บทพิสูจน์รักแท้ที่ไม่จำกัดเพศอย่างแท้จริง! ของ วู้ดดี้ วุฒิธร มิลินทจินดา และ โอ๊ต อัครพล จับจิตรใจดล หลังจากที่เฝ้ารอมานาน ล่าสุด ได้จูงมือคู่ชีวิตเข้าพิธีจดทะเบียนสมรสอย่างเป็นทางการ และถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีนายทะเบียนจากสำนักงานเขตปทุมวัน ดำเนินการจดทะเบียนสมรส ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่อย่างสมบูรณ์แบบ หลังจากที่ทั้งคู่ได้ยืนหยัดเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ และร่วมผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียมในไทยมาอย่างยาวนาน พร้อมร่วมเฉลิมฉลองหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ของประเทศไทย ซึ่งเป็นชาติแรกของอาเซียนที่มีกฎหมาย
สมรสเท่าเทียมรองรับสิทธิเสรีภาพให้กับคนทุกเพศ โดยมี เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานในงาน พร้อมด้วยคณะทำงานจากหลายภาคส่วนที่ช่วยผลักดันกฎหมายสมรสเท่าเทียม อาทิ
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์, นายดนุพร ปุณณกันต์, นายเกิดโชค เกษมวงศ์จิตร , อรรณว์ ชุมาพร (วาดดาว) มาร่วมงานอย่างคับคั่ง ท่ามกลางความยินดีของครอบครัว เพื่อน ๆ เหล่าเซเลปดาราชื่อดัง ณ โรงแรมเดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน กรุงเทพฯ
วู้ดดี้ วุฒิธร และ โอ๊ต อัครพล กล่าวว่า …..วันนี้รู้สึกอิ่มใจมาก คนที่เรารักก็มารวมกันอยู่ตรงนี้ ความรักได้กระจายตัวออกไป ได้เป็นเราแบบ 100% มันไม่ใช่แค่เรื่องของเพศสภาพ มันเป็นความสมบรูณ์แบบของการสร้างครอบครัว สมรสเท่าเทียมเราใช้เวลาเดินทางมา 10 กว่าปี เรามาไกลมาก จากนี้ไปมันก็จะพัฒนาไปเรื่อยๆ ตามกาลเวลา ความเหมาะสม มนุษย์ทุกคนในประเทศไทยวันนี้มีความเท่าเทียมกันหมดแล้ว ผมคิดว่าสิ่งที่ทั้งโลกต้องมีคือการให้เกียรติ ยอมรับ และเข้าใจ
ถามถึงคำมั่นสัญญาทั้งคู่เผยว่า เราเคยมีคำสัญญาเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนนี้เราก็ยังทำมันอยู่ คือเราจะยอมรับทุกอย่างเพราะเราเลือกคุณแล้วเราก็ต้องจับมือไปด้วยกัน ไม่ว่าจะเจอทุกข์เจอสุขถือว่าเป็นประสบการณ์มันคือคำมั่นสัญญาที่มีให้กันแล้ววันนี้ก็ยังเหมือนเดิม
ส่วนความรู้สึกที่จรดปากกาลงในกระดาษเมื่อสักครู่ ทั้งคู่ก็บอกว่า คบกันมา 18 ปีรู้สึกใจหวิว ถามตัวเองว่า “เราเอาจริงแล้วนะ” จากก่อนหน้านี้ถ้าไม่จดมันก็อยู่ได้ แต่พอหลายคนมาพูดให้เราฟังเราเลยรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งสำคัญ เพราะว่าที่ผ่านกันมา 10 กว่าปีชีวิตมันไม่ได้มีปัญหาแต่ตรงนี้มันคือความการันตีจากสิ่งที่ไม่คิดว่ามันเป็นไปไม่ได้แต่มันเป็นไปได้ พอได้จดทะเบียนสมรสเองมันเลยรู้สึกว่าชีวิตนี้ได้จดทะเบียนกับคนอื่น
ส่วนเรื่องนามสกุลยังไม่ได้เปลี่ยนยังคงใช้นามสกุลเดิมของตัวเองอยู่ แต่อนาคตไม่แน่นอน เพราะข้อดีของกฎหมายไทยเราเลือกได้
เรื่องการมีทายาท ตอนนี้ยังไม่ได้อยากมีเพราะมีหลานทั้งหมด 5 คนก็เต็มบ้านแล้ว เราโชคดีที่เห็นหลานรักที่เห็นเรามาตั้งแต่เกิด เราทั้งคู่ก็เป็นลุงที่ใจดี แล้วที่ของเราก็คือสปอยล์เขา เพราะตอนแก่อยากให้เขาดูแลเรา
หลังจากนี้ชีวิตคู่ของเราในทางกฎหมาย ทาง “วู้ดดี้” คิดว่าตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องแค่เพศภาพ หลังจากนี้มันก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงไปตามความเหมาะสม มันใช้เวลาเส้นทางมา 10 กว่าปี แค่ตรงนี้เปลี่ยนจากนายนางสาวมาเปลี่ยนเป็นบุคคลที่ 1 ที่ 2 ก็ดีมากแล้ว
ใช้ชีวิตคู่หลังจากนี้ ทาง “วู้ดดี้” บอกว่าคงจะฉ่ำ หลังจากนี้ก็คงจะต้องจูนกันมากขึ้นและให้ความสำคัญกับความรัก แต่ไม่ได้ปรับเปลี่ยนคนใหม่ เพราะเราคบกันมา 18 ปีก็คงจะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ ถ้าเปรียบคำพูดก็คงใช้ว่า “อยู่เป็นอยู่ทนแล้วก็ทนอยู่” เพราะเราเป็นทั้งเพื่อนและแฟนความรักของเราจะไม่มีการเปลี่ยนไปอีกคน เพราะตนเปลี่ยน “คุณโอ๊ต” เป็นก้อนธรรมะก้อนทุกข์
วันนี้ก็อยากจะบอกกันและกัน โดย “วู้ดดี้” ว่า ขอบคุณที่เข้ามาทักเราในงานแต่งของพี่ชาย พอเรารู้ว่าโตกันมาตั้งแต่เด็กประถมแม่ไม่ได้เป็นเพื่อนกันแต่พ่อแม่เราก็รู้จักกันมาจนเชื่อว่าไม่มีอะไรบังเอิญที่เราจะใช้ชีวิตร่วมกัน ด้าน “คุณโอ๊ต“ บอกว่า เราจะเลิกพัฒนาและโตไปด้วยกันต่อการที่เราได้อยู่กับเขามันทำให้เราเป็นคนที่เก่งและดีขึ้นเราก็ภูมิใจ
Advertisement