว้ได้แล้ว เราเลยเก็บมาตั้งแต่นั้น ช่วงโควิดที่เราหยุดอยู่บ้านสามเดือน เราเลยเอาฟุตที่เราไปเที่ยวแล้วเก็บภาพ มาตัดกับน้อง เพื่อนๆ แล้วก็สร้างช่องยูทูปขึ้นมาชื่อว่า New Chaiyapol จะแบ่งการเดินทางเป็นหลายๆ แบบนะครับ แต่ถ้าไปกับเพื่อนๆ เราก็จะลุยแหลกหน่อย แต่ถ้าไปเองเราก็จะง่ายๆ ชิลๆ นิวเจอโน้น เจอนี่ เจอนั่น ทั้งหมดก็จะอยู่ในช่องยูทูบนี่เลยครับ
ถาม แต่ไปเที่ยวก็เกือบเจ็บตัวเพราะเกือบโดนรุมกระทืบ
นิว ชัยพล : เกือบๆ ครับ ที่อิตาลี ในอิตาลีเหนือกับใต้ คนของประเทศเขาค่อนข้างต่างกันชัดเจน ทางใต้ของเขามีเสน่ห์มากกว่า คนไม่ค่อยไปมากนัก เมืองจะเถื่อนๆ หน่อย ตอนที่เราไป เพื่อนตกใจเลยว่าทำไมเราถึงไปอยู่ที่ถนนนั้น เพราะถนนเส้นนี้มันอันตรายที่สุดในเมืองเลยนะ ตอนนั้นเราขับรถเพื่อที่จะหาที่พัก จำได้เลยว่าขับไปตรงวงเวียน มีพระเยซูอยู่ตรงหน้าเรา แล้วมีมอเตอร์ไซค์ ขับมาอยู่ 4-5 คัน เราก็รู้สึกว่าไม่ได้แล้ว เลยขับรถหนีแบบเร็วที่สุด แล้วสุดท้ายไปเจอที่พักอยู่บนเขา ซึ่งพอเราได้มาคุยกับเพื่อนในตอนเช้าว่าที่เราพักคืออันตรายที่สุดในโลก แต่ไม่ทันแล้ว จองไปแล้ว 4 คืน เลยต้องอยู่ เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้เรารู้เลยว่าอย่าเห็นแก่ของถูก และก็เป็นประสบการณ์ของเราด้วย ไปที่ไหนเราต้องศึกษาก่อน แต่ในทริปนั้นผมชอบนาโปลีที่สุด ประเทศที่ไปแล้วผมชอบมากคือ อิตาลี ญี่ปุ่น ครับ
Advertisement