"โอปอล สุชาตา ช่วงศรี" เพชรเม็ดงามที่พิสูจน์ให้เห็นศักยภาพที่แท้จริงในเส้นทางนางงาม ก้าวใหม่ความหวังมงฟ้ามิสเวิลด์ มงแรกของประเทศไทย
เดินหน้าสู่เส้นทางนางงามครั้งใหม่ เตรียมตัวเข้าร่วมการประกวด Miss World 2025 ด้วยแพชชั่นที่ยังเต็มเปี่ยม สำหรับ โอปอล สุชาตา ช่วงศรี ในฐานะ Miss World Thailand 2025 ขณะเดียวกันก็ต้องคืนตำแหน่ง รองอันดับ 3 Miss Universe 2024 ให้ทางกองประกวดที่ประกาศปลดจากตำแหน่ง หลังโอปอลเปิดตัวในฐานะ Miss World Thailand คนล่าสุด
จากเด็กสาวคนหนึ่งที่มีความมุ่งมั่นในการเป็นนางงาม หลังผ่าตัดก้อนเนื้อที่เต้านม โชคดีที่รักษาตัวเองทันก่อนสายเกินแก้ เป็นจุดเริ่มต้นให้เลือกเดินเข้าสู่วงการนางงาม เพราะอยากมีกระบอกเสียงในการรณรงค์และเป็นกำลังใจให้ผู้หญิงทุกคนที่เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเต้านม
โอปอลเริ่มเข้าสู่เวทีประกวดนางงามเวทีแรกในชีวิต คือ นางงามรัตนโกสินทร์ ปี 2021 แต่ไม่ได้รับตำแหน่ง ก่อนจะเข้าสู่เวที Miss Universe Thailand 2022 เวทีระดับประเทศในขณะที่มีอายุเพียง 18 ปี
แต่กลายเป็นว่าสาววัย 18 ได้สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับแฟนนางงาม และ ลูกเกด เมทินี หนึ่งในกรรมการ ณ ขณะนั้น ก้าวแรกบนเวทีระดับประเทศ กลายเป็นเวทีที่เปิดประตูความฝันให้กับโอปอล สุชาตา สามารถคว้ารองชนะเลิศอันดับ 3 มาได้สำเร็จ ก่อนจะได้รับการเลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นรองชนะเลิศอันดับ 2 เนื่องจากผู้ดำรงตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 1 ถูกปลดออกจากตำแหน่ง
โอปอลบอกกับทุกสื่อหลังการประกวดจบลงว่า ในวันข้างหน้าเธอจะกลับมาประกวด Miss Universe Thailand อีกครั้งในวันที่พร้อมกว่านี้
ระหว่างการดำรงตำแหน่งในปี 2022 โอปอล สุชาตา เข้าร่วมการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจ และซึมซับการทำงานในองค์กร เพื่อเรียนรู้ว่าหากวันหนึ่งเธอได้เป็นมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์จะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร ด้วยความตั้งใจและมุ่งมั่น ไปพร้อมกับการพัฒนาตัวเองเพื่อให้พร้อมและเหมาะสมในวันที่จะกลับมา
จนในที่สุด โอปอลก็กลับมาอีกครั้งในการประกวด Miss Universe Thailand 2024 คำครหาต่างๆ เกิดขึ้นมากมายหลังเปิดตัวลงประกวด เช่นถูกมองว่าเป็นลูกรักผู้ถือลิขสิทธิ์อย่าง แม่ปุ้ย ปิยาภรณ์ รวมถึงกราฟผลงานที่ขึ้นๆ ลงๆ ติดความเนือยแบบเดิมๆ เหล่านี้คือเสียงวิพาษ์วิจารณ์จากแฟนนางงามในตอนนั้น
ปุ้ย ปิยาภรณ์ พูดถึงเรื่องกรณีโอปอลเป็นลูกรักของกองฯ ในรายการ Mor Than มง ของ เอมมี่ มรกต โดยเล่าเรื่องของโอปอลในรอบห้องดำ Miss Universe Thailand 2024 ที่ถูกคนครหา โดยโอปอลเปิดใจเรื่องนี้ต่อหน้ากรรมว่า เธอเสียสละทุกนาทีในชีวิต เสียสละความสุขที่จะได้ไปเที่ยวกับเพื่อนๆ เพราะต้องสอบ เรียน แล้วก็ทำงานให้กองประกวดไปด้วย ไม่มีแม้แต่วินาทีเดียวที่เธอจะไม่อดทนเพื่อจะมาประกวดใหม่ เธอคิดว่าเธอสมควรได้รับสิ่งนั้น
ส่วนเรื่องทำไมถึงดิ้นรนที่จะอยากได้มงขนาดนั้น โอปอลตอบประเด็นนี้ว่า ตอนนี้เสียงของเธอดังแล้วแต่ยังดังไม่พอ เธอเคยเกือบตาย เลยปฏิญาณกับตัวเองว่าถ้ารอดมาได้ จะทำอะไรให้สังคมในเรื่องนี้ และเธอก็ทำมาจริงๆ นับตั้งแต่นั้นมา
ก่อนจะคว้ามงกุฎ Miss Universe Thailand 2024 มาได้ตามความคาดหมาย เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการประกวดนางงามจักรวาล 2024 ที่ประเทศเม็กซิโก
โอปอลได้ลบคำครหาเหล่านั้น ในวันที่เธอได้เป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวด Miss Universe 2024 ที่เม็กซิโก ด้วยการคว้าตำแหน่งรองอันดับ 3 กลับมาฝากแฟนๆ ชาวไทย ผ่านผลงานที่ทำอย่างเต็มที่ที่สุด และโดยเฉพาะศักยภาพการตอบคำถามที่กินใจแฟนนางงามถ้วนหน้า อย่างการพูดถึง Empathy คุณสมบัติที่ผู้นำที่ควรมี และ การสื่อสารถึงผู้คนทั่วโลกให้มีความเชื่อมั่นและมีความหวัง ซึ่งยกตัวอย่างโครงการ Opal For Her เกี่ยวกับมะเร็งเต้านมที่เจ้าตัวทำมา ปลุกกำลังใจผู้คนและผู้ป่วยมะเร็งเต้านมมีความเชื่อมั่นและมีความหวังในชีวิต เหมือนอย่างที่เธอเคยประสบมา
กลายเป็นสปีชที่กินใจและทรงคุณค่าในหัวใจแฟนนางงามถ้วนหน้า ตอกย้ำศักยภาพของโอปอลที่พร้อมและมีความเหมาะสมในการเป็นนางงาม ในฐานะตัวแทนสายสะพายประเทศไทยบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส อีกคนหนึ่ง
จากจักรวาล สู่โลก
ความหวังมงฟ้ามิสเวิลด์ มงแรกของประเทศไทย
ภายหลังเวทีประกวด Miss Universe Thailand เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ มีการเปลี่ยนมือผู้ถือลิขสิทธิ์ในไทย 22 เมษายน 2568 TPN Global จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว โอปอล สุชาตา เข้ารับตำแหน่ง Miss World Thailand 2025 เป็นตัวแทนประเทศไทยไปชิงมงฟ้าเวที Miss World 2025 ที่ประเทศอินเดีย หลังมีกระแสข่าวลือมานาน
"ไม่ยากเกินความกล้าที่จะทำ แต่อาจจะต้องใช้เวลาและคิดเยอะหน่อย เพราะการที่จะไปมันเป็นเรื่องใหญ่ ไม่ใช่แค่ตัวเรา แต่ยังมีผู้ใหญ่แล้วก็แฟนคลับที่คอยสนับสนุนเรา โอปอลไปศึกษาเวทีแล้วรู้สึกว่าก็ตรงบริบท และอาจจะเติมเต็มชีวิตการเป็นนางงามเราครั้งสุดท้ายก่อนที่จะมูฟออนไปทำอย่างอื่น เราได้เห็นว่าทุกครั้งที่มีการประกวด เมื่อไรที่จัดการประกวดหรือว่าได้ผู้ดำรงตำแหน่ง เขาก็จะพาทัวร์ทั่วโลก ไปงานด้านมนุษยธรรมต่างๆ ซึ่งเรารู้สึกว่ามันเป็นความฝันอย่างหนึ่งในพาร์ทการเป็นนางงาม ที่เรายังไม่เคยมีโอกาสได้ทำ คือการเดินทางไปประเทศทั่วโลก ไปพบเจอผู้คนที่เราสามารถให้แรงบันดาลใจเขาได้ และในทางกลับกันเขาให้แรงบันดาลแก่เราได้ด้วย บางทีการทำอะไรพวกนี้มันเพิ่มคุณค่าให้ชีวิตของเราและคนรอบข้างได้ เลยรู้สึกว่าเมื่อโอกาสมาถึงแล้ว อยากลองทำดูสักตั้งเผื่อไปถึงฝันเราจะมีโอกาสได้ทำสิ่งนี้เป็นเวลา 1 ปี" โอปอล กล่าวหลังเข้ารับตำแหน่งตัวแทนประเทศไทย
"จะทำให้เต็มที่ที่สุดค่ะ โอปอลรู้สึกว่าในการจะไปแน่นอนว่าเราต้องมีเป้าหมายไว้ในใจ มีฟูกบางๆ ไว้รองรับความผิดหวังในชีวิต แต่โอปอลรู้สึกว่าเมื่อไรที่เราจะก้าวเดินไปต้องไปด้วยมายด์เซ็ตที่ไปเพื่อชนะเท่านั้น เราต้องตั้งความหวังสูงสุดไว้ก่อนเพื่อให้เราพาตัวเองไปให้เต็มที่ เพราะฉะนั้น เราหวังมงไว้ก่อน รู้ว่ามันยาก แต่ถ้าโอปอลได้มันจะมีคุณค่ากับโอปอลมากจริงๆ ค่ะ
โอปอลเชื่อว่าพี่ๆ หลายคนเชื่อในตัวโอปอล แต่สิ่งที่โอปอลพูดอยู่เสมอว่าในการที่เราไปสร้างชื่อเสียงสร้างความภาคภูมิใจให้ประเทศตัวเอง มันไม่ใช่โอปอลคนเดียว มันคือความหวังคือจิตวิญญาณของเราทุกคน คือคำสอน คำแนะนำของทุกคนที่หล่อหลอมให้โอปอลเป็นตัวเองในวันนี้ และเป็นสิ่งที่เป็นกำลังใจให้โอปอลกับการที่นำความหวังของทุกคนไปด้วย เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกคนเชื่อมั่นและสนุกสนานเอ็นจอยไปพร้อมกับกับการติดตามการประกวดในครั้งนี้ และขอให้ทุกคนหวังให้เรานำมงฟ้ากลับมาให้ได้นะคะ"
มิสเวิลด์ เป็นเวทีประกวดนางงามเก่าแก่ของโลก เกิดขึ้นก่อนมิสยูนิเวิร์สเพียงปีเดียว แต่กระแสความนิยมอาจจะน้อยกว่ามิสยูนิเวิร์สเล็กน้อย เนื่องจากรูปแบบการประกวดมีความแตกต่างจากนางงามจักรวาล ในหลายมิติ เป็นเวทีประกวดนางงามที่ขึ้นชื่อเรื่องความยากและหิน มีชาเลนจ์ให้นางงามได้ทำเพื่อเก็บเป็นฟาสแทร็กเข้ารอบ โดยเฉพาะ Head to Head challenge ที่ถือว่าเป็นชาเลนจ์ที่ยากที่สุดของเวทีนี้ก็ว่าได้
ภายหลังจากที่โอปอล สุชาตา ได้รับแต่งตั้งเป็นตัวแทนประเทศไทย ทำให้แฟนนางงามหลายคนเริ่มหันกลับมาสนใจเวทีมิสเวิลด์มากขึ้น เพราะเชื่อในศักยภาพของโอปอล สุชาตา ที่ประจักษ์ชัดมาตั้งแต่ประกวดมิสยูนิเวิร์ส 2024 ว่าจะเป็นอีกหนึ่งความหวังของประเทศและแฟนนางงามไทยในการไปคว้ามงฟ้ากลับมาให้คนไทย
Advertisement