“ไพบูลย์” ชี้คำวินิจฉัยศาลปมนายกฯ 8 ปีไร้ข้อกังขา โว 38 วันที่ผ่านมาพิสูจน์ฝีมือ “บิ๊กป้อม” แบ่งเบางาน“บิ๊กตู่” ได้ เชื่อรัฐบาลอยู่ครบวาระ
วันที่ 1 ต.ค. นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมาก 6 ต่อ 3 เห็นว่าความเป็นนายกรัฐมนตรีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยังไม่สิ้นสุดลง ว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้วินิจฉัยข้อกฎหมายไว้ชัดเจนครบทุกประเด็น และคำวินิจฉัยมีผลผูกพันทุกองค์กร หลังจากนี้ไปพล.อ.ประยุทธ์ สามารถทำงานเดินหน้าไปได้อย่างต่อเนื่อง ส่วนของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นเรื่องดีอยู่แล้ว เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ ก็เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคพปชร.
“ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลา 38 วันที่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ไป แต่การทำงานของรัฐบาลยังมีความต่อเนื่อง เพราะผู้ที่ทำหน้าที่รักษาราชการนายกรัฐมนตรี คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคพปชร. ท่านปฏิบัติหน้าที่และดำเนินการไปในแนวทางเดียวกับพล.อ.ประยุทธ์ พิสูจน์ให้เห็นว่าพล.อ.ประวิตร มีความพร้อมที่จะช่วยแบ่งเบาภาระท่านนายกฯได้ นายไพบูลย์ กล่าว
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านเตรียมเสนอญัตติการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 หลังเปิดประชุมสภาฯ นายไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นสิทธิของฝ่ายค้านที่จะดำเนินการ เป็นสิทธิที่ทำได้โดยพรรค พปชร.ไม่มีความหวั่นไหว ถ้าเปิดอภิปรายจริงก็ไม่มีปัญหาใด
ส่วนกรณีที่มีการคาดการณ์ว่าหลังประชุมเอเปคจะยุบสภาฯ นายไพบูลย์ กล่าวว่า หลังการประชุมเอเปคคือช่วงเดือนพฤศจิกายน 2565 ไปจนถึงเดือนมีนาคม 2566 ที่สภาฯจะครบวาระ ซึ่งจะเกิดขึ้นเดือนใดยังไม่รู้ แต่เชื่อว่าพล.อ.ประยุทธ์ อยากอยู่จนครบวาระหรือใกล้ครบวาระมากที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำความเข้าใจคือหากจะมีการเลือกตั้ง ควรรอให้ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมืองและร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลใช้บังคับก่อน ซึ่งกว่าจะผ่านศาลรัฐธรรมนูญคาดว่าประมาณเดือนพฤศจิกายน หากไม่มีปัญหาจะเข้าสู่กระบวนการนำขึ้นทูลเกล้าฯ น่าจะประมาณธันวาคมหรือมกราคม จึงมีกฎหมายได้ ดังนั้น รัฐบาลน่าจะอยู่ครบวาระหรือใกล้ครบวาระของสภาฯมากที่สุด ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายมากที่สุด
Advertisement