เมื่อวันที่ 11 พ.ย.64 นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ในฐานะอดีต กกต. ได้ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว กรณีที่นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กกต. ตกเป็นข่าวว่ามี ตู้แช่ไวน์ ตั้งอยู่ในห้อง จนก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากประชาชน
นายสมชัย เผยว่าเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา นายฐิติเชฏฐ์ นุชนาฏ กกต. ได้โทรมาหาตนเพื่อชวนกินข้าวด้วยกันที่ศูนย์ราชการ และจะเปิดตู้ไวน์ในห้องให้ดู ว่าข้างในเป็นน้ำผลไม้เพื่อไว้รองรับแขกที่มาเยี่ยมเท่านั้น
นายสมชัย กล่าวว่า ตอนแรกตนไม่อยากมา เพราะต้องขับรถไกลถึง 20 กม.กว่าจะมาถึงศูนย์ราชการ แต่นายฐิติเชฏฐ์ยังยืนยันให้มากินข้าวด้วยกัน เพื่อจะเปิดตู้ไวน์ให้ดู ตนจึงบอกว่าถ้าไปจะขอไลฟ์สดในเฟซบุ๊กด้วย แต่เช้าวันนี้นายฐิติเชฏฐ์ได้โทรมาหาตน บอกว่าไม่อนุญาตให้ไลฟ์สด เพราะถือเป็นห้องส่วนตัว ใครจะไลฟ์ได้ยังไง แค่ชวนมากินข้าวเฉยๆ ซึ่งนายฐิติเชฏฐ์บอกว่าถ้าตนจะไลฟ์สดคงไม่ให้ขึ้นมาที่ห้องทำงาน ทำให้ตนไม่ได้ขึ้นไปต้องไปนั่งรับประทานข้าวคนเดียวที่ศูนย์อาหาร
นายสมชัย เผยอีกว่า โดยส่วนตัวตนไม่เคยเห็นว่านายฐิติเชฏฐ์ดื่มเหล้า หรือไวน์ และสูบบุหรี่ ตอนไปงานเลี้ยงหรือประชุมจะเห็นดื่มแต่น้ำอัดลม โดยนายฐิติเชฏฐ์ ยืนยันในตู้เป็นน้ำผลไม้ไว้สำหรับรับแขกเท่านั้น ที่บ้านมีตู้แช่ไวน์สองตู้จึงยกมาไว้ที่ทำงานหนึ่งตู้เพื่อแช่น้ำผลไม้ อย่างไรก็ตาม ถ้าจะให้ตนแนะนำก็อยากจะบอกว่า แม้จะตู้เปล่าก็ไม่ควรนำมาตั้ง เพราะ กกต.เป็นบุคคลสาธารณะ อะไรที่ทำให้สังคมสงสัยต้องเอาออก เพราะคนอาจสงสัยได้ว่าเป็นน้ำผลไม้หรือน้ำเปล่า
สำหรับประเด็นที่พูดต่อกันว่าถึงแม้จะเป็นตู้ไวน์ส่วนตัว แช่น้ำผลไม้แต่ก็ใช้ไฟของหลวง นายสมชัยบอกว่า สิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ของแต่ละหน่วยงานราชการว่าจะเข้มงวดแค่ไหน ยกตัวอย่างในอดีต กระทรวงสาธารณสุข ยังเคยออกกฎห้ามบุคลากรใช้ไฟชาร์จแบตโทรศัพท์มือถือหรือโน้ตบุ๊ก ก่อนจะประกาศยกเลิกภายหลัง ซึ่งส่วนตัวมองว่าขึ้นอยู่กับว่าความเหมาะสมของการใช้งาน หากเป็นตู้เย็นในการใช้แช่น้ำเย็นก็อย่าไปเคร่งครัดมากเกินไป เพราะบางทีคนทำงานก็อยากดื่มน้ำเย็นๆ หรือหากมีทีวีในห้องเพื่อติดตามข่าวสารก็ถือว่าไม่มากเกินไป แต่สำหรับตู้แช่ไวน์ตนมองว่าเกินงาม เกินความพอดี เพราะราคาสูงกว่าตู้เย็นมาก และต้องใช้ไฟในการควบคุมอุณหภูมิ ซึ่งเรื่องนี้ต้องระมัดระวัง กกต.ถือเป็นองค์กรอิสระ ต้องประพฤติตนอย่าให้สังคมคลางแคลงใจ เกิดความสงสัยได้
Advertisement