ฝันที่เกือบจะไปถึง "โอปอล สุชาตา" คว้ารองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024

ฝันที่เกือบจะไปถึง "โอปอล สุชาตา ช่วงศรี " คว้ารองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 พาสายสะพายไทยแลนด์เข้าไปลึกถึง TOP5 ได้สำเร็จเป็นปีที่สองติดต่อกัน

ทำดีที่สุดเพื่อคนไทยและแฟนนางงามทั้งประเทศ แม้ว่าจะไปไม่ถึงฝั่งฝันมงสามที่ตามหา สำหรับ โอปอล สุชาตา ช่วงศรี ที่ล่าสุดคว้ารองอันดับ 3 Miss Universe 2024 มาได้ เป็นเอเชียหนึ่งเดียวใน TOP 5 ของการประกวดปีนี้

ในระหว่างการเข้าร่วมการประกวด Miss Universe 2024 ช่วงเก็บตัว โอปอล สุชาตา ไม่เคยทำให้แฟนๆ นางงามผิดหวังแม้แต่วันเดียว ทั้งความมุ่งมั่นและความตั้งใจ เสื้อผ้าหน้าผมที่จัดเต็มทุกวัน ทำให้ได้ใจแฟนนางงามไทยและแฟนนางงามทั่วโลก แม้จะเกิดความผิดพลาดเล็กน้อยขึ้นในรอบชุดประจำชาติ แต่เธอก็ไม่แสดงอาการตระหนก ก่อนจะออกมาโพสต์ข้อความขอโทษแฟนๆ นางงาม ที่ทำผลงานออกมาได้ไม่สมบูรณ์อย่างที่หลายคนหวัง

"ชุดประจำชาติเป็นอุบัติเหตุที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นค่ะ ก่อนออกจากหลังเวทีโอปอล ให้ช่างผมมัดชฎาให้ใหม่ 3-4 รอบ จนรู้สึกว่ามันแน่น และเช็ก ง้าว 3 รอบรวมถึงซ้อมท่าหลายครั้งก่อนจะเดินออกมา เราคนเดียว โอปอลเองทำเต็มที่อยากพรีเซนต์ออกมาให้ดีที่สุด ขออภัยที่โชว์อาจจะออกมาไม่สมบูรณ์แต่ในเมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นแล้วเราต้องไปต่อ ขอให้ทุกคนเคารพการชี้แจงครั้งนี้ด้วยค่ะ ขอบคุณค่ะ"

จนมาถึง Miss Universe 2024 รอบตัดสิน โอปอล สุชาตา ฟื้นคืนชีพด้วยพลังจากแฟนๆ ชาวไทยที่ส่งมาให้ ประกาศชื่อไทยแลนด์ตอนแนะนำตัวด้วยพลังที่ยิ่งใหญ่ ก่อนจะทะลุเข้าสู่รอบลึกรอบ 30 คนสุดท้าย ไปต่อกับรอบชุดว่ายน้ำ โดยโอปอลเลือกชุดว่ายน้ำแบบวันพีช สีน้ำเงิน

ก่อนที่ไทยแลนด์จะถูกเรียกชื่อเป็นประเทศที่ 8 ให้ผ่านเข้าไปในรอบ 12 คนสุดท้าย เป็นเอเชียหนึ่งเดียวในดงละติน เพื่อไปต่อในรอบชุดราตรี ซึ่งรอบนี้โอปอลเลือกชุด "QUEEN’S WINGS OF TRIUMPH" ปีกแห่งชัยชนะของราชินี ที่แสดงถึงความงดงามและทรงพลัง ออกแบบโดย Rian Fernandez ดีไซน์เนอร์ชื่อดังชาวฟิลิปปินส์ ที่ต้องการยกย่อง เทพกินรี ชุดนี้ถูกสร้างสรรค์ขึ้นด้วยการปักเลื่อมขนาดเล็กในโทนสีทองและสีขาว สะท้อนความหรูหราและความบริสุทธิ์ ส่องประกายระยิบระยับดุจแสงดาวบนผิวน้ำ

ดีไซน์ช่วงไหล่เน้นเผยความงามของใบหน้าและคอให้ดูระหงส์ ตอกย้ำถึงความสวยงามของใบหน้าแบบสาวชาวไทยแท้ ในส่วนของกระโปรงดีไซน์ให้ออกมาอ่อนหวานด้วยการใช้สีครีมอ่อนผสมสีทองระยิบระยับ และจะพริ้วไหวไปตามจังหวะการก้าวเดินอย่างงดงาม ราวกับความสง่างามของหงส์

เมื่อก้าวเดินบนเวที ชุดจะสะท้อนถึงความสง่าอันเปี่ยมล้น ซึ่งแฝงไว้ด้วยจิตวิญญาณแห่งความอ่อนช้อยของ กินรี พร้อมสร้างความประทับใจที่ไม่มีวันลืมให้กับทุกสายตาที่กำลังจับจ้อง

วินาทีบีบคั้นหัวใจมาถึง เมื่อชื่อไทยแลนด์ถูกเรียกเข้าไปต่อในรอบ TOP5 เข้าสู่รอบตอบคำถามจากคณะกรรมการ โดยโอปอล ได้รับคำถามจาก Gary Nader ที่ถามว่า คุณสมบัติอะไรที่จะทำให้คุณเป็นผู้นำที่ประสบความสำเร็จ?

"คุณสมบัติที่ผู้นำที่ควรมี คือ empathy ความสามารถในการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น เพราะไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหน หรือมีการศึกษาอย่างไรท้ายที่สุดแล้ว คุณก็จำเป็นต้องมีความเห็นอกเห็นใจ เพื่อใส่ใจผู้คนและความเป็นอยู่ของพวกเขา และไม่เพียงแค่ผู้นำเท่านั้น ฉันเชื่อว่าทุกคนในโลกนี้ควรความมีความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน เราถึงจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ขอบคุณค่ะ"

ทัชใจคนดูการประกวดในเช้านี้ ดันแฮชแท็ก #MissUniverseThailand2024 และ #โอปอลสุชาตา ติดเทรนด์ยอดนิยมในเอ็กซ์ (ทวิตเตอร์) พร้อมช่วยกันส่งกำลังใจให้โอปอลรัวๆ

จนมาถึงคำถามในรอบไฟนอล วัดกึ๋นว่าท้ายที่สุดใครจะเป็นผู้คว้ามง จากคำถามที่ว่า มิสยูนิเวิร์สสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงทุกยุคทุกสมัย คุณอยากจะบอกอะไรให้กับผู้คนทั่วโลก?

"สิ่งที่ฉันอยากมอบให้พวกเขาคือ การเชื่อมั่นและการมีความหวังเสมอ จากการทำโครงการ Opal for her ของฉัน ฉันได้ทำงานร่วมกับผู้ป่วยมะเร็งเต้านมและทีมแพทย์ เราทุกคนรู้ดีว่าการเอาชนะโรคนี้เป็นสิ่งที่ยาก แต่สิ่งที่ฉันสัมผัสได้คือทุกคนมีความหวัง และทุกคนเชื่อว่าวันพรุ่งนี้จะเป็นวันที่ดีกว่า ตราบใดที่คุณเชื่อมั่น พลังของคุณจะไร้ขีดจำกัด และตราบใดที่คุณมีความหวัง จิตวิญญาณและพลังของคุณจะเปล่งประกาย ขอบคุณค่ะ"

โอปอลตอบอย่างมั่นใจพร้อมสายตาที่มุ่งมั่นตั้งแต่ประโยคแรกจนถึงคำขอบคุณ เรียกเสียงปรบมือจากแฟนนางงามอย่างท่วมท้น

แม้ครั้งนี้โอปอลจะทำดีทำเต็มที่สุดตัวขนาดไหน แต่ก็ยังไปไม่ถึงมงกุฎ เมื่อการประกาศผลเรียกชื่อ ไทยแลนด์ ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 3 Miss Universe 2024 และคนที่คว้ามงกุฎในปีนี้กลายเป็นสาวงามจากประเทศเดนมาร์ก Victoria Kjaer คว้ามงกุฎไปครอง

สำหรับ โอปอล สุชาตา เกิดเมื่อวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2546 เป็นบุตรสาวของ ธเนศ ดอนกำเนิด และ สุพัตรา ช่วงศรี ครอบครัวประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัวในอำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต จบการศึกษาระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้นจากโรงเรียนขจรเกียรติศึกษา มัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สายศิลป์-จีน และระดับอุดมศึกษาสาขาวิชาการเมืองและการระหว่างประเทศ BIR (หลักสูตรนานาชาติ) คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

โอปอล สุชาตา ได้เข้าประกวดนางงาม "เวทีแรกในชีวิต" คือ นางงามรัตนโกสินทร์ ปี 2021 แต่ไม่ได้รับตำแหน่งชนะเลิศ

มะเร็งเต้านม จุดหนุนเข้าสู่วงการนางงาม เพื่อเป็นกระบอกเสียงสร้างความตระหนักรู้โรคมะเร็งเต้านมในผู้หญิง

โอปอล สุชาตาเริ่มเข้าประกวดนางงามเพื่อต้องการสร้างความตระหนักถึงโรคมะเร็งเต้านม หลังจากตอนที่เจ้าตัวอายุ 16 ปี ตรวจพบก้อนเนื้องอกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เซนติเมตร อยู่ในเต้านมทั้งสองข้าง จึงเข้ารับการผ่าตัดก้อนเนื้อส่วนเกินบริเวณหน้าอกออก โชคดีที่ครั้งนั้นเนื้องอกยังไม่ไปถึงขั้นโรคร้าย

เส้นทางนางงามระดับประเทศ

ก่อนจะเข้าร่วมการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 เวทีระดับประเทศครั้งแรก และเป็นผู้เข้าประกวดที่มีอายุน้อยที่สุด แต่สร้างความเซอร์ไพรส์ให้กับกรรมการอย่าง ลูกเกด เมทินี เป็นอย่างมาก ก่อนจะได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 3 และได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นรองชนะเลิศอันดับ 2 เนื่องจากผู้ดำรงตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 ถูกปลดออกจากตำแหน่ง

ระหว่างได้รับตำแหน่งในปี 2022 โอปอล สุชาตา เข้าร่วมการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจ ทำให้เธอซึมซับถึงการทำงานในองค์กรและเรียนรู้หากวันหนึ่งเธอได้เป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ จะได้ปฏิบัติตัวอย่างไร

ก่อนจะกลับมาเข้าร่วมการประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024 อีกครั้ง เพื่อทำความฝันของตัวเองให้สำเร็จ โอปอล สุชาตา ได้รับการแต่งตั้งจากกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ กรุงเทพมหานคร ให้เป็นตัวแทนสาวงามประจำกรุงเทพมหานคร เข้าประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024

และสามารถคว้ามงกุฎมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024 มาได้ตามความคาดหมาย เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประกวดนางงามจักรวาล 2024 ที่ประเทศเม็กซิโก

"เพื่อคนไทย" ความฝันนางงามที่ใหญ่ขึ้น เพื่อคนไทย

โอปอลให้สัมภาษณ์กับอมรินทร์ออนไลน์ ก่อนวันที่จะเดินทางไปเข้าร่วมการประกวดมิสยูนิเวิร์สที่เม็กซิโก ว่าจะทำให้ดีที่สุด เพื่อความฝันของคนไทยที่รอมานานถึง 36 ปี

สิ่งหนึ่งที่โอปอลเรียนรู้จากการเป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ อันนี้เราก็มานั่งคิดเพราะมีช่วงหนึ่งที่เรารู้สึกเหนื่อยมาก จนรู้สึกสูญเสียว่าตอนนี้ฉันกำลังทำอะไรอยู่ ทำไปทำไม ทำไปเพื่อใคร ความฝันในการเป็นนางงามจักรวาลมันยังเหมือนเดิมค่ะ เพราะเป็นความฝันที่โอปอลอยากเป็นตั้งแต่ตอนเด็กๆ แล้ว แต่ตอนเด็กๆ เราฝันเพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จ อยากทำให้ความฝันของตัวเองเป็นจริง แต่ว่าพอเรามาอยู่จุดที่ตัวเองเป็นตัวแทนของประเทศ มันไม่ใช่แค่โอปอลแล้ว มันไม่ได้รู้สึกว่าฉันอยากทำเพื่อให้ชีวิตฉันดีขึ้นหรือฉันอยากทำเพื่อให้ตัวเองประสบความสำเร็จ แน่นอนชีวิตโอปอลจะต้องเปลี่ยนไป ถ้าเกิดว่าโอปอลได้เป็นมิสยูนิเวิร์ส แต่ว่าความรู้สึกนั้นมันน้อยกว่าการอยากให้ความฝันของคนไทยเป็นจริงค่ะ

เคยมีคนถามโอปอลว่า ทำไมคุณถึงอยากเป็นมิสยูนิเวิร์ส โอปอลก็บอกว่าตอนเด็กๆ ฉันเคยอยากเป็นเพราะฉันรู้สึกว่าฉันเป็นแล้วฉันคือคนสวย ฉันประสบความสำเร็จในชีวิต แต่พอฉันมาเป็นจริงๆ ฉันไม่ได้อยากเป็นเพื่อตัวเอง ฉันอยากเป็นเพื่อคนของฉัน แล้วเขาก็ถามว่าใครคือคนของเธอ โอปอลก็บอกว่าคนไทยทุกคนไง เพราะว่าเรารู้ว่าความฝันนี้คือมันเป็นความฝันที่มันแชร์กันสำหรับคนทั้งประเทศ เรารอมา 36 ปี แล้วมันไม่ใช่แค่โอปอลที่อยากได้ เผลอๆ มันมีคนที่อยากได้มากเท่าๆ กับโอปอลด้วยซ้ำ แต่เขาอาจจะไม่ได้ยืนอยู่จุดที่เป็นคนจะไปคว้ามันมา เพราะฉะนั้นเราก็ต้องทำตรงนี้ให้เขา แล้วทำแบบที่เรามีความสุขที่จะทำค่ะ

แม้ในวันนี้ความฝันของโอปอล จะยังไปไม่ถึงจุดที่หวังไว้อย่างการได้เป็น มิสยูนิเวิร์ส แต่วันนี้โอปอล สุชาตา ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเธอคือผู้ครองสายสะพายประเทศไทยที่เก่งที่สุด ทำดีที่สุดคนหนึ่ง ด้วยการพาสายสะพายไทยแลนด์เข้าไปลึกถึง TOP5 ได้สำเร็จเป็นปีที่สองติดต่อกัน