รำลึกการจากไปของ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ ผ่านบทบาทการเป็นลูกและในฐานะแม่บุญธรรม
24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 ครบรอบ 3 ปี การจากไปของนักแสดงสาวมากความสามารถ แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ จากอุบัติเหตุพลัดตกเรือสปีดโบ๊ตกลางแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงดึกวันที่ 24 ก.พ. 2566 ก่อนจะพบร่างบริเวณตรงข้ามท่าน้ำพิบูลสงคราม ของวันที่ 26 ก.พ. เป็นการสูญเสียอีกหนึ่งนักแสดงมากฝีมือของวงการ ที่ทำเอาหลายคนช็อกและไม่คาดคิดว่าจะเป็นเรื่องจริง
เพราะ ณ ขณะนั้น ชีวิตของ แตงโม นิดา กำลังเข้าที่เข้าทาง ทั้งการงานที่กำลังรุ่ง ละครกำลังได้รับความนิยม ครอบครัวที่กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตา หลังแยกทางห่างหายกันไปนานกว่า 30 ปี และความรักครั้งใหม่กับ เบิร์ด เทคนิค แฟนหนุ่มนอกวงการที่เป็นรักครั้งสุดท้ายในชีวิตของแตงโม ที่เจ้าตัวเคยพูดว่าเหมือนถูกหวยที่ได้เจอผู้ชายคนนี้ แต่ท้ายที่สุดความตายก็มาพรากทั้งคู่ออกจากกัน
อมรินทร์ออนไลน์พาทุกคนย้อนรำลึกการจากไปของแตงโม นิดา ผ่านบทบาทของการเป็นลูก และแม่บุญธรรม
แตงโม นิดา พัชรวีระพงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2527 เติบโตขึ้นมาภายใต้การดูแลของ คุณพ่อโสภณ พัชรวีระพงษ์ แต่เพียงผู้เดียว เนื่องจากคุณพ่อและคุณแม่เลิกรากันไปตั้งแต่เธอยังเด็ก และแตงโมอยู่ในความดูแลของคุณพ่อมาตั้งแต่เด็กจนวันที่ได้เข้าวงการบันเทิง ได้โลดแล่นอยู่บนหน้าจอในฐานะนักแสดง โดยมีคุณพ่อเป็นทั้งผู้ปกครองและผู้จัดการส่วนตัว
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าแตงโมได้ซึมซับความเข้มแข็งมาจากคุณพ่อ แม้ภายนอกจะดูแข็งกระด้าง ตรงและแรงในสายตาคนอื่น แต่ทว่าเมื่ออยู่กับคุณพ่อ แตงโมคือลูกสาวคนหนึ่งที่อ่อนโยนแต่แข็งแกร่ง และกตัญญูต่อคุณพ่อมากคนหนึ่ง เงินทุกบาททุกสตางค์ที่ได้จากการทำงาน เธอจะให้คุณพ่อเป็นคนเก็บไว้ทั้งหมด ออกงานทุกครั้งจะมีคุณพ่อเคียงข้างคอยดูแลและเป็นกำลังใจให้เธออยู่เสมอ
จนกระทั่งในวันครบรอบวันเกิดอายุครบ 33 ปี ในปี 2560 แตงโมเผยภาพครอบครัวที่กลับมาพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ-แม่-ลูก โดยเฉพาะคุณแม่พนิดา ศิริยุทธโยธิน ที่แยกทางกันไปนานกว่า 30 ปีเป็นครั้งแรก พร้อมแคปชั่นประกอบที่ทัชใจคนที่ได้เห็นว่า "ครอบครัวที่ดี คือของขวัญจากพระเจ้า In ‘GOD’ everything is possible.30 ปีที่รอ ทุกสิ่งเกิดขึ้นได้โดยพระเจ้า"
เป็นการเติบเต็มคำว่าครอบครัวให้กลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง โดยพ่อโสได้โพสต์ข้อความสุดซึ้ง ว่าได้มอบของขวัญชิ้นสำคัญให้กับลูกสาวในวันเกิดครั้งนั้นเอาไว้ว่า
"13 ก.ย. 2560 ของขวัญวันเกิด
วันเกิดน้องโมปีนี้คุณพ่อตั้งใจว่าจะให้ของขวัญชิ้นสำคัญให้กับเธอ มันเป็นของขวัญชิ้นใหญ่ชิ้นสำคัญ เป็นของขวัญที่มีคุณค่าทางจิตใจ ไม่ใช่คุณค่าทางวัตถุ จึงบอกน้องโมว่าวันเกิดปีนี้ให้เชิญคุณแม่มาทานข้าวด้วยกัน เพื่อจะได้พร้อมหน้าพร้อมตากันทุกคนทั้ง พ่อ-แม่-ลูก หลังจากที่คุณพ่อกับคุณแม่ได้แยกทางกันเมื่อเกือบสามสิบปีที่แล้ว ทำให้น้องโมที่โตมากับคุณพ่อจะได้เจอคุณพ่อที คุณแม่ที ไม่ค่อยมีโอกาสได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตากัน ทานข้าวกัน ถ่ายรูปครอบครัวกัน(น้องโมเลยเป็นเด็กที่ไม่ค่อยมีภาพครอบครัวตอนโตมีแต่ภาพสมัยยังเด็กเท่านั้น)
ปีนี้เป็นปีพิเศษ เหตุจากคุณพ่อเริ่มล้มป่วยลงหนึ่ง ประกอบกับเห็นว่าน้องโมเติบโตมากขึ้นอีกหนึ่ง จึงสมควรที่จะได้รับของขวัญชิ้นนี้ได้แล้ว
มันเป็นสิ่งที่ทั้งคุณพ่อคุณแม่ได้ช่วยกันประคับประคองสานความสัมพันธ์ในระดับหนึ่งเหมือนที่ได้คุยกันกันตอนจะแยกทางกันว่า การที่ผู้ใหญ่สองคนต้องแยกทางกัน ขอให้เป็นเรื่องของผู้ใหญ่เท่านั้น แต่สำหรับลูกแล้ว เขาต้องยังมีทั้งคุณพ่อคุณแม่ไม่ให้ขาด
แล้วเราสองคนก็ช่วยกันจนมันมีวันนี้ เลิกกันแล้วใช่ต้องเกลียดกัน เป็นศัตรูกัน จากกันด้วยดีและสำนึกว่ายังมีหน้าที่สำคัญที่ต้องทำให้ลูกจึงจะถูกต้อง ที่เราสองคนทำสิ่งนี้ได้สำเร็จก็เพราะ.....ทั้งคุณพ่อคุณแม่รักลูกรักน้องโมมากๆ มากจนทำอะไรก็ได้ให้กับลูก
ขอเพียงให้เป็นความสุขของเธอ
แตงโม....ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์
ลูกสาวสุดที่รักคนนี้"
ก่อนคุณพ่อโสจะจากไปเมื่อ 19 ก.ย. 2563 จากโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก ระยะที่ 4 หลังวันเกิดแตงโมเพียง 3 วัน เป็นการเสียเสาหลักที่แตงโม นิดา รักสุดดวงใจ ไปอย่างไม่มีวันกลับ โดยแตงโมยกให้พ่อโสเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวที่สมบูรณ์แบบและเป็นต้นแบบที่ดีมากๆ ในชีวิตของเธอ
แม้ตามหน้าสื่อ แตงโมจะมีภาพลักษณ์เป็นคนตรงและแรง แต่กลับมีหลายเรื่องราวหลายมุมที่ไม่เคยถูกเปิดเผยหรือนำเสนออกสื่อ โดยเฉพาะเรื่องการรับอุปการะเด็กกำพร้าเป็นลูกบุญธรรม 2 คน ผ่านมูลนิธิศุภนิมิต เป็นเวลากว่า 15 ปี จนเด็กทั้งสองคนได้จบการศึกษาจากโครงการดูแลของมูลนิธิฯ ไปแล้ว
รวมถึงน้องอีสเตอร์ ลูกสาวของกระติก อิจศรินทร์ ผู้จัดการส่วนตัวและเพื่อนสนิทของแตงโม ที่เจ้าตัวรับเป็นลูกบุญธรรมอีกคน แตงโมให้ทั้งความรักและการดูแลน้องอีสเตอร์ ราวกับเป็นแม่แท้ๆ
มันมีความรู้สึกซาบซึ้ง เห็นความมหัศจรรย์ของมนุษย์ ที่พระเจ้าทรงสร้างให้ผู้หญิงมีสรีระในการอุ้มท้องได้ แต่ก็คงไม่เท่าคุณกระติกที่เขาคลอดออกมาเองมันมีสายใยแห่งสายเลือด เขาเป็นแม่คอยให้นม มีสายใยความผูกพันที่เป็นแม่ลูกโดยกำเนิด แต่ของโมจะเป็นคุณแม่เสริมที่คอยอำนวยความสะดวก
"อีสเตอร์เป็นเด็กที่เลี้ยงง่ายมากเลยค่ะ ต้องขอบคุณพระเจ้า เราโชคดีมากๆ ที่น้องไม่ร้องเลยนอกจากหิว ไม่งอแง ตอนแรกก็กังวลว่าจะมีเด็กจำนวนนึงที่เป็นโคลิก ร้องเป็นประจำทุกเวลานี้ในทุกวัน ตอนแรกเราก็กลัวเพราะมีลูกพี่สาวที่เป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาก็เป็นเหมือนกัน เรากลัวว่าถ้าเป็นแบบนั้นจะทำอย่างไร เราไม่รู้ว่าเขาต้องการอะไร ไม่รู้จะรับมือยังไง แต่สรุปว่าไม่เป็น ไม่งอแงเลย
ค่อนข้างติดนะคะ แต่โมไม่ค่อยแสดงออกเท่าไหร่ คิดถึงอยู่ตลอดๆ วันๆ ก็เปิดแต่คลิปลูกดู กลับบ้านเร็ว นอนเร็ว ชาร์ตตัวเอง ถ้าน้องตื่นเมื่อไหร่เราต้องพร้อมเสมอ ทำงานเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยได้ไปห้างเท่าไหร่ เพราะว่าจะรีบกลับบ้านไปหาลูกอย่างเดียว
ทั้งโมและกระติกจะต้องใจเย็นขึ้น เพราะเด็กไม่สามารถพูดได้ เราต้องเล่นเกมทายใจ ต้องอดทนกับการหาสาเหตุว่าเป็นเพราะอะไร คอยสังเกต เราอยากจะเป็นคุณแม่ที่ดีค่ะ พัฒนาตัวเองและอยากมีศักยภาพในการดูแลน้องที่ดี และเริ่มวางแผนอะไรในระยะไกลมากขึ้น เพิ่มความมั่นคงให้ตัวเองอย่างรวดเร็ว โมเชื่อว่าสัญชาตญาณความเป็นแม่ทุกคนเป็นแบบนี้แน่นอน คือแม่ของน้องเป็นคนสนิทของโม รู้จักกันมาสิบกว่าปีแล้ว เรียกง่ายๆ ว่าเป็นเพื่อนแท้ ไม่ใช่แค่เพื่อนเที่ยว เราอยู่บ้านเดียวกันมานานมาก จะมีบางช่วงที่แยกกันอยู่ พอต่างคนต่างมีแฟนก็แยกกันไปอยู่กับแฟน พอตอนนี้ไม่มีแฟนก็กลับมาอยู่ด้วยกัน
ลูกเขาก็เหมือนลูกเราค่ะ ในเรื่องของเอกสารเป็นแค่กระดาษ ไม่ได้อยากเป็นเจ้าข้าวเจ้าของใคร เพราะลูกกับแม่เขาเกิดมาจากสายเลือดเดียวกัน ไม่ได้ต้องการยึดลูกใครมาเป็นของตัวเอง พอเขาโตมาเขาก็มีแม่คนเดียวนั่นแหละเพียงแค่โมเป็นแม่ด้วยความรู้สึกด้วยหัวใจ ก็จะดูแลเขาไปเรื่อยๆ จนกว่าเขาจะไม่ต้องการ
เมื่อก่อนอยากมีลูกของตัวเองค่ะ แต่พอมีอีสเตอร์แล้ว เขาเติมเต็มได้ครบถ้วนเลย น่ารักมากจริงๆ คุณพ่อก็หลงมาก ตอนนี้ต่อเติมบ้านอยู่เพื่อให้น้องได้มีพื้นที่ได้เล่นในอนาคตด้วย"
คำสัมภาษณ์ของแตงโม นิดา ถึงลูกสาวบุญธรรมที่รักยิ่งในวันที่เธอยังมีชีวิตอยู่ ยิ่งไปกว่านั้นยังสักชื่อของลูกสาวไว้บริเวณข้อมือ เพราะเธอภาคภูมิใจที่ได้รักและดูแลลูกสาวตัวน้อยคนนี้มาก พร้อมแชร์โมเมนต์น่ารักๆ ของตนและลูกสาวออกมาให้แฟนๆ ได้เห็นเป็นประจำอีกด้วย
แต่น่าเสียดายที่วันนี้แตงโม นิดา จากโลกนี้และลูกสาวไปแล้วถึง 3 ปี ไม่เช่นนั้น เราคงได้เห็นภาพน่ารักๆ ของแตงโม ในฐานะแม่ดูแลลูกสาวอย่างดีที่สุดจนถึงตอนนี้อย่างแน่นอน
Advertisement