หากใครที่เป็นแฟนนางงาม เชื่อว่าเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาคงเป็นวันที่เราใจจดใจจ่อ ส่งกำลังใจร่วมลุ้นให้ โอปอล สุชาตา คว้ามง 3 มาให้ไทย และถึงแม้ว่า Miss Universe 2024 จะตกเป็นของ Victoria Kjaer Theilvig สาวงามจากประเทศเดนมาร์ก สร้างประวัติศาสตร์คว้ามงแรกให้ประเทศ แต่ตัวแทนสาวไทยของเราก็ได้ทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในเวทีโลกและคว้าตำแหน่งรองอันดับ 3 มาให้แฟนๆได้ชื่นใจ
แต่กระแสดราม่าก็ในวงการขาอ่อนก็ไม่หยุดอยู่แค่นี่ เมื่อการประกวดในปีนี้ ได้ประกาศรางวัลใหม่เป็นครั้งแรก นั้นก็คือรางวัลควีนทวีป 4 คน ได้แก่ควีนแห่งเอเชีย, ควีนแห่งแอฟริกา, ควีนทวีปอเมริกา (ลาติน) และ ควีนแห่งยุโรป ทำเอาแฟนๆต่างสงสัยว่าทำไมถึงมีรางวัลพิเศษเกิดขึ้นในปีนี้
แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า หากใครได้ตำแหน่ง ก็จะทำให้ผู้คนรู้จักประเทศนั้นๆมากขึ้น เอาวัฒนธรรมสู่สายตาชาวโลกเป็นจุดขาย กลายเป็น soft power ที่แทรกซึมไปยังหัวใจของแฟนๆ สร้างชื่อเสียง สร้างรายได้ จากความชื่นชอบ
บทความนี้ SPOTLIGHT พาทุกคนไปรู้จักประเทศของ ควีน 4 ทวีปจากเวที Miss Universe 2024 ผ่านมุมมองของเศรษฐกิจของประเทศฟิลิปปินส์ ประเทศไนจีเรีย ประเทศเปรู และประเทศฟินแลนด์
ในการประกวด Miss Universe 2024 ในครั้งนี้ ได้มีการประกาศรางวัลใหม่เป็นครั้งแรก นั้นก็คือ รางวัลควีนทวีปที่มีทั้งหมด 4 คน ได้แก่
ฟิลิปปินส์ ประเทศเพื่อนบ้านของไทย ที่มีความโดดเด่นในเรื่องทักษะของประชากร แรงงาน และกำลังซื้อ โดยภูมิศาสตร์ของฟิลิปินส์ เป็นเกาะทั้งขนาดเล็กและใหญ่รวมกันมากกว่า 7,000 เกาะ ด้วยปัจจัยด้านพื้นที่ที่มีความกระจัดกระจาย ทำให้มีความหลากหลายทั้งในแง่ของชาติพันธุ์ ภาษา และวัฒนธรรม และกว่า 90% ของชาวฟิลิปปินส์สามารถพูดภาษาอังกฤษ ได้เป็นภาษาที่สอง
ฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีการเปลี่ยนผ่านของโครงสร้างเศรษฐกิจจากภาคเกษตรกรรมเข้าสู่ภาคบริการอย่างรวดเร็ว เช่นหากเทียบ 40 ปีก่อนหน้า ฟิลิปปินส์มีรายได้จากภาคบริการเพียง 36 % แต่ปัจจุบันมี รายได้จากภาคบริการมากกว่า 60 %ของ GDP และสาเหตุที่ทำให้ฟิลิปปินส์สามารถเปลี่ยนผ่านได้ไวขนาดนี้ มาจากบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้ภาษาอังกฤษ
และด้วยปัจจัยด้านบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในการใช้ภาษาอังกฤษที่ได้กล่าวไปข้างต้น และมีค่าจ้างอยู่ในระดับต่ำหากเทียบกับประเทศอื่นๆโดยมีราคาอยู่ที่ 340 -362 บาท / วัน ส่งผลให้ธุรกิจภาคบริการ เช่น ธุรกิจรับจ้างบริหารจัดการธุรกิจ (Business Process Outsourcing) , บริการลูกค้าสัมพันธ์ (Call Center) และบริการเกี่ยวกับสารสนเทศ (IT Services) เป็นแหล่งรายได้ที่สำคัญของประเทศ และมีส่วนแบ่งตลาดถึง 15 % ของตลาดทั่วโลก
นอกจากนี้ ฟิลิปปินส์ ยังมีความโดดเด่นด้านจำนวนแรงงานและกำลังซื้อในประเทศ โดยมีประชากรกว่า 110 ล้านคน และมีอายุเฉลี่ยเพียง 25 ปีเท่านั้น ในขณะที่อายุเฉลี่ยของประชากรประเทศไทยและอาเซียนอยู่ 40 และ 31.5 ปีตามลำดับ ปัจจัยนี้สะท้อนศักยภาพของกำลังแรงงานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตต่อไปในอนาคต สวนทางกับประเทศอื่นที่กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงวัย
อีกทั้ง สัดส่วนการบริโภคของภาคเอกชนภายในประเทศที่สูงถึง 75% ของ GDP ขณะที่ประเทศไทยและอาเซียนมีสัดส่วนการบริโภคของภาคเอกชน 54 % และ 52 % ตามลำดับ โดยการจับจ่ายใช้สอยบางส่วนยังได้รับการสนับสนุนรายได้จากเงินโอน (Remittance) จากแรงงานฟิลิปปินส์ที่ออกไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 10 % ของ GDP
ไนจีเรีย ประเทศที่มีปริมาณสำรองน้ำมันดิบมากเป็นอันดับที่ 11 ของโลก มีประชากรมากที่สุดในภูมิภาคแอฟริกา ประกอบด้วยชนเผ่าต่าง ๆ ประมาณ 250 เผ่า และเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในทวีปแอฟริกา
ไนจีเรียเป็นประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ในด้านทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ ซึ่งเริ่มการสำรวจและขุดเจาะน้ำมันมาตั้งแต่ทศวรรษที่ 70 ปัจจุบัน ไนจีเรียเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดในภูมิภาคแอฟริกา ประมาณ 36,972 ล้านบาร์เรล ทำให้ไนจีเรียกลายเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันดิบของโลก อันดับที่ 11 ของโลก
ไนจีเรียนำเข้าสินค้าอุตสาหกรรม เครื่องจักร เคมีภัณฑ์ และอาหาร โดยส่วนใหญ่นำเข้าจากจีน สหรัฐอเมริกา บราซิล และยุโรป ไนจีเรียส่งออกน้ำมันและปิโตรเคมีภัณฑ์เป็นหลัก โดยมีสัดส่วนมากถึง 79% ของการส่งออกทั้งหมด สินค้าส่งออกอื่น ๆ ได้แก่ โกโก้ และยางดิบ โดยส่วนใหญ่ส่งออกไปอเมริกา บราซิล และสเปน
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าประเทศไนจีเรียจะมีความอุดมสมบูรณ์ด้านทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ มากแค่ไหน ภาวะความขัดแย้งและเสถียรภาพทางการเมืองภายในประเทศ ปัญหาคอร์รัปชัน ก็ยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจไนจีเรียให้มีบรรยากาศที่เอื้อต่อการลงทุนของบริษัทต่างประเทศ
โดยองค์กรภาครัฐที่รับผิดชอบด้านการปิโตรเลียม หรือ Nigerian National Petroleum Corporation (NNPC) ได้เปิดเผยว่า โรงกลั่นน้ำมันกำลังประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมันดิบ เนื่องจากฐานขุดเจาะน้ำมันและท่อลำเลียงขนส่งน้ำมันดิบจำนวนมากในพื้นที่ Niger Delta ได้ถูกโจมตีโดยกลุ่มกองกำลังติดอาวุธและจำเป็นต้องปิดตัวลง ทำให้ปริมาณการผลิตน้ำมันของไนจีเรียลดลงเหลือ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน และทำให้รายได้จากการส่งออกน้ำมันของไนจีเรียลดลงอย่างมาก ซึ่งหากนับตั้งแต่ปี 1960 - 2012 ได้มีการประเมินว่า ปัญหาคอร์รัปชันได้สร้างความเสียหายให้แก่เศรษฐกิจของไนจีเรียไม่ต่ำกว่า 12.4 ล้านล้านบาท ทำให้ปัจจุบัน ทางการไนจีเรียกำลังเร่งพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเพื่อดึงรายได้มาทดแทนรายได้จากการค้าน้ำมันกับต่างประเทศที่สูญเสียไป
ประเทศเปรู ตั้งอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ เป็นประเทศที่มีทรัพยากรรธรรมชาติที่สมบูรณ์และมีรายได้หลักจากการส่งออกสินค้าเกษตรกรรมและแร่ธาตุ อย่างไรก็ตาม ที่ตั้งของประเทศเปรูอยู่ในแนวเคลื่อนตัวของเปลือกโลก และพื้นที่หลายแห่งตั้งอยู่ในเขตที่มีฝนตกชุก ทำให้เปรูต้องประสบกับภัยธรรมชาติบ่อยครั้ง ทั้งน้ำท่วมและแผ่นดินไหว ทำให้ปัจจุบันรัฐบาลได้มีการผลักดันอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และทำให้เปรูเป็นที่รู้จักมากขึ้นในเวทีโลกในแง่ของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และประวัติศาสตร์
เปรูเป็นประเทศที่มีทรัพยากรรธรรมชาติที่สมบูรณ์และมีรายได้หลักจากการส่งออกสินค้าเกษตรกรรมและแร่ธาตุ โดยสินค้าส่งออกสำคัญ เช่น สินแร่ (ทองแดง ทองคำและเงิน) น้ำมันและก๊าซธรรมชาติ สินค้าเกษตรกรรม (หน่อไม้ฝรั่ง อาโวคาโด กาแฟ มะม่วง กล้วย ฯลฯ) อาหารสัตว์ และสิ่งทอ
จากการรายงานภาพรวมเศรษฐกิจเปรูใน ปี 2566 ในงานThe 3rd Diplomatic Exporter Summit พบว่า เปรูได้มีการส่งออกมากถึง 180 ตลาดทั่วโลก โดยมีมูลค่าการส่งออกสูงสุดเป็นสถิติที่ 64.47 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มีบริษัทส่งออกทั้งสิ้น 8,450 บริษัท และมีการจ้างงานรวม 3.8 ล้านคน โดยประเทศที่เปรูมีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน สหราชอาณาจักร EU แคนาดา และอินเดีย ส่วนสาขาที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด คือ เหมืองแร่ อุปกรณ์การเกษตร และไฮโดรคาร์บอน
อย่างไรก็ตาม ที่รัฐบาลเปรูได้มีการพัฒนา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจควบคู่กับการส่งออก และทำให้เปรูเป็นที่รู้จักมากขึ้นในแง่ของสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ เช่น มาชูปิชู ,อาหารเปรู วัฒนธรรมของชนพื้นเมือง เช่น ชาวอินคา หรือ สินค้าและเครื่องแต่งกายท้องถิ่น
นอกจากนี้ เปรูยังได้เป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุมเอเปค (APEC) ในปี 2567 ซึ่งทางรัฐบาลมีเป้าหมายยกระดับให้เปรูเป็นจุดหมายปลายทางสำหรับการจัดงานสำคัญและการท่องเที่ยวเชิงธุรกิจ (destination for hosting mega events and business tourism) อีกด้วย
ฟินแลนด์ ประเทศในดินแดนเหนือของทวีปยุโรป แม้ว่าจะเป็นประเทศเล็กๆ ประชากรไม่มาก แต่เป็นประเทศที่มีเทคโนโลยีระดับโลก แรงงานที่มีความสามารถ จนทำให้ฟินแลนด์มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 46 ของโลก นอกจากนี้ยังเป็นประเทศที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นประเทศที่มีความสุขที่สุดในโลกถึง 7 ปีซ้อน จาก The World Happiness Report 2024 อีกด้วย
ปัจจุบันฟินแลนด์มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับที่ 20 ของยุโรป และ อันดับที่ 56 ของโลก และประเทศที่มีความก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีชั้นสูง เป็นต้นกำเนิดและคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม พลังงานทางเลือก ทำให้ฟินแลนด์เป็นแหล่งกำเนิดของบริษัทข้ามชาติยักษ์ใหญ่ของโลก เช่น Nokia และ Rovio Entertainment ผู้คิดค้นเกมส์ยอดฮิตอันดับ 1 ของโลก Angry Bird
ปัจจุบันฟินแลนด์มีชื่อเสียงในธุรกิจเริ่มต้น (startups) ด้าน IT, gaming, clean technology และbiotechnology ฟินแลนด์จัดงานส่งเสริมธุรกิจเริ่มต้นที่มีชื่อเสียงในสแกนดิเนเวียเป็นประจำทุกปีคือ SLUSH แต่อัตราการว่างงานยังสูงถึง 8-9% เช่นเดิม สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะระบบสวัสดิการสังคมและการรับผู้อพยพต่างชาติ โดยบริษัทเอกชนฟินน์มักจะไม่รับผู้อพยพต่างชาติเข้าทำงาน
จากการจัดอันดับ Environmental Performance Index: EPI 2022 ฟินแลนด์ได้รับเลือกให้เป็นประเทศที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอันดับที่ 3 ของโลก (รองจากเดนมาร์ก และสหราชอาณาจักร) จากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้านสิ่งแวดล้อม ทำให้ฟินแลนด์สามารถพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมได้ในระดับโลก บริษัทฟินแลนด์เป็นผู้นำระดับโลกด้านต่างๆ มากมาย เช่น การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ (energy efficiency) กระบวนการทางอุตสาหกรรมสะอาด (clean industrial processes) และพลังงานชีวภาพ (bioenergy)
อ้างอิง :